สาวถูกขวานฟันรถ รับ "จอดรู้เท่าไม่ถึงการณ์" ขวางหน้าบ้าน - "ป้า" โผล่ พร้อมแจง ตร. (คลิป)

ภายหลังที่มีคลิปถูกเผยแพร่บนเฟซบุ๊ก กรณีผู้หญิงสูงวัยกำลังจะขับรถออกจากบ้านตน แต่มีรถมาจอดขวางอยู่ ทำให้นำรถออจากกบ้านไม่ได้ จึงออกมาเพื่อถามหาเจ้าของรถแต่ไม่เจอ ทำให้หญิงรายนี้โกรธ ก่อนที่จะนำไม้ และขวาน ทุบไปที่กระจก และฝาท้ายกระบะรถคันดังกล่าว ทำให้สังคมวิจารณ์พฤติกรรมของผู้หญิงรายนี้ (อ่าน: แชร์สนั่น! ป้าสายโหด ขวานจามรถจอดขวางทางเข้า-ออก)

วันนี้ (19 ก.พ.) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านถนนศรีนครินทร์ เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ พบบ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณกลางตลาด ระหว่างตลาดสดเช้าอยู่ทางด้านขวา และตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต อยู่ด้านซ้าย ขณะที่ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านมินิมาร์ท และตลาดสด ส่วนด้านหลังของบ้าน ติดกับลานจอดของตลาด นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบของบ้านติดตั้งกล้องวงจรปิดประมาณ 15 ตัว มีการนำกระถางต้นไม้มาวางไว้บริเวณทางเดินเพื่อกำหนดบริเวณเขตบ้าน ส่วนข้างบ้านฝั่งตลาดสดเช้า มีรั้วเหล็กหนามล้อมคู่ขนานรั้วซีเมนต์อีกชั้นหนึ่ง

ทั้งนี้ บริเวณรั้วหน้าบ้านยังปิดป้ายประกาศและคัดค้านการสร้างตลาด โดยมีป้ายหนึ่งระบุว่า "ตลาดทำผิดสถานที่ โดยยื่นคัดค้านการก่อสร้างเพื่อการพาณิชย์ ที่ติดกับบ้านพักอาศัย ตามเลขที่ใบอนุญาตของกรุงเทพมหานคร 392/2553 ที่ได้เริ่มก่อสร้างในวันที่ 11 มีนาคม 2554 พร้อมทั้งขอคืนถนนคอนกรีตของหมู่บ้าน ระบบสาธารณูปโภคเพื่อการอยู่อาศัย ความสงบสุข ความเป็นระเบียบ และความสะอาด สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยถูกอนามัย มีความปลอดภัยและความบริสุทธิ์" นอกจากนี้ บริเวณขอบถนนหน้าบ้าน เจ้าของได้นำลวดสลิง 2 เส้น ที่สามารถถอดได้มาติดตั้งเพื่อกันรถจอดขวาง  พร้อมปิดป้ายอ้างถึงคำสั่งศาลที่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามมิให้มีรถมาจอดกีดขวางบริเวณหน้าบ้าน และเจ้าของบ้านยังได้ติดป้ายอย่างชัดเจนว่า ห้ามขนถ่ายสินค้า ห้ามจอดกีดขวางประตูบ้าน รวมทั้งยังมีป้ายคัดค้าน และไม่ยินยอมให้สำนักงานโยธากรุงเทพมหานคร สำนักงานจราจรและขนส่งกรุงเทพมหานคร สน.ประเวศ ใช้ถนนสาธารณะภายในหมู่บ้าน เป็นที่ทดสอบ และแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด เนื่องจากมองว่าเป็นการทำลายความสุข สุขภาพอนามัย รวมถึงได้รับผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยบริเวณนี้

ขณะที่ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี อยู่ที่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว พบว่าหญิงสูงวัยในคลิปกำลังขับรถเพื่อกลับเข้าบ้าน โดยได้ลดกระจกฝั่งคนนั่งด้านซ้ายลง และกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “พรุ่งนี้เจอกัน 10.00 น.” ก่อนที่จะมีคนมาเปิดบ้านให้ แล้วขับรถเข้าบ้านไป

