สลด! จ่อยิงพ่อลูกอ่อนดับคาโต๊ะ เมียเศร้าขาดเสาหลัก อริปัดเอี่ยวล้างแค้นให้หมา (คลิป)

จากกรีเมื่อเวลา 22.00 น. ของคืนวันที่ 21 ก.ย. 63 พ.ต.ท.ประเสริฐ พุ่มโพธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.นิคมบางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก รับแจ้งว่ามีเหตุบุคคลถูกยิงเสียชีวิต บริเวณบ้านหมู่ 11 ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก หลังจากรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน

ที่เกิดเหตุพบศพนายวุฒิไกร สิงห์เรือง อายุ 32 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณปากลำคอ และลำตัว จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เป็นโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่พบลูกปืนบีบีกันออโตเมติกขนาดสั้น และขวดเหล้าขาวอยู่บริเวณลำตัวผู้เสียชีวิต

วันที่ 22 ก.ย. 63 น.ส.น้ำทิพย์ รักกระโทก อายุ 21 ปี ภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนกับสามีมีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นชายอายุ 5 ปี และคนเล็กเป็นหญิงอายุเพียง 1 เดือน ก่อนเกิดเหตุช่วงกลางวัน สามีไปธุระกับแม่ในตัวเมืองพิษณุโลก เพื่อไปตกลงกับบริษัทรถ เรื่องจะซื้อรถใหม่ หลังจากที่กลับมาจากไปดูธุรกิจรถพ่วงที่บรรทุกหินและกรวดอยู่ที่ จ.ขอนแก่น สามีได้ไปที่บ้านของเพื่อนบ้านเพื่อไปเอาผ้าใบคลุมรถ ก่อนที่จะกลับมาบ้านแล้วตักข้าวมากินบริเวณโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้าน

ซึ่งเวลาผ่านไปเพียง 3-4 นาที ตนเองก็ได้ยินหมาเห่าบริเวณข้างบ้าน ก่อนจะได้เสียงปืนดังสนั่นขึ้นที่หน้าบ้าน ลูก 5 ขวบที่นั่งอยู่ใกล้ประตูหน้าบ้านจะวิ่งมาบอกตนเองว่า "พ่อเป็นอะไรไม่รู้ นอนชักอยู่ที่โต๊ะกินข้าว เลือดไหลเต็มเลย" ตนวิ่งไปดู พบว่าบาดแผลถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่บริเวณคาง  ริมฝีปาก บริเวณหน้าอก จำนวนหลายรู ใบหน้าอุดกระสุนปืนลูกซอง 1 หัว ใกล้กันมีปืนบีบีกัน ออโตเมติกขนาดสั้นของสามี และขวดเหล้าขาวตกอยู่ใกล้ตัว

จากนั้น ตนเองจึงพยายามปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิตสามี แต่ก็ไม่เป็นผล พ่อแม่สามีและเพื่อนบ้านที่มาถึงที่เกิดเหตุ จึงโทรศัพท์แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ หลังเกิดเหตุตนเองก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเหตุเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ตนเองยอมรับว่าสามีเป็นคนใจร้อน ชอบซ้อมยิงปืนขึ้นฟ้าจริง แต่ก็ไม่เคยทำร้ายใคร

ส่วนปมเหตุคาดว่าอาจเป็นฝีมือของเพื่อนบ้าน ผู้ต้องสงสัยที่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว สามีได้ไปเหยียบหมาของผู้ต้องสงสัยตาย ผู้ต้องสงสัยจึงได้มาชกต่อยสามีที่บ้าน ก่อนจะเอามีดที่พกมาพยายามไล่ฟันสามี โชคดีที่ไม่เป็นอะไร ซึ่งขณะนี้ก็ยังเป็นคดีความกันอยู่

โดยวันที่ 1 ก.ย.63 ได้ไปให้ปากคำต่อศาลแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนวันที่ 29 ก.ย.63 จะไปเข้าฟังคำพิพากษาของศาลอีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องคดีความ แต่สามีก็มาเสียชีวิตจากการถูกยิงเสียก่อน ตนเองจึงมีความสงสัยว่าน่าจะเป็นเพื่อนบ้านรายดังกล่าว เพราะนอกจากนี้สามีก็ไม่ได้มีปัญหากับใคร หรือมีปัญาหาด้านธุรกิจ

นอกจากนี้ ตนเองยอมรับว่าแค้นมากที่ผู้ก่อเหตุมาทำแบบนี้กับสามี หากเป็นไปได้ตนเองอยากถามว่ามาทำแบบนี้ทำไม อีกทั้งหากตำรวจจับตัวคนยิงสามีของตนเองได้ ตนเองก็อยากจะทำกับคนที่ยิงสามีของตนเองในแบบเดียวกัน พร้อมทั้งอยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุให้ได้เร็วที่สุด อยากให้มาขอขมาศพสามี และได้รับโทษขั้นสูงสุด

โดยลักษณะการก่อเหตุ คาดว่าคนร้ายน่าจะเดินอ้อมมาทางทุ่งนาหลังบ้าน ก่อนเดินเลาะมาทางข้างบ้าน เพราะมีรอยเท้า เมื่อเห็นสามีนั่งกินข้าวอยู่จึงใช้ปืนยิงจนเลือดกระจายเต็มโต๊ะ จานข้าวที่สามีถือกระเด็นไปตกอยู่บริเวณประตูห้องครัวหน้าบ้าน ห่างจากโต๊ะประมาณ 5 เมตร อีกทั้งยังพบวิถีกระสุนถูกเจาะทะลุกำแพงห้องครัวอีก

นางเพลง (นามสมมติ) อายุ 27 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ตนเองที่อยู่บ้านห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นขึ้น 1 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร กระทั่งมาทราบข่าวว่านายวุฒิไกรถูกยิงเสียชีวิต ตนเองก็รู้สึกตกใจ ปกติแล้วพี่เสียชีวิตเป็นคนใจร้อน โผงผาง ชอบซ้อมยิงปืน เพราะทำงานเกี่ยวกับรถบรรทุก แต่ก็เป็นคนดีไม่เคยมีปัญหากับใคร

ทั้งนี้ นายวุฒิไกรเป็นคนไม่คอยพูด จึงไม่เคยมาปรึกษาหรือเล่าอะไรให้เพื่อนฟังมากนัก กระทั่งมาเกิดเหตุ เรื่องที่เกิดขึ้น คนร้ายโหดเหี้ยมและทำเกินไป เนื่องจากนายวุฒิไกรมีลูกเล็กที่ต้องดูแล ทำไมไม่สงสารกันบ้าง ก็อยากให้คนร้ายยอมมอบตัว เพราะหนีก็คงหนีไม่พ้น พร้อมวอนตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

ขณะที่ สภ.นิคมสร้างตนเอง บ้านใหม่คลองเจริญ ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนในวันนี้ โดยนายไท (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ผู้ต้องสงสัย เผยว่า ตนเองยอมรับว่าเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา เคยมีปัญหาคดีความกับทางผู้เสียชีวิตจริง เนื่องจากผู้เสียชีวิตเคยขับรถไปทับหมาของตนเองจนตาย ผู้เสียชีวิตไม่พอใจจึงมีปากเสียงกัน และได้ใช้อาวุธมีดมาไล่ฟันตนเอง ไม่ใช่ตนเองไปทำร้ายผู้เสียชีวิต

หลังทราบเรื่องว่าผู้เสียชีวิตถูกคนร้ายยิงตาย ตนเองก็รู้สึกเสียใจ และรู้สึกไม่ดี ที่ต้องกลายมาเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ตนเองยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนยิง และเป็นผู้บริสุทธิ์แน่นอน จึงอยากให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตเข้าใจใหม่ เพราะขณะเกิดเหตุตนเองเดินทางไปบ้านเพื่อน ที่ จ.กำแพงเพชร กระทั่งเวลา 21.00 น. กลับมาบ้านจึงทราบข่าวการเสียชีวิต วันนี้จึงเดินทางมาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ทั้งนี้ตนเองก็รู้สึกเสียใจ และอยากฝากแสดงความเสียใจไปถึงครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย