ช็อก! ตัดหางเสือดำทำซุป เจอหม้อใกล้เต็นท์เจ้าสัว เศร้าอีกตัวเป็นคู่รัก วิ่งหนีกระสุน (คลิป)

8 ก.พ. 61
จากกรณีเจ้าหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ได้เข้าจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์จำกัด (มหาชน) กับพวกอีก 3 คน นายยงค์ โดดเครือ, นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ ในขณะเข้าไปลักลอบล่าสัตว์ป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี วันนี้ (7ก.พ.) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ และสื่อมวลชน ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่นายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวกเข้าไปตั้งแคมป์ล่าสัตว์ ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ซึ่งบริเวณดังกล่าว ห่างจากสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ประมาณ 19 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง
เส้นทางเข้าพื้นที่เป็นถนนลูกรัง ขรุขระ จะเข้าได้เฉพาะรถขับเคลื่อน 4 ล้อ เท่านั้น
ระหว่างทางถนนเป็นดินลูกรังมีสภาพขรุขระ จึงเข้าพื้นที่ได้เฉพาะรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ เท่านั้น (ส่วนระยะทางจากสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ ไปยัง สภ.ทองผาภูมิ ประมาณ 110 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณ 5-6 ชั่วโมง)
จุดที่ตั้งแค้มป์
การลงพื้นที่แบ่งออกเป็น 2 แห่งคือ บริเวณที่พบซากสัตว์ และบริเวณที่ตั้งแค้มป์ สำหรับบริเวณที่พบซากสัตว์เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ตรวจพบร่องรอยของกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 20
จุดที่เจ้าหน้าที่พบรอยกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 20
จุดที่ 2 เป็นบริเวณที่เจ้าหน้าที่พบเครื่องในสัตว์ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นพบซากของเสือดำ จุดที่ 3 ใกล้กันพบถุงเกลือ และจุดที่ 4 พบขนสัตว์ นอกจากนี้ยังพบอุจจาระคน และเศษกระดาษทิชชู่ ถูกทิ้งกองอยู่ในบริเวณเดียวกัน
จุดที่เจ้าหน้าที่พบซากสัตว์ป่า
เมื่อขับมาตามถนนเส้นเดียวกันของป่า ลึกเข้ามาอีกประมาณ 500 เมตร บริเวณริมลำธารหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ห้วยปะชิ ซึ่งเป็นบริเวณจุดตั้งแค้มป์ของนายเปรมชัย และพวก เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนสัตว์ เช่น หัวกะโหลกเสือดำ และยังพบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการซุกซ่อนปืนชนิดต่างๆ รวมทั้งกระสุนปืนประมาณ 100 นัด โดยมีการนำใบไม้มาปิดบังอำพรางเอาไว้อย่างดี
นายอนุวงค์ ศรีจันทร์ พนักงานราชการ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก
นายอนุวงค์ ศรีจันทร์ พนักงานราชการ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุดเข้าจับกุมผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ช่วงค่ำของวันที่ 4 ก.พ. ตนกับเจ้าหน้าที่นายอื่นๆ ได้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ หลังได้รับแจ้งว่ามีผู้ลักลอบกระทำความผิด ระหว่างที่กำลังขับรถเข้ามาใกล้ห้วยปะชิ ที่มีการตั้งแค้มป์ ปรากฏว่า มีเสือดำตัวหนึ่ง วิ่งเข้ามานำหน้ารถเจ้าหน้าที่ ทั้งที่ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน และสุดท้ายเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงจุดที่ตั้งแคมป์ เจ้าเสือดำตัวนั้น ได้วิ่งเข้าป่าหายไป
ซากสัตว์ป่า ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ
หลังจากที่มีการตรวจพื้นที่ จึงพบกับซากของเสือดำ ตนจึงสันนิษฐานว่าเสือตัวดังกล่าว น่าจะเป็นคู่ของเสือตัวที่ตายไปแล้ว เพราะหลายครั้งที่ตนเข้ามาลาดตระเวนผ่านบริเวณนี้ จะพบกับเสือดำคู่หนึ่งที่มักจะปรากฏตัวให้เห็นมาตลอดนับว่าเป็นเรื่องที่น่าสลดใจ นอกจากนี้ที่เกิดเหตุยังพบหม้อต้มอาหาร เมื่อเปิดฝาหม้อดู จึงพบหางเสือดำถูกต้มรวมกับเครื่องต้มยำ และผักป่าที่หาได้ตามริมลำธาร ลักษณะคล้ายกับซุปหางวัว
