"เต็งหนึ่ง คณิศ ปิยะปภากรกูล" อดีตนักร้องวงบอยแบนด์และพระเอกละครชื่อดัง ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เผยถึงสาเหตุที่มาที่ไปของการหันหลังให้วงการบันเทิง มุ่งหน้าสานฝันของตัวเองในการเป็นเชฟอย่างจริงจัง เลยต้องทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการเรียนรู้สิ่งที่ตัวเองรัก พร้อมเผยช่วงเวลา 10 ปีที่อยู่ในวงการบันเทิงมา นับเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่สุดในชีวิตช่วงเวลาหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ดาว มยุรี" เตรียมปล่อยเพลงใหม่ ถ้าไม่ปังจะเลิกร้องเพลง!!
- "ปีเตอร์" ขอทุ่มชีวิตนี้เพื่อลูก แต่ไม่ได้ปิดโอกาสให้ตัวเองมีคนดูแล
- "ครูอ้วน มณีนุช" เคลียร์ชัด ค่าเรียนร้องเพลงแพงสุดในไทยจริงไหม?!
- ตลกซิทคอมตัวพ่อ "เฮียหมู" งานหด เงินหาย ลั่นยอมตายเพราะไร้เงินรักษาตัว!
- แก้มบุ๋ม ปรียาดา จากเจ้าแม่สายมูเข้าสู่สายธรรมะ ผลบุญหนุนนำแฟนหนุ่มสะกิดคุยเรื่องแต่งงาน
- ดูเพลิงนางย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม เป็นคนที่ชอบทานขนม จนกลายไปเป็นคนทำขนม
เต็งหนึ่ง : ประมาณ 6 ปี ที่แล้ว ตอนแรกเป็นคนที่ชอบทานขนม แต่ด้วยความที่เราทำงานหนัก ร้องเพลง เล่นละครทำโน้นนี่ตลอด จนสุดท้ายเรารู้สึกว่าอยากทำงานที่มันเป็นงานจริงๆ
ถาม ตอนนั้นที่ออกไปเรารู้สึกเบื่อวงการหรือเปล่า
เต็งหนึ่ง : ไม่ได้รู้สึกเบื่อ แต่พลังเราเยอะ เราเลยอยากทำอะไรหลายๆ อย่าง
ถาม บอกว่าพลังเยอะ แต่เราไม่เห็นจำเป็นต้องทิ้งวงการแล้วทุ่มเทแต่ทำขนมอย่างเดียวเลย
เต็งหนึ่ง : คือ ตอนแรกที่เราเริ่มเรียนเราก็เรียนแค่เสาร์ อาทิตย์ แต่สุดท้ายเราไม่ไหวแล้ว เพราะเราต้องเรียนเต็มสูตร เพราะเต็งเรียนที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ เป็นของฝรั่งเศส คือถ้าเป็นในส่วนของขนมที่ผมเรียน ต้องเรียนสามเทอม ประมาณปีนิดๆ ต้องเรียน 5-6 วัน ต่อสัปดาห์เลย มันก็ไม่มีเวลาแล้ว ตั้งแต่ 8.00 – 19.00 น. แต่มันก็แล้วแต่วันครับ เทอมแรกเราก็เรียนเบสิค ทำขนมง่ายๆ เลย คุกกี้ บราวนี่ ขนมฝรั่งเศสง่ายๆ ที่เป็นชิ้นๆ พอเราเริ่มเข้าเทอมกลาง ก็จะเริ่มทำทาร์ต สตอเบอรี่ช็อตเค้ก ที่นำมาวันนี้ จะเป็นขนมของญี่ปุ่นที่ทานง่ายๆ นุ่มๆ ฟูๆ หน่อย ทานคู่กับผลไม้รสเปรี้ยว พอเราเริ่มทำ เราก็รู้สึกว่าขนมมีอะไรให้ทำเยอะ ทำให้เรารู้สึกสนุก เราก็เริ่มที่จะอยากเรียนรู้ไปเรื่อยๆ
