โฆษกกองทัพภาคที่ 2 ยันไม่มีการตั้งด่านสกัดม็อบ "19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร" ประเมินแล้วคาดมีคนอีสานเดินทางไปร่วมน้อย แต่จะใช้การตั้งเวทีคู่ขนานในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ แทน
ภายหลังจากที่กลุ่มเยาวชนปลดแอก ได้มีการนัดชุมนุมครั้งใหญ่ วันที่ 19 ก.ย. 2563 นี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรุงเทพมหานคร เพื่อกดดันรัฐบาลให้ลาออก และมีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลว่าอาจจะเกิดความรุนแรงขึ้นมาคล้ายกับช่วง 14 ตุลาคม 2516 โดยเฉพาะกลุ่มเครือข่ายเยาวชนปลดแอก ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วประเทศ จะมีการเดินทางเข้าไปร่วมการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยจำนวนมากนั้น
ล่าสุด วันนี้ (14 ก.ย. 2563 พล.ต.ราชันย์ ประจันตะเสน โฆษกกองทัพภาคที่ 2 โดยได้รับการเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางหน่วยข่าวกรองทหารกองทัพภาคที่ 2 ก็ได้ติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรง ตามอำนาจหน้าที่การรักษาความมั่นคงของชาติ
แต่เรื่องการเข้าไปควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยในเวทีการชุมนุมต่างๆ นั้น ไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของทหารแล้ว เพราะหลังจากที่สิ้นสุดอำนาจ คสช. อำนาจของทหารก็หมดลงด้วย ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทหารจะเข้าไปร่วมสมทบด้วยในกรณีมีการตั้งด่านความมั่นคง แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการตั้งด่านเพื่อสกัดเยาวชนที่จะเดินทางไปร่วมการชุมนุมแน่นอน
เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย จะสังเกตเห็นว่าทุกวันนี้ก็มีการจัดเวทีการชุมนุมอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ได้ตามปกติ ซึ่งเท่าที่ติดตามดูก็พบว่าจะมีคนอยู่กลุ่มหนึ่ง เดินสายจัดเวทีให้กับกลุ่มเยาวชนปลดแอกในพื้นที่ภาคอีสานสลับกันไปหลายจังหวัด และทางกองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์ดูแล้ว ก็คาดว่าจะมีชาวภาคอีสานเดินทางไปร่วมการชุมนุมที่กรุงเทพมหานครไม่มากนัก แต่อาจจะมีการจัดเวทีคู่ขนานในพื้นที่จังหวัดของตนเองเสียมากกว่า ดังนั้นสถานการณ์ขณะนี้จึงไม่น่าเป็นห่วงอะไร
