จากกรณีมีชายชาวเมียนมาขับรถตกคูน้ำ ภายในซอยวัดบางน้ำวน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยมีผู้บาดเจ็บ 1 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนเพื่อนชายที่นั่งมาด้วยหลบหนีไป ซึ่งคาดเป็นผู้ก่อเหตุนั้น
วันที่ 18 ก.ย. 63 ทีมข่าวเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ เส้นทางที่มาทางออกทะลุได้หลายเส้นทาง ทีมข่าวเข้ามาจากปากซอยราว 500 เมตร พบจุดเกิดเหตุ รอยดินและต้นหญ้าที่ล้มอยู่ข้างทาง ลักษณะที่ถูกรถทับเพราะรถพุ่งตกคูคลอง พื้นที่เกิดเหตุไม่ใช่เขตชุมชน ไม่มีบ้านที่อาศัย
ทีมข่าวเดินทางมาที่บริษัทแห่งหนึ่ง ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 100 เมตร สอบถามคนในบริษัท ได้ข้อมูลว่าช่วงเกิดเหตุคนของบริษัทเป็นคนที่ขับรถตามไปเห็นขณะเกิดเหตุพอดี
ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บริษัทที่พยานทำงานอยู่ โดยกล้องมี 2 มุม จะเห็นช่วงที่รถผู้บาดเจ็บผ่านไป จนกระทั่งเห็นว่ามีคนมาพาตัวคนร้ายหลบหนี
โดยรถคนเจ็บขับมาจากท้ายซอย มุ่งหน้าที่เกิดเหตุ ผ่านประตู 1 ยังขับปกติ รถคนเจ็บขับผ่านไป โดยเป็นช่วงที่รถจักรยานยนต์ของ แบงค์เล็ก น้าสายชล ขับออกจากประตู 2 และขับตามรถผู้บาดเจ็บไป จากนั้น รถจักรยานยนต์ของแบงค์ใหญ่ขับมาจอดที่หน้าประตู 2 ก่อนจะขับตามออกไป เห็นชายต้องสงสัยเดินสวนมา มีทาทีเดินไม่เร็ว คุยโทรศัพท์ หันมองหลังเป็นระยะ ๆ จากนั้นเห็นรถจักรยานยนต์ของกลุ่มที่รู้จักกับผู้ต้องสงสัยขับรถซ้อนท้ายมา 2 คน มารับตัวผู้ต้องสงสัยไป จากนั้นเห็นรถจักรยานยนต์คันที่มารับผู้ต้องสงสัย กลับไปทางที่เกิดเหตุ ซึ่งเส้นทางนี้สามารถออกถนนพระราม 2 ได้เส้นทางเดียว
นายแบงค์เล็ก น้าสายชล และนายแบงค์ใหญ่ พนักงานที่ขับรถออกจากบริษัทในขณะที่รถของผู้บาดเจ็บขับผ่านพอดี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถออกจากโรงงาน แบงค์เล็กขับรถออกไปคนแรก ตามด้วยน้าสายชล และแบงค์ใหญ่ ซึ่งแต่ละคนเห็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกัน
แบงค์เล็ก เล่าว่า ตนเองขับรถออกไปเพื่อจะกลับบ้าน ขณะขับออกมา รถคนเจ็บก็ผ่านหน้าตนไป ตนก็ขับออกจากโรงงานตามหลังคนเจ็บไป ระหว่างทางรถผู้บาดเจ็บมีลักษณะขับส่ายเล็กน้อย จากนั้นก็เลี้ยวพุ่งลงคลองไปทันที โดยไม่มีการเบรกหรือหักพวงมาลัยแต่อย่างใด ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ตกใจ ตนกับน้าสายชลมาถึงที่เกิดเหตุเป็นคนแรก จากนั้นก็เห็นชายที่นั่งข้างคนขับเปิดประตูรถออกมา ก่อนจะรีบตะกายขึ้นฝั่ง ซึ่งช่วงนี้พบว่าชายรายนี้ทำท่าเหมือนเก็บอาวุธปืน คล้ายปืนปากกาโดยเหน็บเข้าที่เอว พวกตนมีการสอบถามว่าเป็นอะไรหรือไม่ ชายที่ออกมาจากรถระบุว่าไม่เป็นอะไร จากนั้นก็ทำหน้าตาตื่น เดินกึ่งวิ่งกลับไปทางบริษัทตน
จังหวะนั้น นายแบงค์ใหญ่ขับจักรยานยนต์ออกจากบริษัทตามมาพอดี ขับรถสวนกับชายที่ก่อเหตุ โดยแบงค์ใหญ่ระบุว่า ตนเองเห็นชายตนนี้ทำท่ามองหน้ามองหลัง และคุยโทรศัพท์ตลอด ตอนนั้นตนก็ยังไม่ทราบเหตุ ลักษณะชายที่ต้องสงสัยตนเองเห็นใส่กางเกงยีนส์ขาดหัวเข่า 2 ข้าง ผิวขาว หน้าตาไม่คุ้น เมื่อตนถึงที่เกิดเหตุก็จอดเพื่อให้การช่วยเหลือ โดยเห็นแบงค์เล็กกับน้าสายชลอยู่ที่เกิดเหตุแล้ว จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงร้อง "ช่วยด้วย ๆ" ออกมาจากในรถ จนลงไปให้การช่วยเหลือ
สภาพคนขับมีเลือดไหลที่ศีรษะ เปิดประตูรถเพื่อจะนำตัวคนขับออกมา พบว่าคนขับยังมีความเป็นห่วงคนที่นั่งมาด้วย เพราะคนเจ็บพูดทำนองว่าในรถยังมีอีก 1 คน ซึ่งพวกตนพยายามดูแล้วแต่ก็ไม่พบว่ามีใคร จากนั้นแบงค์ใหญ่จึงตัดสินใจนำคนเจ็บออกจากรถ และขึ้นมานอนอยู่บนถนน ตนฟังคนเจ็บพูดใจความประมาณว่าตัวเองถูกลวงมาทำร้าย ถูกลวงมาฆ่า จากชาวเมียนมาด้วยกัน โดยบอกว่ารับคนก่อเหตุมาจากแถวทางรถไฟ พวกตนเข้าใจตอนแรกว่าเป็นเหตุเมาแล้วขับ ไม่คิดว่าจะมีการยิงกันเช่นนี้