ถาม เห็นไปเรียนจริงจังทุ่มเวลาทุกอย่างให้กับการเรียน แต่สุดท้ายเมื่อเรียนจบ คือ ไม่เปิดร้าน
เต็งหนึ่ง : ไม่เปิดร้านครับ พูดตรงๆ เราไม่ได้มีเงินทุนเยอะมากๆ ขนาดที่เราอยากเปิดร้าน ตอนนั้นเราก็หาทางและมองว่าตัวเองจะไปทางไหนดี เลยยื่นเรื่องฝึกงานไปที่อเมริกา ก็เลยไปฝึกงาน ไปเรียนต่อที่อเมริกาเพิ่มเติมด้วย เพราะเราสนุกเราเลยไปเรียนเพิ่มด้วย
เต็งหนึ่ง : และที่ไม่เปิดร้านเพราะคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะทำธุรกิจ เป็นคนศิลปะมาก ชอบทำขนมแต่ไม่รู้วิธีการทำธุรกิจยังไง ตอนนี้เราเลยใช้วิธีการเปิดสตูดิโอให้คนที่อยากจะทำขนมเหมือนกับเรา แต่ไม่ต้องไปเรียนเป็นปีๆ เหมือนกับเรา มาเรียนกับเราเป็นเมนูดีกว่า เช่น ถ้าอยากเรียนทำทาร์ต สตอเบอรี่ช็อตเค้ก ก็เรียนเป็นอย่างๆ ไปเลย
ถาม แล้วพื้นฐานของคนมาเรียน ต้องมีพื้นฐานขนาดไหน
เต็งหนึ่ง : ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานเลยครับ ไม่จำกัดอายุ เพศ ทุกคนสามารถมาเรียนได้หมดเลยครับ บางครอบครัวก็พาลูกมาเรียนพร้อมกันทั้งครอบครัว กลายเป็นกิจกรรมในครอบครัวไปเลย
ถาม แล้วในแต่ละวัน เราสอนกี่เมนู
เต็งหนึ่ง : แค่วันละ 1 เมนูครับ เพราะมันเหนื่อยมาก พลังเราหมด แต่จะมีคลาสเช้า แล้วก็คลาสบ่าย ซึ่งการสอนผมจะสอนอยู่ที่ 4 ชั่วโมงต่อคลาส ซึ่งจะสามารถทำได้เลย นักเรียนที่มาเรียนจะเรียกเราว่า เชฟเต็ง ครับ
เต็งหนึ่ง : สตูดิโอของเราจะเป็นสไตล์มินิมอล เพราะเป็นความชอบส่วนตัวของเราเอง เรารู้สึกว่าขนมน้อย แต่จะต้องมีอะไรอยู่ในนั้น ซึ่งล่าสุดผมก็คิดขนมตัวใหม่นี้ขึ้นมา เพราะผมเห็นว่าเค้กกล้วยหอมในบ้านเราเยอะมากและก็อร่อยหลายร้าน เต็งเลยเอามาปรับใหม่ เอาคาราเมลมาใส่ด้วย กลายเป็น บานาน่าคาราเมล ให้ความเป็นเค้กกล้วยหอมแบบไทย แต่ให้มีความหอมแบบคาราเมลไปด้วย
ถาม ถ้ามีแฟนๆ สนใจที่จะไปเรียนสามารถไปเรียนที่ไหนได้
เต็งหนึ่ง : ที่ April Tree สามารถติดต่อมาทางเฟสบุ๊ค , IG , ทวิตเตอร์ ได้หมดเลยครับ หยุด อังคาร กับ พฤหัสบดี ครับ
ถาม เคยรู้สึกเสียดายไหมที่ต้องทิ้งงานในวงการบันเทิงไปทำขนม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราฝันอีกอย่างหนึ่ง
เต็งหนึ่ง : มีคิดบ้างครับ เพราะก็เสียรายได้ไปเยอะ ในความรู้สึกเราการทำงานในวงการ คือ ความฝันแรกๆ ของเราเลย พอเราได้เป็นนักร้อง เรารู้สึกว่าได้เป็นแล้ว ได้ทำแล้ว แต่พอเราโตขึ้น เราก็อยากทำฝันอื่นๆ ต่อไป เรารู้สึกว่าชีวิตเราต้องสนุกสิ ต้องทำอะไรหลายๆ อย่าง สุดท้ายเราเลยตัด ไม่รับละครแล้ว