"ปุ๊ ปิยะมาศ โมนยะกุล" อดีตดารานักแสดงที่เคยรับบทนางเอกหลายเรื่องของผู้กำกับ "กำธร ทัพคัลไลย" หลังเกษียณมาหลายปี ปัจจุบันวัย 67 ปี แสวงหาความสุขใจด้วยการทำกิจกรรมกับกลุ่ม "คนร่วมทาง” ที่นำโดย สุเทพ ประยูรพิทักษ์ นักร้องนักแสดง เจี๊ยบ ปวีณา และนักแสดงอีกหลายท่าน ที่รวมกลุ่มจิตอาสาออกตระเวนซ่อมแซมทาสีบูรณะวัดวาอารามเก่า และ พระพุทธรูปที่ชำรุดทรุดโทรม โดยที่ทางวัดไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น วัตถุประสงค์เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา พร้อมเล่าย้อนอดีตฉายา นางเอกตลกร้อยล้าน ผ่านรายการ ต้มยำอมรินทร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เจ้าของฉายานักร้องจังหวะนรก "เอ๊ะ จิรากร" ต้องสู้ในวงการเพลงถึง 11 ปี กว่าจะมีเพลงดัง!!
- "ต้อม ณหทัย" เล่านาทีเฉียดตายถึง 2 ครั้ง ต้องใช้ชีวิตเป็นผู้พิการนับปี!
- "พรศักดิ์ ส่องแสง" เล่าชีวิตขาลง เป็นบทเรียนสอนใจ พร้อมเปิดตัวลูกชายที่เดินตามรอยพ่อ
- นักร้องแหบมหาเสน่ห์ "ศิริพร อำไพพงษ์" เผยเหตุผลที่ไม่รับงาน!
- "บิณฑ์-เอกพันธ์" เผยความเหมือนที่แตกต่างของคู่แฝดบรรลือฤทธิ์
- ดูเพลิงนางย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม แม่ปุ๊ดูแลรูปร่างหน้าตาได้สวยเหมือนเดิม
ปุ๊ ปิยะมาศ : เราก็ดูแลตัวเองประมาณหนึ่ง ออกกำลังกายบ้าง สิ่งที่เราทำในชีวิตประจำวันก็คือการออกกำลังกาย
ถาม ได้รับฉายานางเอกตลกร้อยล้านได้ยังไง
ปุ๊ ปิยะมาศ : ไม่ทราบว่ามายังไง นักข่าวเขาตั้งให้ คงเป็นเพราะเราเป็นนางเอกตลกคนแรกที่เป็นนางเอกแล้วเล่นบทตลก แล้วคือ รวมหนังที่เราเล่นหลายๆ เรื่องเป็นร้อยๆ ล้าน
ถาม แต่ในยุคนั้น การทำเงินได้ร้อยล้านคือมหาศาลมาก
ปุ๊ ปิยะมาศ : แต่ที่ได้ฉายานี้มา เราไม่ได้เล่นเรื่องเดียว 1 เรื่อง เมื่อก่อนได้ 1 ล้าน คือเยอะมาก เพราะค่าดูหนัง 16 บาท 4 บาท
ถาม แม่ปุ๊เล่นกี่เรื่องถึงได้ร้อยล้าน
ปุ๊ ปิยะมาศ : ประมาณ 10 เรื่องได้ แต่เราทำปีละเรื่องเท่านั้น เพราะคุณสามีเขาทำอะไรแปลกๆ ไม่เหมือนใคร อย่างคนอื่นเขาทำหนัง พอเขาได้เงิน เขาเปิดเรื่องต่อไปเลย เพราะเขาเห็นว่าเขาขายได้ แต่เราต้องให้ฉายไปก่อน เก็บเงินเก็บทองแล้วไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วค่อยกลับมาเปิดเรื่องใหม่
ถาม เห็นแบบนี้แม่ปุ๊เคยเล่นบู๊ด้วย
ปุ๊ ปิยะมาศ : ใช่ค่ะ เตะต่อย นางเอกคนนี้ชนะเลิศมาก แต่เดี๋ยวไม่ได้แล้วนะคะ (หัวเราะ)
ถาม จากหนังบู๊แล้วมาเป็นนางเอกตลกได้ยังไง
ปุ๊ ปิยะมาศ : สมัยนั้นการทำภาพยนตร์คือคนดูชอบแบบไหนก็จะทำออกมาแบบนั้น อย่างช่วงแรกที่แม่ปุ๊เข้ามา ช่วงหนังชีวิต ต้องร้องไห้หนักมาก ตาบวมตาแดง คนถึงจะดู ช่วงนั้นเขาก็ทำกันใหญ่เลยหนังชีวิต สักพักคนเบื่อ ก็เปลี่ยนมาทำหนังบู๊ ก็ทำหนังบู๊ๆกัน เราก็เล่นตามกระแสหนังว่าช่วงนั้นเขาทำอะไรกัน
ปุ๊ ปิยะมาศ : ตอนนั้นทำบู๊เยอะๆ เราก็คิดว่าเดี๋ยวคนจะเบื่อแน่ๆ แล้วคุณสามีเลยคิดว่ามาทำตลกกันบ้างดีกว่า เพราะหนังตลก คนทำน้อย