นายเปรมชัย ขณะถูกเจ้าหน้าจับกุม ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ
นายอนุวงค์ ยังเล่าต่อว่า ช่วงที่เจอกับผู้ต้องหา ตนได้สอบถามเกี่ยวกับการเข้ามาตั้งแค้มป์ในเขตหวงห้าม รวมทั้งเรื่องการล่าสัตว์ แต่นายเปรมชัย ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ เอาแต่นั่งนิ่ง นอกจากนี้พฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหา มีความเป็นมืออาชีพมาก เหมือนเป็นพรานจริงๆ โดยสังเกตได้จากการแร่หนังของเสือดำอย่างประณีต ไม่มีรอยขาด ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก็เป็นอาวุธหนัก อย่างเช่นปืนไรเฟิลติดลำกล้อง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่ามีไว้สำหรับใช้ล่าสัตว์ใหญ่ อย่างเช่น ช้าง เสือ เก้ง กวาง เป็นต้น นายอนุวงค์ บอกอีกว่า ตนรู้สึกดีใจมากที่สังคมชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งกล้าเข้าไปจับกุมคนมีชื่อเสียง เพราะตั้งแต่ทำงานมา 20 ปี ตนไม่เคยถูกมองเช่นนี้ หลังจากเหตุการณ์นี้ทำให้สนใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์สัตว์ และป่ามากขึ้น ส่วนเรื่องความปลอดภัยหลังจากนี้ ตนไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ เพราะตัวเองเป็นแค่เจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ ยังคงปฏิบัติงานให้ดีที่สุดต่อไป ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขยายผลพบว่า ปืนไรเฟิลมีชื่อผู้ครอบครองคือ นายเปรมชัย กรรณสูต แต่สำหรับปืนที่เหลือยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ จากการสอบปากคำทราบว่า นายเปรมชัย ได้ทำเรื่องขอเข้าไปยังหน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช ซึ่งถัดจากจุดนี้ขึ้นไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร แต่กลับไม่ยอมไปตามที่ขอไว้ และได้มาตั้งเต็นท์ในจุดที่หวงห้าม ส่วนการดำเนินคดีนั้น ล่าสุดผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งหมด 9 ข้อหา แต่ยังให้การปฏิเสธ ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ต้องนำพยานหลักฐานที่เป็นวัตถุพยาน มามอบให้พนักงานสอบสวน ไม่ว่าจะเป็นหนังของเสือดำ ชิ้นเนื้อ กะโหลกส่วนหัว ซากของนก ไก่ป่า ไก่ฟ้า และเก้ง รวมทั้งอาวุธปืน และอุปกรณ์ประกอบอาหาร
นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ส่วนคลิปการสนทนาต่อรอง หลังถูกจับกุมระหว่าง นายเปรมชัย กับบุคคลปริศนานั้น เรื่องนี้ต้องส่งให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบ และหากพบความเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และตนจะสั่งการตรวจสอบทันทีว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ส่วนเรื่องหนังสือการขออนุญาตเข้าพื้นที่ของนายเปรมชัย อธิบดีกรมอุทยานฯ ชี้แจงว่า หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันวันตก เป็นผู้ได้รับการประสานมาว่า จะมีผู้เข้าพื้นที่ ต่อมาจึงมีการทำหนังสือขออนุญาตไปทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) แต่ติด วันเสาร์-อาทิตย์ เอกสารบางอย่างจึงไม่สมบูรณ์ โดยทางเจ้าหน้าที่เห็นว่า หัวหน้าประสานขออนุญาตไปแล้ว จึงเปิดทางให้กลุ่มนายเปรมชัย เข้าพื้นที่ เพราะที่ผ่านมานักท่องเที่ยวที่เข้ามาไม่เคยสร้างปัญหาอะไร แต่ตนยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นความหละหลวมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนก็ได้สั่งการไปแล้วว่า หลังจากนี้จะมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์ ไม่ให้นักท่องเที่ยวตั้งแค้มป์ในที่หวงห้าม  

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