จากกรณีตำรวจและฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีการปลุกเสกกูมาร แล้วมีการใส่ผงกระดูกผี หลังจากผ่านพิธีแล้ว มีการส่งออกต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน เวียดนาม และเขมร ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 3 ก.ย.63 เพจเฟสบุ๊ก "เจ๊ม้อย v+" ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจว่า ที่อาจารย์คนดังกล่าวมีการกล่าวว่า เลิกรับทำปลุกเสกกุมาร โดยการใส่ผงกระดูกผีตายโหงแล้วนานนับปี เป็นเรื่องกุขึ้น เนื่องจากมีคนเห็น และมีภาพหลุดออกมา ภายในโพสต์ระบุข้อความว่า ช่วงวันที่ 6 ก.ค.63 อาจารย์รายนี้ ยังมีการนำของไปส่งให้กับลูกค้า พร้อมปลุกเสกในช่วงกลางดึกหลุดออกมา ทำให้มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
ทีมข่าวเดินทางไปที่สำนักอาจารย์หมี บริเวณพื้นที่คลอง 8 จ.ปทุมธานี เมื่อไปถึงสำนักของอาจารย์หมี หรือนายธฤต เพชรทอง ผู้ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง และทำพิธีปลุกเสกกุมารผงกระดูกผีส่งออก ดังกล่าวอีกครั้ง เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นที่มีเพจต่าง ๆ นำเรื่องราวของตนไปแชร์ในโซเชียลฯ หวังจะให้ตนเสื่อมเสียนั้น ตนยืนว่าที่เพจมีการให้ร้ายไม่เป็นความจริง
กรณียังไม่เลิกปลุกเสกกุมาร โดยผสมกระดูกผีตายโหง ตนยืนยันว่าเลิกทำมานานหลายปีแล้ว ซึ่งภาพที่ปรากฏในเพจว่า วันที่ 6 ก.ค 63 ตนมีการไปทำพิธีในเมรุวัด หรือนำกระดูกนำไว้ท้ายรถ ตนยืนยันว่าเป็นภาพของตนจริง แต่เป็นภาพเก่าที่ถ่ายมานานหลายปีแล้ว
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตนต้องหยุดทำ เพราะถูกโกงเงินค่าปลุกเสก จึงถูกทางเพจออนไลน์ของเพื่อนบ้านเคยขู่เอาไว้ว่า หากไม่ทำส่งต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้ตนเดือดร้อนและเสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงมีความคิดว่า การที่มีเพจดังในไทยนำรูปภาพและเรื่องราวของตนมาโพสต์ให้กลายเป็นประเด็น และได้รับความเดือนร้อน เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ตนจึงเชื่อว่า เพจดังกล่าวที่เอ่ยไปข้างต้น อาจจะรู้จักและร่วมมือกันสร้างความเดือนร้อนให้ตนหรือไม่
นอกจากนี้กรณีที่มีคนพบเห็นตนเผาอะไรอยู่บริเวณหลังบ้าน คิดกันไปเองว่าตนเผากระดูกเพื่อทำลายทิ้ง ยืนยันว่าไม่จริง ที่ตนเผาเป็นพวกเศษขยะ-ใบไม้ก็เท่านั้น ไม่ได้นำกระดูกผีมาเผาทำลายทิ้งอย่างที่เข้าใจกัน อีกทั้งหากคิดว่าตนจะเก็บกระดูกไว้ในบ้าน ตนไม่นำมาเก็บไว้ในบ้านแน่นอน เนื่องจากของที่ตนเรียนมาและนำมาปลุกเสก เป็นของที่ทำมาจากมนตร์ดำ ตนจึงนำมาเก็บไว้ในบ้านไม่ได้ เพราะภายในบ้านมีพ่อ-แม่ หากนำมาเก็บไว้ก็จะทำให้คนในครอบครัวร้อนรุ่มไปตามกัน
อย่างไรก็ตาม ตนจึงอยากให้เพจต่าง ๆ ที่นำตนไปแชร์ อะไรที่ไม่ดีตนอยากขอให้ลบ เพราะที่นำไปโพสต์กันนั้นไม่ได้เป็นความจริง และเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับตนอีกด้วย หากทางเพจยังไม่เลิกโจมตี ก็จะไม่เลิกทำหุ่น แต่จะไม่ทำโดยการใช่ผงกระดูกผี แต่ใส่เป็นว่านอาคมแทน เนื่องจากตนดังแล้ว กลายเป็นที่รู้จักจากกระแส จึงใช้ช่องทางนี้ให้เกิดประโยชน์
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี สอบถามไปยัง ทนายเกิดผล แก้วเกิด เปิดเผยว่า กฎหมายที่ว่าด้วยการเอาผิด กรณีการนำเถ้ากระดูกมาทำกุมารนั้น จะขึ้นอยู่กับญาติของผู้เสียชีวิต ว่าอนุญาตหรือไม่ ถ้ายินยอมก็ปราศจากความผิด แต่ถ้าไม่ได้รับการอนุญาต ไม่ว่าจะเป็นหมอผี สัปเหร่อ หรือผู้ที่รับจ้างแอบนำมา จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา พูดง่าย ๆ คือ ใครเอามา คนนั้นผิด
มาตรา 366/3 ผู้ใดโดยไม่มีเหตุอันสมควร ทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งศพ ส่วนของศพ อัฐิ หรือเถ้าของศพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับ "เเจ็ค กุมารทอง" กล่าวว่า ตุ๊กตาที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ เรียกว่าตุ๊กตาผี เป็นสิ่งที่มีมาตั้งเเต่โบราณ คล้าย ๆ กับกุมารทอง คือ ช่วยเรื่องค้าขาย เงินทอง เสี่ยงโชค เเต่จะเเตกต่างจากกุมารทองในเรื่องพิธีกรรมปลุกเสก เเละการดูเเล ซึ่งกุมารทองจะเป็นการปลุกเสกให้มีตัวตนขึ้น หรือเรียกง่าย ๆ ว่า สร้างตัวใหม่ขึ้นมา
เเต่ตุ๊กตาผีจะเป็นการเชิญดวงวิญญาณผีเร่ร่อน ให้เข้ามาสิงอยู่ในตุ๊กตา ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้วิญญาณผีเด็ก ดังนั้นตุ๊กตาผี จึงเป็นการนำวิญญาณที่มีอยู่เเล้วมาใช้งาน โดยจะใช้กระดูกคน เนื้อคน ผ้าห่อศพ หรือดิน 7 ป่าช้า มาเป็นมวลสารประกอบพิธี ซึ่งในสมัยโบราณจะใช้วิธีการปั้นดินให้เป็นตุ๊กตา เเล้วใช้มวลสารยัดใส่เข้าไป เเต่ปัจจุบันจะใช้ตุ๊กตาเเบบสำเร็จยัดมวลสาร ใช้เวลาปลุกเสกประมาณ 3 วัน/ตัว เเละต้องปลุกเสกทีละตัว เพราะผู้ปลุกเสกจะเป็นผู้เลือกวิญญาณ ซึ่งผู้ที่ปลุกเสกได้จะต้องเป็นผู้ที่ร่ำเรียนวิชามาจากประเทศเพื่อนบ้าน
ส่วนในเรื่องราคา ไม่สามารถระบุได้ อยู่ที่ความต้องการ เเละความพึงพอใจของผู้ซื้อ ส่วนในเรื่องตุ๊กตาที่มีหลายเเบบ เนื่องจากวัตถุประสงค์การใช้งานเเตกต่างกัน หากคนที่อยากมีลูก หรือคนที่เปิดร้านเสริมสวย ก็อาจจะบูชาตุ๊กตาเด็กผู้หญิง ส่วนคนที่ชอบเสี่ยงโชค หรือต้องผจญภัย ก็จะบูชาตุ๊กตาเด็กผู้ชาย ซึ่งตุ๊กตาผี จะควบคุมยากกว่ากุมารทอง เพราะหากดูเเลผิดวิธี หรือผิดคำสัญญา ก็จะให้โทษกับผู้ดูเเล
ส่วนในเรื่องอักขระบนตุ๊กตา เป็นการตั้งธาตุทั้ง 4 ควบคุมดวงวิญญาณ
-ยันต์ที่ศีรษะ เรียกว่า "โอม" ควบคุมศีรษะ เป็นการเปิดตาที่ 3 มีอิทฤทธิ์ ให้วิญญาณสามารถหยั่งรู้ได้
-ยันต์ที่เเขนซ้ายเเทนธาตุน้ำ
-ยันต์ที่เเขนขวาเเทนธาตุดิน
-ยันต์ที่ขาซ้ายเเทนธาตุไฟ
-ยันต์ที่ขาขวาเเทนธาตุลม
-ยันต์ตรงกลางท้องเรียกว่า "นะ" เเทนหัวใจ ควบคุมร่างกายทั้งหมด