ผวาตะเคียนเฮี้ยน 2 เดือนทำคนตายนับสิบ ญาติไม่เชื่ออาถรรพ์โต้แค่ไก่ตัดหน้ารถล้ม (คลิป)

กรณีชาวบ้านบางส่วนไม่เชื่อว่า คนในหมู่บ้านตายติดกันหลายคนเกิดจากสิ่งลี้ลับ หลังจากนำเจ้าแม่ตะเคียนขึ้นจากน้ำ เป็นเพราะอาถรรพ์ของเจ้าแม่ตะเคียน ซึ่งขุดเจอเมื่อวันที่ 10 เม.ย.63 และอัญเชิญขึ้นวันที่ 20 เม.ย.63 ที่ผ่านมา 

วันที่ 2 ก.ย. 63 บรรยากาศในพื้นที่ชาวบ้านกำลังวิพากษ์วิจารณ์ กรณีความเชื่อของชาวบ้านบางกลุ่ม ที่เชื่อว่าการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นติดต่อกันในหมู่บ้านนั้น จากอาถรรพ์แม่ย่ามัจฉาวารีตะเคียนทอง ซึ่งชาวบ้านหมู่ 7 และหมู่ 12 ได้อัญเชิญขึ้นมาจากแม่น้ำยม ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 นั้น ซึ่งอายุของต้นตะเคียนมากกว่า 500 ปี

จนถึงปัจจุบันชาวบ้านได้โชคลาภจากแม่ตะเคียนกันมาอย่างต่อเนื่อง มีผู้คนในพื้นที่และต่างถิ่นเข้ามากราบไหว้ขอพร ขอโชคลาภกันไม่ขาดสาย ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมานั้น

ทั้งนี้ ชาวบ้านฮือฮาหลังมีข่าวออกเรื่องแม่ตะเคียนแสดงอภินิหารทำให้คนตายติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในงานศพต่างเล่าขานเรื่องอภินิหาร ทำให้ชาวบ้านบางกลุ่มที่นับถือแม่ตะเคียนต่างไม่พอใจ และบอกว่าตั้งแต่ได้แม่ตะเคียนมาชาวบ้านถูกหวยกันตลอด ไม่เชื่อว่าจะเป็นเหตุทำให้คนตายได้

จากการสอบถามชาวบ้าน บอกว่ายังคงนับถือเจ้าแม่ตะเคียน คงมีเพียงบางส่วนที่คิดว่า ที่มีคนตายติดต่อกันนั้นเกิดจากอาถรรพ์ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน เป็นความเชื่อส่วนบุคคลจะเหมารวมไม่ได้ การเสียชีวิตของคนในหมู่บ้านบางคนประสบอุบัติเหตุ บางคนก็เจ็บไข้

โดยที่ผ่านมา ทั้ง 2 หมู่บ้านเริ่มมีชาวบ้านเสียชีวิตลงในระยะเวลาใกล้เคียงกัน โดยเดือน พฤษภาคม มิถุนายน และ กรกฎาคม มีชาวบ้านเสียชีวิต เดือนละ 3 รายในเวลาใกล้กัน ล่าสุดเดือนสิงหาคม มีผู้เสียชีวิต 4 คนในเดือนเดียว รวม 4 เดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 13 ศพ

นายอุ่นเรือน เข็มทอง อายุ 80 ปีชาวบ้านหมู่ 12 ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าเรื่องการตายของชาวบ้านมันก็เป็นธรรมดาเป็นชะตากรรมของแต่ละคนซึ่งหมดอายุขัยล้วนแล้วแต่เหตุของใครของคนนั้นและไม่เชื่อว่าแม่ตะเคียนจะเป็นต้นเหตุของการตายแต่อาจจะคิดอีกแง่ในของตนนั้นคิดว่าน่าจะเป็นมาจากป่าช้าซึ่งมีการปรับปรุงซ่อมแซมทำงานในป่าช้าทำให้มีคนตายมากกว่าเพราะบางครั้งคิดว่าไม่เป็นอะไรทำงานให้ชาวบ้านส่วนตัวเองแล้วคิดว่าน่าจะเป็นป่าช้ามากกว่าควรจะให้มีการทำบุญอาจจะส่งผลดีขึ้นนายอุ่นเรือนกล่าว

นางบุญมี สถานป่า อายุ 68 ปี ญาตินางไข่ สุภี ที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 63 บอกว่า ตนไม่เชื่อว่าที่นางไข่ตายไปเพราะอาถรรพ์เจ้าแม่ตะเคียน แต่เป็นเพราะอุบัติเหตุรถล้มเองจากไก่เดินตัดหน้ารถ ส่วนเจ้าแม่ตะเคียนที่เชิญมาตั้งที่วัดนี้ มีแต่ให้โชคลาภ และไม่เชื่อว่าเป็นหตุผลที่ทำให้ชาวบ้านตายติด ๆ กัน และไหลตาย แต่หลังจากที่มีคนในหมู่บ้านตายจำนวนมาก ทางหมู่บ้านก็จะมีการทำบุญหมู่บ้าน เพื่อคามสบายใจของทุกคน

ด้านพระภิรมย์ โชติปัญโญ รักษาการเจ้าอาวาส บอกว่า ตั้งแต่นำต้นตะเคียนขึ้นมาตั้งที่วัด ทางวัดไม่ได้บอกหรือประกาศว่านี่คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์และไม่ได้โฆษณาชวนเชื่อ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งการที่ชาวบ้านมากราบไหว้ขอโชคลาภทางวัดก็ห้ามไม่ได้ ที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้ว่าคนในหมู่บ้านตายเพราะเจ้าแม่ตะเคียนก็ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลเช่นกัน

นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล เจ้าของเพจคุณหมอสตอรี่ กล่าวถึงประเด็นการเป็นโรคไหลตายว่า ทางการแพย์เรียกว่าโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน มักจะเกิดในคนไทยภาคอีสานและภาคเหนือ และผู้ที่เป็นโรคนี้จะไม่รู้ตัวมาก่อน ซึ่งสาเหตุเกิดจากการขาดเกลือแร่โพแทสเซียม ซึ่งเกลือแร่ตัวที่มีผลต่อการบีบตัวของหัวใจ เมื่อหัวใจไม่บีบตัว เลือดก็จะไม่ส่งผลไปเลี้ยงร่างกาย เมื่อเลือดไม่ไปเลี้ยงสมอง สมองก็จะขาดออกซิเจน เกิดอาการแขนขาชักเกร็ง หายใจเสียงดัง ปัสสาวะ อุจจาระราด ริมฝีปากคล้ำเขียว ส่งผลให้เสียชีวิตได้

ซึ่งผู้ที่ขาดเกลือแร่โพแทสเซียมจะเกิดจากคนที่ชอบทานอาหารรสจัด ของหมัดดอก ปลาร้า ปลาส้ม ปลาแจ่ว แหนม และอีกสาเหตุหนึ่งคือการขาดวิตามินบี 1 อย่างเฉียบพลับ เช่น พวกที่ชอบดื่มสุรามาก ๆ และไม่ค่อยรับประทานอาหาร

ด้านพระมหาไพรวัลย์ วรวรรณโณ พระนักคิดนักเขียน วัดสร้อยทอง ระบุว่า "ชาวบ้านจะไปขุดขึ้นมาทำไม เพื่ออะไร เขาอยู่ในน้ำก็ดีอยู่แล้ว มันไม่มีประโยชน์อะไร"