สหรัฐฯ พบเชื้อโควิดกลายพันธุ์ ติดเชื้อง่ายกว่าเดิม

28 ก.ย. 63

นักวิจัยในสหรัฐฯ เผยผลการศึกษาใหม่ ที่พบว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 มีการ “กลายพันธุ์” โดย มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางโมเลกุลให้มีลักษณะคล้ายหนาม รอบเซลล์ และทำให้ติดเชื้อ ง่ายยิ่งกว่าเดิม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทย 27 ก.ย. ป่วยใหม่ 1 รายจากสหรัฐฯ
-
 สหรัฐฯผวาอีก! "อะมีบากินสมอง" ปนเปื้อนน้ำประปา คนแตกตื่นซื้อน้ำขวดตุนจนขาดตลาด

ผลการศึกษาที่ถูกเผยแพร่ล่าสุดนี้ ถูกค้นพบโดยทีมนักวิจัยที่โรงพยาบาลเมโธดิสต์ ในเมืองฮิวส์ตัน ในมลรัฐเทกซัส ของสหรัฐอเมริกา โดยทีมนักวิจัยพบว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ เชื้อโควิด-19 มีการกลายพันธุ์ ทำให้แพร่ระบาดได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

ทีมนักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ ได้เรียกเชื้อ ไวรัสโควิด-19 ที่กลายพันธุ์นี้ว่า D614G โดยผลการศึกษาพบว่า เชื้อชนิดนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง โดยมีการสร้าง “สไปค์” หรือ หนามโปรตีนบริเวณรอบผิวของเซลล์ ซึ่งทีมนักวิจัยพบว่า ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ชนิดใหม่นี้ จะมีปริมาณเชื้ออยู่ในบริเวณช่องจมูกและลำคอมากกว่าผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม และทำให้เชื้อจะถูกแพร่กระจายไปยังบุคคลอื่นได้ในปริมาณได้มากขึ้น ผ่านการไอหรือจามของผู้ติดเชื้อ

เจมส์ มัสเซอร์ หนึ่งในทีมนักวิจัย เตือนว่า ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนที่ถูกพัฒนาเพื่อยับยั้งเชื้อโควิดที่กลายพันธุ์ชนิดนี้ และหนทางเดียวที่จะป้องกีนการติดเชื้อได้นั่นก็คือ การปฏิบัติตามมาตรการเวนระยะห่างทางสังคม (โซเชี่ยล ดิสแทนซิ่ง) อย่างเข้มงวด และการหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีการรวมตัวของผู้คนจำนวนมากเท่านั้น

ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ เพิ่มจำนวนเป็น 7,287,593 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดของสหรัฐฯอยู่ที่ 209,177 รายในวันอาทิตย์ (27 ก.ย.)

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม