จากกรณีนายเสน่ห์ เฟื่องฟู หรือ พรานเก่ง อายุ 42 ปี เข้าไปหาของป่าในพื้นที่ป่า ม.2 บริเวณเขาชมภู่-เขาเขียว ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. 63 และยังไม่กลับออกมาทั้งที่มีความชำนาญในการเดินป่า ญาติและชาวบ้านออกตามหาจนกระทั่งพบศพแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 4 ก.ย. 63 ทีมข่าวเดินทางมาที่ บริเวณเขาชมภู่-เขาเขียว ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองกิ่ว พร้อมเจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐาน ทีมแพทย์ ร่วมกับอาสากู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง และอาสากู้ภัยสว่างศีลธรรมสมาคมเจ้าหน้าที่กู้ภัย สว่างบริบูรณ์ เมืองพัทยา เดินทางลงพื้นที่จุดที่พบศพ ซึ่งก่อนหน้านี้กู้ภัยได้กลิ่นเหม็นเน่า
โดยจุดพบศพอยู่ฝั่งเขาชมภู่ หรือโกรกตารวย ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 1.5 กิโลเมตร และห่างจากตีนเขาประมาณ 400 เมตร ระหว่างทางเดินขึ้น-ลงต้องเดินผ่านร่องน้ำ และเดินหลบหลีกก้อนหิน พร้อมกับเดินขึ้นเนินเขาไปด้วย
สภาพศพนอนคว่ำ และเหลือเพียงกระดูก บริเวณข้อเท้าข้างขวามีรอยแตก โดยโครงกระดูกห่อหุ้มด้วยเสื้อ กางเกงขายาว รองเท้าบูธ และใกล้ ๆ กันพบปืนลูกซองยาว ส่วนกระเป๋าและโทรศัพท์มือถือที่พรานเก่งพกไปด้วย ยังหาไม่พบ ซึ่งในตอนแรกไม่พบแขน กระทั่งใช้เวลาในการพิสูจน์หลักฐานประมาณ 30 นาที ก่อนจะพบชิ้นส่วนของแขนห่างจากศพ ประมาณ 4-5 เมตร
ส่วนจุดที่พบร่องรอยการวางปืนผูกหรือกับดักของพราน ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 10 เมตร เป็นเส้นเอ็นขึงไว้กับต้นไม้ แต่ส่วนของปืนยังไม่พบ หลังจากที่ทำการพิสูจน์หลักฐานเสร็จ พ่อของพรานเก่งได้นำธูป 1 ดอก มาจุดเพื่ออัญเชิญวิญญาณลงจากเขา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาในการพิสูจน์หลักฐานตั้งแต่ เวลา 17.00 น. - 18.30 น. โดยระหว่างที่พิสูจน์หลักฐานได้ใช้ผ้าใบรอง และนำกระดาษสาจำนวน 2 แผ่นทับไว้
กระทั่งถึงเวลาที่ต้องนำศพลง เจ้ากู้ภัย 6 คนนำโครงกระดูกใส่ผ้ายาง เพื่อป้องกันน้ำเหลืองไหล ก่อนจะใช้เชือกผูกซ้ำ และนำท่อนไม้เป็นอุปกรณ์ในการแบกลงเขา โดยใช้เวลา 5.30 ชั่วโมง ระหว่างทางตะโกนเรียกชื่อพรานเก่งเป็นระยะ ตามความเชื่อให้วิญญาณออกจากป่า
นายชโรธร เนื่องจำนง อายุ 32 ปี คนที่พบโครงกระดูกคนแรก เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว - เขาชมภู่ เปิดเผยว่า วันนี้ ได้ออกเดินทางกันตั้งแต่ฝั่งหุบแม่ม่าย หรือบ้านตารุ่ง และเดินขึ้นเขาชมภู่ ประมาณ 3-4 กิโมเมตร ระหว่างทางตนสังเกตเห็นช่องว่าง คล้ายร่องรอยการเดินของคน ตนจึงเดินมาดู และพบโครงกระดูก พร้อมเรียกคนอื่นมาดูด้วย ใกล้กับศพพบปืนลูกซองยาว แต่กับดักปืนผูกตนไม่เห็น
นายเสนาะ เฟื่องฟู น้องชายของพรานเก่ง เปิดเผยว่า ตนได้ออกเดินหาตั้งแต่เช้าพร้อมกับชุดที่เจอศพ แต่เดินกันคนละมุม ซึ่งในตอนแรกที่ออกเดินหา ตนยังไม่คิดว่าจะเจอ ทั้งนี้ ตนทำใจมานานแล้ว พอเจอศพก็รู้สึกดีใจที่เจอเสียที หลังจากนี้คงจะไปแก้บน เพราะครอบครัวบนไว้หลายที่ ส่วนเรื่องของคดีความตนยังไม่ขอตอบ ขอให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจ
นายประสงค์ เฟื่องฟู อายุ 62 ปี พ่อของพรานเก่ง เปิดใจว่า วันนี้ตนออกตามหาตั้งแต่ 09.00 น. แต่เดินหาคนละชุดกัน โดยทรัพย์สินที่พบพร้อมกระดูก ตนมั่นใจว่าเป็นของลูกชายคือเสื้อผ้าและปืนลูกซองยาว ในส่วนของที่ยังไม่พบ ได้แก่ กระเป๋าสะพายหลัง ซึ่งภายในกระเป๋ามีโทรศัพท์มือถือ และมีดล่าสัตว์ หากเจอก็ดี แต่ถ้าหาไม่พบก็ไม่เป็นไร
ทั้งนี้ ตนไม่ได้ติดใจกับสาเหตุการเสียชีวิต และขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เพราะแค่ตนเจอศพลูกชาย ตนรู้สึกสบายใจ และดีใจขึ้น เนื่องจากตนอยากจะพาลูกชายกลับบ้าน ตนจะทำพิธีอัญเชิญวิญญาณ จุดธูปและเรียกให้ลูกชายกลับบ้าน ตนไม่ได้ติดใจกับสาเหตุการเสียชีวิต
นายพิทักษ์ ทูลพุทธา อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเชาเขียวเขาชมภู่ ที่เคยได้กลิ่นศพ เปิดเผยว่า วันนี้ตนติดภารกิจจึงไม่ได้ออกค้นหา แต่พอทราบเรื่องตนก็ลงพื้นที่ทันที ก่อนหน้านี้ชุดค้นหาได้ออกตามหาแม่น้ำลำธารก่อน ซึ่งเป็นที่จุดที่คาดว่าพรานป่าน่าจะเดินกัน โดยเจ้าหน้าที่เคยเดินผ่านพื้นที่บริเวณจุดที่พบศพ ซึ่งห่างจากจุกที่พบประมาณ 200 เมตร และทุกคนเคยได้กลิ่นเหม็นเน่า แต่กลิ่นอ่อนกว่านี้ อีกทั้งทุกคนยังหาไม่เจอ เพราะฝนตกกลิ่นจึงหายไป และบริเวณใกล้เคียงจุดที่พบศพ หญ้าค่อนข้างจะรก จึงเข้ามาลำบาก
ทั้งนี้ เจ้าหน้าตำรวจ สภ.คลองกิ่ว ให้ข้อมูลว่า คาดว่าน่าจะถูกปืนผูกเกี่ยวขา พยายามหลบหนีแต่เสียเลือดมาก จึงเป็นเหตุให้เสียชีวิต จากนี้ต้องติดตามตัวเจ้าของปืนและปืนกระบอกดังกล่าวก่อน
นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนได้มาที่บริเวณป่าเพื่อพิสูจน์และบอกกับญาติของพรานเก่งว่าไม่ได้อยู่ในป่าแล้ว และยังไม่เสียชีวิตแน่นอน ตนขอโทษครอบครัวของพรานเก่ง และอธิบายถึงเหตุผลที่เกิดจากการลงพื้นที่แต่ไม่สัมผัสวิญญาณของปราณเก่งได้ จึงยืนยันว่าพรานเก่งไม่ได้อยู่ในป่าและยังไม่เสียชีวิตนั้น จากการดูภาพของพรานเก่งที่เสียชีวิตขณะที่ไปพบภายในป่านั้นมีลักษณะผูกผ้า ผูกมัดอยู่ที่ข้อเท้า และทราบเบื้องต้นว่าถูกยิงเข้าที่ขา เป็นลักษณะการเสียชีวิตแบบผูกพันธนาการ คือการตายแบบถูกมัดถูกกักขัง อันเป็นการตายจากอาวุธของตนเองหรือพวกตนเอง ในลักษณะของถูกกับดักที่ใช้ล่าสัตว์ แล้วย้อนกลับมาทำร้ายตนเอง ลักษณะหมองูตายเพราะงู แม้แต่ดวงวิญญาณก็ไม่รู้ว่าตัวเองได้ตายแล้ว จึงทำให้ตนไม่สามารถสัมผัสได้
แม้วันนี้ ขณะที่ตนดูภาพถ่ายของพรานเก่งก็ยังสัมผัสไม่ได้ว่าตายแล้ว ยังเชื่อว่ามีชีวิตอยู่ เพราะไม่สามารถสัมผัสได้ เนื่องจากวิญญาณหรือลักษณะการตายเป็นการตายแบบถูกพันธนาการ จึงอยากแนะนำครอบครัวของพาลเก่งให้ไปหาผู้รู้ช่วยทำการปลดปล่อยจากพันธนาการ หรือหากไม่สามารถหาผู้รู้ได้ ตนเองก็พร้อมที่จะลงพื้นที่ไปช่วยปลดปล่อยวิญญาณ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีร่างทรงและพระที่ทำนายไว้ โดยร่างทรงอากง ระบุไว้วันที่ 31 ส.ค. 63 ว่าพรานเก่งไปอยู่กับภรรยาคนที่ 2 ใน จ.ระยอง และยังมีชีวิตอยู่ ส่วนหลวงพ่อวิญญู ทำนายไว้วันที่ 31 ส.ค. 63 ว่าเจ้าป่าเจ้าเขาบังตาพรานเก่งอยู่ ซึ่งยังไม่เสียชีวิต แต่ปรากฏว่าวันนี้พบศพพรานเก่งเป็นศพ เหลือแต่โครงกระดูกบนป่า