เจ้าของตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า ตนเองไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆ กับเจ้าของบ้าน และตั้งแต่ตนเข้ามาดูแลกิจการต่อจากญาติ ก็ไม่เคยเจอกับหญิงคนดังกล่าว จนกระทั้งได้เกิดเหตุเมื่อวานนี้ ทั้งนี้เชื่อว่าลูกค้าที่มาจับจ่ายชื้อของที่ตลาดจะทราบว่า จุดไหนที่สามารถจอดรถได้บ้าง ซึ่งตลาดเองก็มีลานจอดรถให้บริการอยู่แล้วด้วย อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของทางตลาดที่ดูแลได้ไม่ทั่วถึง ทำให้มีรถไปจอดขวางหน้าบ้านคนอื่น โดยหลังจากนี้ได้เตรียมกำลังคนไปช่วยสอดส่องดูแลการจอดรถ ห้ามไม่ให้มีรถจอดพื้นที่ห้ามจอดอีกเด็ดขาด เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ

ด้าน น.ส.รชนิกร (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี เจ้าของรถกระบะที่ถูกทุบ ได้ทางมาที่ สน.ประเวศ โดยยอมรับผิดที่ไปจอดรถขวางหน้าประตูบ้านหลังดังกล่าว เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยตนเป็นคนมหาชัย มาซื้อของที่ตลาดใกล้บ้านหลังนั้นเป็นครั้งแรก จึงไม่คุ้นชินเส้นทาง และไม่ทราบมาก่อนว่าบริเวณดังกล่าวนั้นห้ามจอด ประกอบกับขณะนั้นเห็นว่าหน้าบ้านมีโซ่คล้องอยู่ เข้าใจว่าไม่มีคนอยู่ภายในบ้าน หรือไม่ก็เป็นบ้านร้างอยู่ระหว่างโดนบังคบคดีเพราะมีป้ายปิดเต็มหน้าบ้าน หลังจากจอดรถไว้เพียง 10 นาที กลับมาเห็นว่ามีคนล้อมรถ แล้วเห็นว่าเจ้าของบ้านกำลังถือขวานโวยวายอยู่ ตนก็ได้เข้าไปขอโทษแต่เจ้าของบ้านก็ไม่รับคำขอโทษ ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถ จะให้เจ้าหน้าที่เป็นคนดำเนินการ อยากให้เรื่องดังกล่าวจบลงโดยเร็ว เพราะเสียหายกันทั้งสองฝ่าย

โดยผู้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างรายหนึ่ง ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ขณะกำลังจอดรับส่งผู้โดยสารตรงข้ามกับบ้านที่เกิดเหตุ ตนเห็นว่ามีรถมาจอดขวางหน้าบ้านหลังดังกล่าว และไม่ปลดเบรกมือ ทำให้เจ้าของบ้านออกจากบ้านไม่ได้ จึงได้นำของแข็งมาทุบตีรถ คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างยังบอกอีกว่า บ้านหลังดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดติดหลายจุด เวลามีรถมาจอดขวางก็จะมีคนออกมาไล่ไม่ให้จอด บางครั้งถึงขั้นแจ้งให้ตำรวจมาเป็นคนบอกแทน แต่ก็ไม่เคยเห็นว่าเคยทุบหรือทำลายรถ เหมือนครั้งนี้

ด้านนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดี อัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ปกติแล้วเรื่องการกำหนดสัญลักษณ์การจราจรบนพื้นถนน จะต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานจราจรกำหนด ดังนั้น ประชาชนทั่วไปไม่มีอำนาจไปทำเครื่องหมายเอง ไม่ว่าจะติดป้าย หรือเอาเก้าอี้หรือสิ่งอื่นใดไปกำหนดว่าบริเวณนั้นห้ามจอด หรือแม้แต่การเทปูนทำทางลาดลงฟุตปาธ จะต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ก่อน มิเช่นนั้นจะมีความผิดตามกฎหมายเสียเอง ส่วนกรณีนี้ คนที่จอดรถขวางหน้าบ้าน ไม่ได้ผิดกฎหมายโดยตรง แต่ถือว่าผิดมารยาทการอยู่ร่วมกันของสังคม ส่วนประเด็นที่เจ้าของบ้านนำขวานออกมาทุบรถที่จอดขวางจนเสียหาย ตนถามกลับไปว่า ทำแบบนั้นแล้วรถคันที่ขวางได้ขยับไปออกจากหน้าบ้านไหม เพราะนั่นไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่เป็นการสร้างปัญหาใหม่ โดยมองว่าทางแก้ปัญหายังมีอีกหลายวิธี เช่น แจ้งมูลนิธิ หรือให้ตำรวจมาช่วย ซึ่งถ้ารีบ หรือจำเป็นจริงๆ เช่น มีคนป่วยต้องไปโรงพยาบาล อาจจะใช้วิธีเอารถตัวเองดันรถคันดังกล่าวไม่ให้ขวางประตู ซึ่งรถที่ขวางอาจจะมีรอยเสียหายเล็กน้อย อะลุ่มอล่วยกันดีกว่าทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่