วันที่ 9 ก.พ. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการสืบสวนขยายผลกรณี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการบริหารบริษัทอิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และพวกอีก 3 คน ที่ลักลอบล่าสัตว์ป่าบนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะการตรวจลายนิ้วมือบนอาวุธปืน ซากเสือ และวัตถุพยานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ ซึ่งต้องเน้นตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เป็นเรื่องที่ไม่ยากสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว
สำหรับงาช้าง 2 คู่ที่ตรวจค้นได้ในภายในบ้านของนายเปรมชัย จะต้องตรวจสอบว่า แจ้งจดทะเบียนครอบครองงาช้างหรือไม่ ถ้าไม่แจ้งจดทะเบียน จะมีความผิดตามกฎหมาย
นอกจากนี้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่านายเปรมชัย หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้านตามที่เป็นกระแสข่าว
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่บ้านของนางนที เรียมแสน หนึ่งในผู้ต้องหาที่ จ.นครราชสีมา พบกับ นายวิศิษย์ แก้วข้อนอก และนางแก้ กรองนอก บิดามารดาของนางนที โดยให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่นางนที ได้รับการประกันตัวก็ไม่ได้เดินทางมาเยี่ยมตน และลูกชาย 2 คน อีกเลย
ลูกชายคนเล็กของนางนที ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นห่วงแม่ ขณะเดียวกันทุกคนในบ้าน ได้พยายามติดต่อนางนที แต่ไม่มีใครสามารถติดต่อได้
หลังจากนั้นทีมข่าว เดินทางไปร้านอาหารของนายธานี ทุมมาศ หนึ่งในผู้ต้องหา ย่านบางกรวย พบว่าภรรยาของนายธานี ยังขายร้านอาหารตามปกติ แต่ไม่ขอให้สัมภาษณ์ พร้อมระบุว่า หลังจากที่ตกเป็นข่าว มีนักข่าวจากหลายสำนักเดินทางมาที่ร้าน จนทำให้ลูกค้ากลัว ไม่กล้าเข้ามาในร้าน
ภรรยานายธานี เปิดเผยอีกว่าหลังจากสามีได้ประกันตัว ยังไม่ได้กลับบ้าน พร้อมบอกว่า "จะกลับมาทำไม เดี๋ยวก็ต้องไปขึ้นศาลอยู่แล้ว" และบอกกับทีมข่าวว่า หากต้องการทราบข้อมูลให้ไปถามสามีตนที่ศาล
นอกจากนี้ ภรรยาของนายธานี เปิดเผยอีกว่า สามีตนติดต่อกลับมาหาตนเพียงครั้งเดียว และใช้หมายเลขโทรศัพท์ของคนโทรมา หลังจากนั้นตนไม่ได้ติดต่อกลับไป ส่วนตัวยอมรับว่าโกรธสามีอยู่ เพราะการเดินทางเข้าป่าในครั้งนี้ สามีบอกว่าแค่ไปทำธุระเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ภรรยาของนายธานี ยอมรับว่า หลักทรัพย์ทั้งหมดที่ใช้ประกันตัวสามี นายเปรมชัย เป็นคนจัดการให้ทั้งหมด