ปุ๊ ปิยะมาศ : พอเริ่มมาทำหนังตลก ทำแรกๆ เราไม่ได้ตลกนะ เราเป็นนางเอกที่เริ่ดเชิด แก่นซ่า แต่พอทำไป 3 เรื่อง คุณกำธร บอกว่า ปุ๊ เรื่องหน้าตลกนะ เราก็คิดว่าเราจะตลกได้ยังไง หน้าเราก็แบบนี้ คนดูก็คิดว่าเราเรียบร้อยด้วย เขาก็บอกว่าให้เราปล่อยออกมาจากข้างใน ไม่ต้องไปกั๊ก เป็นนางเอกที่เล่นตลกเรื่องแรก มาดามยี่หุบ
ถาม เมื่อก่อนนางเอกคือนางเอก พระเอกคือพระเอก แต่พอนางเอกมาเล่นตลก ช่วงนั้นเกิดเป็นกระแสเลย ยากไหมกับบทนี้
ปุ๊ ปิยะมาศ : ตั้งสติอยู่นานนะ เรื่องแรกที่เราเล่นคือ มาดามยี่หุบ เราต้องเข้าใจว่ายี่หุบคือยี่หุบ เขาเป็นคนฉลาด ใสซื่อ ไม่แสดงออก การเล่นตลกต้องไม่กั๊ก ไม่ห่วงภาพนางเอก แล้วก็ต้องไม่เจตนาตลกด้วย ต้องทำให้เป็นคาแรคเตอร์ของเราจริงๆ การเล่นตลกเป็นสิ่งที่ยากที่สุดแล้ว แต่พอเรารู้จุด เล่นแล้วไม่กั๊ก เวลาเราส่งบทออกไปหรือสวมบทนั้นอยู่ คนดูจะรู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติ
ถาม แล้วทำไมนางเอกหนังของคุณกำธร ต้องเป็น ปุ๊ ปิยะมาศ ทุกเรื่องเลย
ปุ๊ ปิยะมาศ : เพราะคุณกำธรคือสามีค่ะ จ้างเราไม่ต้องเสียเงินเลย เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน เราเสียเงินสร้างเอง ไปจ้างคนอื่นเราโกรธนะ เราเลยเล่นเอง
ถาม ระหว่างที่รอหนังเรื่องต่อไป เราสามารถไปเล่นหนังของคนอื่นได้ไหม
ปุ๊ ปิยะมาศ : ไปได้ค่ะ แต่สามีก็ต้องเป็นคนเลือกบทให้เรา เราไม่อึดอัดนะคะ เพราะหนังของเราเอง เราทำทุกอย่างในกอง เป็นแอดมิน เป็นผู้จัดการกองถ่าย เป็นเด็กกองเลย พอเราถึงกอง เราก็แต่งหน้าทำผมเพื่อที่จะเข้าฉาก พอเราถ่ายเสร็จเราก็วิ่งเป็นแจ๋วในกอง ก็เหนื่อยแล้ว เพราะทำทุกอย่าง
ถาม แล้วจริงไหมตั้งแต่อดีตยาวนาน เป็นนางเอก แต่ แม่ปุ๊ ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงสวยเลย
ปุ๊ ปิยะมาศ : อันนี้จริง เราแค่รู้สึกว่าเราไม่ได้เป็นคนน่าเกลียด แต่ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองสวย มารู้ตัวว่าตัวเองสวย ตอนแก่แล้ว เราไปนั่งย้อนดูรูปเราเก่าๆ เราก็รู้สึกว่าทำไมตาเราโตจัง ทำไมมันน่ารักจังเลย เหมือนไม่ใช่เรา
ปุ๊ ปิยะมาศ : สมัยก่อนเราต้องแต่งหน้าเอง เสื้อผ้าหน้าผม เราต้องดูแลตัวเอง
ถาม แฟนๆ หลายคนคิดถึง ไม่เห็นทางหน้าจอเลย มีข่าวว่าแม่ปุ๊จะอำลาวงการไม่รับงานแล้วและมุ่งหน้าเข้าทางธรรม
ปุ๊ ปิยะมาศ : ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ เรายังมีภาระทางโลกอีกเยอะ เราก็รับงาน แต่เพราะเราไม่ได้ค่อยออกไปไหน ทำให้ผู้จัดลืมๆเราไปบ้าง เพราะจริงๆ แล้วเราก็ต้องไปเจอให้เขาได้เห็นหน้าบ้าง ถ้ามีคนติดต่อ ถ้าเวลามันลงตัว เราก็รับนะ เพื่อเอาเงินไปทำบุญ
ถาม คนอื่นๆทำบุญก็จะถวายปัจจัย แต่ของ แม่ปุ๊ ไม่เหมือนคนอื่นนอกจากถวายปัจจัยแล้วยังทำอะไรอีก
ปุ๊ ปิยะมาศ : เราลงแรงด้วยกาย วาจา ใจ การทำบุญนี้คือเขามีคณะอยู่ ทำมา 20 กว่าปีแล้ว แต่แม่ปุ๊เพิ่งเข้าไปร่วมกับเขาได้ 2 ปีกว่า ชื่อคณะคนร่วมทาง ต่างคนต่างก็ใช้ปัจจัยของตัวเองกัน เราก็นำเงินไปบูรณะตามวัดต่างๆ ให้กลับมาสมบูรณ์สวยงามเหมือนดังเดิม เรานำพระพุทธรูปที่แตกหัก มาซ่อมทำใหม่ เราทำเพราะเราต้องการให้โบสถ์ พระพุทธรูป อยู่ไปต่ออีก 5,000 ปี วัตถุประสงค์เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาสืบต่อไปค่ะ