พิตบูลโหดขย้ำเจ้าของแผลเหวอะ แม่ผวาไม่เลี้ยงต่อ เผยใช้ไม้ง้างปากโดดบ้านหนีตาย (คลิป)

จากกรณีเพจเฟซบุ๊กของอมรินทร์ทีวี ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากนางวรัณรัชช์ จันทมร อายุ 41 ปี ร้องขอความช่วยเหลือผ่านทีมข่าว หลังเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.63) น.ส.กชพร ดวงก๋าทอง หรือปาล์ม อายุ 22 ปี ลูกสาว กับนายประวิทย์ มาตมูล หรือวิทย์ อายุ 38 ปี ลูกเขย ซึ่งปลูกบ้านติดกันได้เลี้ยงสุนัขไว้ 2 ตัว เป็นสายพันธุ์ "อเมริกัน พิตบูลเทอร์เรีย" และบางแก้วผสมพิตบูล 1 ตัว แต่ปรากฏว่าตัวที่เป็นพิตบูล ได้กัดลูกสาวกับลูกเขย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ลูกสาวโดนกัดท้ายทอย และศีรษะ และมือ เย็บกว่า 30 เข็มต้องทำการผ่าตัด

ส่วนลูกเขยถูกกัดที่แขนเหวอะหวะ เย็บกว่า 50 เข็ม ไม่น้อยไปกว่ากัน ไม่รู้จะหาทางออกทางไหน จะให้คนมารับไปดูแลต่อ แต่ก็ไม่มีใครจะมาสามารถดำเนินการได้ จึงร้องขอความช่วยเหลือดังกล่าว

ล่าสุดวันที่ 21 ก.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางลงพื้นที่ที่บ้านที่เกิดเหตุ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าเป็นบ้าน 2 หลังอยู่ท้ายซอยติดกับทุ่งนา พบกับนางวรัณรัชช์ อายุ 41 ปี ผู้ที่ร้องขอความช่วยเหลือ พาทีมข่าวขึ้นไปดูจุดเกิดเหตุ ที่ลูกสาวโดนสุนัขกัด คือบนบ้านของลูกสาวเอง ตอนนี้คราบเลือดถูกล้างทำความสะอาดออกหมดแล้ว

จากนั้นนางวรัณรัชช์ ได้พาไปดูสุนัขทั้ง 2 ตัว พบกับสุนัขพันธ์ุ พิตบูล ผสมบางแก้ว ชื่อบูบู้ สีน้ำตาล อายุ 4 ปี ใช้โซ่คล้องคอ อยู่กับโต๊ะ ส่วนสุนัขตัวที่กัด คือ พิตบูลแท้ เจ้าบอมเบย์ อายุ 4 ปี สีน้ำตาล ถูกขังอยู่ในกรง ดูนิ่ง เงียบซึม ไม่เห่าผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด

นางวรัณรัชช์ เล่าว่า ลูกสาวที่ถูกกัดเลี้ยงเจ้าบอมเบย์ สุนัขพันธุ์ อเมริกัน พิตบูลเทอร์เรีย เพศผู้ อายุ 4 ปี มาตั้งแต่เกิด เลี้ยงคู่กับเจ้าบูบู้ เพศผู้พันธุ์ผสมระหว่าง พิตบูลผสมบางแก้ว ที่ผ่านมาไม่มีทีท่าว่าจะกัดลูกสาวลูกเขยที่เป็นคนเลี้ยงแต่อย่างใด และสุนัข 2 ตัวนี้ก็เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก กระทั่งปี 62 สุนัขทั้ง 2 ตัวเริ่มไม่ถูกกัน เวลาบอมเบย์ เห็นบูบู้ จะกัด คล้ายหวงเจ้าของ ทำให้ต้องเลี้ยงแยกกัน โดยลูกสาวเพิ่งจะมาปลูกบ้านที่ตรงนี้ ประมาณ 3 เดือน พาสุนัข 2 ตัวมาด้วย

กระทั่งเมื่อวันที่ 20 ก.ย.63 เวลา 10.00 น. ตนไม่รู้ว่า "บอมเบย์" เครียดหรือเกิดอะไรขึ้น ลูกสาวไปทำงาน มีเวลาช่วงพักก่อนเที่ยง จึงกลับมาบ้านแวะมาหาสุนัข พาสุนัขเดินเล่นกินข้าวเสร็จ ซึ่งตอนนั้นลูกสาวมาบอกตนให้ตัดผมสั้นให้ ตนก็ตัดให้ จากนั้นลูกสาวก็ขึ้นบ้านไปอาบน้ำในบ้าน ซึ่งก็มีบอมเบย์นอนอยู่

ลูกสาวกำลังเป่าผม ก็เรียกให้บอมเบย์เดินให้มานอนข้าง ๆ กันตามปกติ เพราะลูกสาว ลูกเขยและบอมเบย์ จะนอนที่นอนเดียวกันตลอด จากนั้นเมื่อบอมเบย์ เดินมาถึงตัวลูกสาว ก็กัดที่หัว และท้ายทอย ส่วนแฟนลูกสาวก็นอนอยู่ใกล้กัน คิดว่าบอมเบย์ หยอกกับลูกสาว เพราะเล่นกันบ่อย แต่ดูแล้วกัดจริง ลูกสาวร้องด้วยความเจ็บปวด

จังหวะนั้น ลูกเขยจึงเข้าไปห้ามบอมเบย์ จึงถูกกัดเข้าที่แขนเป็นแผลเหวอะ และไม่ยอมปล่อย
ตนอาบน้ำอยู่ วิ่งมาทั้งกระโจมอก เลยเอาไม้กระทุ้งปลายจมูกบอมเบย์ จึงหยุดกัด จากนั้นก็พาลูกเขยลูกสาวขึ้นรถกระบะไปส่งโรงพยาบาล 

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ บอมเบย์ ตนก็ปล่อยไว้บนบ้านที่กัดลูกสาว มีไม้กระดานกั้นประตูไว้ ลงมาไม่ได้ และไม่มีอาการเกรี้ยวกราดจะกระโจนตามลงมากัดแต่อย่างใด ช่วงค่ำวานนี้ตนจึงให้เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์มาฉีดยาสลบ และย้ายเข้ามาขังไว้ในกรงดังกล่าว

ต่อมาทีมข่าวประสานปศุสัตว์จังหวัดเข้าช่วยเหลือครอบครัวพิตบูล โดย นายสัตวแพทย์ สุริยา ผาแสง หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ พระนครศรีอยุธยา และทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ลงพื้นที่มา ตรวจสอบ อุปนิสัยใจคอเจ้าบอมเบย์ และเจ้าบูบู้

นายแพทย์สุริยา บอกว่า เท่าที่ตนดู เจ้าบอมเบย์ ก็ดูเป็นพิตบูลที่เรียบร้อย ไม่ดุร้ายอะไรมาก แต่ตนไม่เข้าใจว่ากัดเจ้าของเพราะอะไร สุนัขอิจฉากันเองไหม ตนไม่ได้คุ้นเคยกับพันธุ์นี้มา แต่ตนคิดว่าเพราะติดสัตว์หรือไม่  ส่วนเจ้าบูบู้ ดูไม่ดุร้าย แต่โดยสายพันธุ์จะรักถิ่น ห่วงของเล่น ถ้าไม่รุกล้ำก็จะไม่ทำร้ายอะไร

จากนี้ตนจะทำการช่วยเหลือเบื้องต้น ให้ยืมกรงขนาดใหญ่ มาให้เจ้าบอมเบย์ได้อยู่ไปก่อน จะได้มีพื้นที่เดินไม่เครียด และจะได้ไม่ไปกัดทำความเดือดร้อนใคร ซึ่งทางตนจะเป็นคนช่วยเหลือย้ายกรงให้ เพราะแม่คนเจ็บกลัวถูกกัด

ส่วนหากเจ้าของไม่ประสงค์ จะเลี้ยงดูต่อแล้ว ต้องประสานมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ ที่สามารถช่วยเหลือได้ หรือประชาชนที่ต้องการดูแลต่อ ในลำดับต่อไป ส่วนตนทำได้แค่ควบคุมและป้องกันไปกัดคนอื่นต่อแค่นั้น

อย่างไรก็ตาม ทางแม่เจ้าของพิตบูล แจ้งว่าหลังข่าวแพร่ออกไปมีมูลนิธิที่ดูแลสุนัข ติดต่อเข้ามาจะเข้ามาดูสุนัขทั้ง 2 ตัวในวันที่ 22 ก.ย.63 และจะประเมินกันอีกที หากพร้อมก็จะรับไปดูแล ปรับเปลี่ยนนิสัยใจคอสุนัขทั้ง 2 ตัวในลำดับต่อไป