จากกรณีที่มีคนมาพบศพนางรติการ์ เกียรติก้องนนท์ อายุ 42 ปี ชาวตำบลห้วยทราย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เศรษฐีนีเจ้าของร้านขายอาหารแห้งในตลาดศรีวารี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตในสภาพสวมใส่ชุดนอนสีน้ำเงิน อยู่กับพื้นในห้องนอนภายในบ้าน หมู่ที่ 3 ถนนซอยวัดศรีวารีน้อย ตำบลศีรษะจระเข้น้อย อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 1 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา
วันที่ 5 ก.ย. 63 เวลา 10.15 น. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วยชุดสืบสวน แถลงข่าวหลังจับกุมผู้ต้องหา นายพิทักษ์ อู่ตุ้ม หรือ กิมจิ อายุ 47 ปี จับกุมได้ที่ภายในชุมชนมอญ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
ส่วนของกลางเป็นทรัพย์สินของผู้ตาย ได้แก่ สร้อยคอทองคำรูปพรรณ หนัก 4 บาท 1 เส้น, สร้อยคอทองคำ จำนวน 3 เส้น, แหวนทอง 4 วง น้ำหนักรวม 7 บาท มูลค่าเกือบ 2 แสนบาท และเงินสด
พล.ต.ท.อำพล ได้เดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายพิทักษ์ อู่ตุ้ม ผู้ต้องหา เข้าไปพูดคุยสอบถามรายละเอียดอีกครั้ง โดยนายพิทักษ์ได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมกับอ้างว่าวันที่เกิดเหตุผู้ตายได้ด่าทอและตบตี จึงเกิดบันดาลโทสะ ใช้แขนข้างขวารัดคอแล้วหนีไป ไม่ได้ตั้งใจฆ่า และไม่ได้กลับไปขายผักที่ตลาด
ทั้งนี้ ขณะที่หนีไปนั้นไม่มีจุดมุ่งหมาย ผ่านจังหวัดกาญจนบุรีได้หยุดพัก และไปเช่าบ้านนอน ส่วนทองที่ได้ขโมยไป ก็ไม่ได้เอาไปขาย
พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีทางครอบครัว ทั้งคู่อยู่ด้วยกันมา 2 ปี ไม่เคยมีปัญหา แต่ช่วงที่ผ่านมามีการทะเลาะ และเกิดบันดาลโทสะ จากนั้นได้หลบหนีไปกาญจนบุรี โดยใช้เวลาเดินทาง 4 ชม. อย่างไรก็ตามผู้ต้องหารับทราบตลอดทั้งหมด พร้อมแสดงความเสียใจกับทางญาติผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการโดยไม่ทำแผนฯ
ด้านนายปรีดา เชื้อผู้ดี น้าของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนขอความเป็นธรรมให้กับผู้ตายที่ถูกผู้ต้องหากล่าวอ้างว่ามีการทุบตีทุกครั้ง ซึ่งผู้ตายไม่ได้มีพฤติกรรมโหดร้ายอย่างที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเข้ามาในชีวิตของผู้ตาย เพราะเห็นว่าผู้ตายมีเงิน ทางครอบครัวก็ไม่ไว้ใจ แต่เห็นว่าผู้ตายรักจึงไม่ได้ห้ามปราม ผู้ต้องหาหลอกลวงผู้ตายว่าไม่มีลูก แต่พอสักระยะเริ่มเปิดเผยว่ามีลูกอยู่แล้ว 3 คน ตนเชื่อว่าผู้ต้องหาและผู้ตายทะเลาะกันเรื่องเงิน เพราะผู้ต้องหาน่าจะขอนำทองไปจำนำเพื่อจะนำไปเล่นการพนัน ซึ่งผู้ตายเป็นคนตระหนี่เก็บเงินอดออม อย่างไรก็ตาม ครอบครัวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมตัวได้
ทีมข่าวเดินทางมาที่ตลาดศรีวารีที่ผู้ตายและผู้ต้องหาเคยขายของอยู่ นางฝันจิตร อายุ 70 ปี แม่ค้าขายผัก เปิดเผยว่า หลังจากตนทราบข่าวการเสียชีวิต ยอมรับว่าตกใจไม่คิดว่านายกิมจิจะฆ่าผู้ตาย เพราะที่ผ่านมาผู้ตายจะด่าทอและใช้ไม้พัดวีแมลงวันทุบตีนายกิมจิ แต่ตนไม่ทราบว่าทั้งคู่ทะเลาะเรื่องอะไรกัน เนื่องจากต่างคนต่างขายของ แต่สักพักทั้งคู่ก็ดีกัน ตนมองว่าลักษณะนิสียนายกิมจิดูสุภาพ ไม่เถียงผู้ตาย แต่ผู้ตายน่าจะมีอารมณ์ที่โมโหร้าย
นอกจากนี้ ก่อนเกิดเหตุ นายกิมจิยังได้มาขายของที่แผง 2 วัน จากนั้นได้หายไปจนถึงทุกวันนี้ ส่วนสาเหตุที่ได้ลงมือกระทำนั้นตนคิดว่าน่าจะเก็บกดที่ถูกด่าทอ ถึงได้พลั้งมือกระทำไป อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ทุกคนพูดจาดี ๆ กับครอบครัว
ด้านนายบี (นามสมมติ) แฟนเก่าของผู้ตาย เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการควบคุมตัวนายกิมจิได้นั้น ตนเองดีใจที่ตำรวจทำงานได้รวดเร็ว โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเปิดเผยถึงสาเหตุการก่อเหตุฆาตกรรม ส่วนตัวก็อยากจะฟังจากปากของเจ้าตัวว่ามีเหตุผลอะไร ซึ่งถ้าหากตำรวจพาตัวมา ตนเองก็จะรีบไปที่โรงพักโดยทันที เพราะต้องการอยากจะประเชิญหน้าและสอบถามเจ้าตัวด้วยตัวเอง
หากวันพรุ่งนี้มาถึง วินาทีแรกที่ตนกับนายกิมจิเจอหน้ากัน ตนก็อาจจะเผลอกระทำอะไรบางอย่างด้วยความโมโหก็ได้ แต่ก็จะพยายามควบคุมอารมณ์ เพราะไม่เช่นนั้นตัวเองก็จะกลายเป็นถูกแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายอีก และในวันพรุ่งนี้ญาติของผู้ตายทั้งหมดก็จะเดินทางมาดูหน้าของคนก่อเหตุด้วย
ทั้งนี้ ตนอยากฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งให้ความเป็นธรรมกับครอบครัว และให้ความเป็นธรรมกับคนตายด้วย
สำหรับไทม์ไลน์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 63 นายกิมจิถูก น.ส.รติการ์ ทำร้ายด้วยไม้กวาด จึงเก็บกด และพลั้งมือฆ่าฝ่ายหญิง วันรุ่งขึ้นแม่ค้าในตลาดเห็นว่านายกิมจิมาขายของที่ตลาดคนเดียว และมีท่าทีเรียบเฉย ต่อมาวันที่ 30 ส.ค. 63 เพื่อนบ้านพบวิญญาณของผู้เสียชีวิตมาทำสวนอยู่ที่หน้าบ้าน
จากนั้น เจ้าหน้าที่พบศพ น.ส.รติการ์ ในวันที่ 1 ก.ย. 63 กระทั่งวันที่ 4 ก.ย. 63 เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวนายกิมจิมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่เจ้าตัวกำลังจะหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน