“มีมี่ เทา” เผยนาทีหวิดสิ้นชื่อ ถูกกระชากตกวินแผลเหวอะ – รปภ. รับย่านนี้โจรชุม (คลิป)

23 ก.พ. 61
จากกรณีที่ นายพชรณัฏฐ โนบรรเทา หรือ “มีมี่ เทา” อายุ 26 ปี นางแบบสตรีข้ามเพศชื่อดัง เวทีแฟชั่นระดับโลก ถูกมิจฉาชีพ ใช้รถจักรยานยนต์ขับประกบ ก่อนจะกระชากกระเป๋า จนทำให้รถคันที่นั่งซ้อนท้ายมา ล้มลงจนได้รับบาดเจ็บ
นายพชรณัฏฐ โนบรรเทา หรือ “มีมี่ เทา” ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวผ่านทางวีดีโอคอล
ล่าสุด วันนี้ (22 ก.พ.) “มีมี่ เทา” ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญผ่านทางวิดีโอคอล เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.00 น. ได้เรียกวินจักรยานยนต์รับจ้างจากที่พักย่านรัชดา เพื่อไปรับประทานอาหารที่ย่านสุรวงศ์ ช่วงที่รถติดไฟแดง บริเวณแยกสารสิน ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลจุฬาฯ ได้มีรถจักรยานยนต์อีกคัน ขับเบียดเข้ามาใกล้ ทันใดนั้นคนร้ายที่ขับรถมาประกบ ได้กระชากที่สายกระเป๋าสะพายด้านขวาอย่างแรง แต่โชคดีที่ตนใช้แขนคล้องกระเป๋าไว้แน่น ทำให้จังหวะที่ถูกคนร้ายกระชาก รถได้เสียหลักล้มลง ตนจึงรีบดึงสายสะพายกระเป๋ากลับอย่างแรง จนหลุดจากมือคนร้าย ก่อนที่คนร้ายจะเร่งเครื่องหลบหนีไป ขณะเกิดเหตุ ตนไม่ได้สวมหมวกกันน็อก และใส่เสื้อสีขาวแขนกุด ทำให้เกิดรอยถลอกหลายจุด ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก
บาดแผลที่ตัวผู้เสียหาย
“มีมี่ เทา” เล่าว่า ตอนรถล้มลงในใจตนได้แต่ภาวนา ขออย่าให้มีรถตามมาในระยะใกล้ เพราะกลัวว่ารถที่วิ่งตาม อาจจะเบรกไม่ทันและขับทับตนได้ ส่วนตัวยอมรับว่า ตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้น และยังถือว่าตนโชคดีมาก ที่ขณะนั้นไม่มีรถขับตามหลังมาทับ หลังเกิดเหตุได้มีคนขับรถจักรยานยนต์ที่ขับตามหลังมา ได้ให้การช่วยเหลือ โดยได้เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุ หลังจากนั้นได้นำใบรับรองผลการตรวจร่างกาย เข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี ทันที คืนนั้นช่วงที่ตนนั่งรถจักรยานยนต์ เห็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ขับผ่านมาตามถนนที่เกิดเหตุ ทำให้รู้สึกอุ่นใจว่า มีสายตรวจขับรถตรวจในช่วงกลางดึก แต่พอตำรวจขับรถผ่านไป ตนถูกคนร้ายกระชากกระเป๋าทันที ถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก เพราะก่อเหตุในพื้นที่ห่างจาก สน.ลุมพินี เพียง 500 เมตร นอกจากนี้ "มีมี่ เทา" เล่าให้ฟังอีกว่า เนื่องจากช่วงเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน และเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงจำรูปพรรณสัณฐานคนร้ายได้แค่ว่า สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำตาล ใส่หมวกกันน็อกแบบเต็มใบ และทราบข้อมูลจากคนที่ขับรถจักรยานยนต์ที่เข้ามาช่วยเหลือตนว่า เห็นรถจักรยานยนต์ของคนร้ายขับตามตนมา จนกระทั่งถึงจุดเกิดเหตุ พร้อมกับสังเกตว่า รถของคนร้ายไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเรื่องการติดตามคนร้าย คงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการต่อไป
รอยถลอกที่กระเป๋าหนังของผู้เสียหาย
"มีมี่ เทา" ได้นำกระเป๋าหนังสีน้ำตาลแบบสะพายข้าง ให้กับผู้สื่อข่าวดู พบว่า มีรอยถลอกที่กระเป๋า รอยดังกล่าว เกิดจากการไถลไปกับพื้นถนน ขณะรถจักรยานยนต์ล้ม และยังพบคราบเลือดติดอยู่บนกระเป๋า ส่วนบริเวณสายของกระเป๋า พบรอยคล้ายถูกของมีคมกรีด โดย "มีมี เทา" กล่าวว่า คนร้ายอาจจะพยายามใช้ของมีคม ตัดที่สายสะพายในจังหวะที่กระชากสายกระเป๋า แต่ตัดไม่ขาด บวกกับตนรีบดึงสายกระเป๋ากลับ จึงทำให้คนร้ายก่อเหตุไม่สำเร็จ
ร่องรอยบาดแผลที่ตัวผู้เสียหาย
ส่วนอาการบาดเจ็บ ยังรู้สึกปวดที่บริเวณไหล่ และฝ่ามือที่เป็นแผลต้องใช้พันแผลปิดไว้ พร้อมกับอยากฝากเตือนภัยให้ทุกคนระมัดระวังตัว ไม่เพียงแค่ผู้หญิง สาวประเภทสองหรือชายหนุ่ม เพราะเหตุการณ์ที่ตนเจอมาในครั้งนี้ อาจจะเกิดขึ้นกับทุกคน ดังนั้นการจะเล่นมือถือระหว่างเดินทาง หรือสะพายกระเป๋าแบบไม่ระวัง ก็อาจตกเป็นเหยื่องของมิจฉาชีพ และอาจจะไม่โชคดีแบบตนก็ได้ จากนั้น ทีมข่าวเดินทางมาที่บริเวณซอยมหาดเล็กหลวง 2 ซึ่งระบุว่า เป็นซอยที่ผู้เสียหายขึ้นรถวินมอเตอร์ไซด์รับจ้างออกไป พบว่าซอยดังกล่าวเป็นซอยตัน มีเพียงวินเดียวที่เปิดบริการประชาชนอยู่บริเวณปากซอย
นายสมพงษื ประชุมเมศ หัวหน้าวิน รถจยย.ซอยมหาดเล็กหลวง 2
นายสมพงษ์ ประชุมเมศ หัวหน้าวินซอยมหาดเล็กหลวง 2 กล่าวว่า วินจยย.รับจ้างที่ขับไปส่งผู้เสียหายในวันเกิดเหตุไม่ใช่วินของตนอย่างแน่นอน เพราะสมาชิกในวินไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากรถล้ม อีกทั้งวินตนจะเปิดบริการไม่เกิน 22.00 น.โดยส่วนใหญ่ช่วงเวลากลางคืนจะเป็นผู้ขับขี่จากวินอื่น นายสมพงษ์ ระบุว่า เท่าที่ตนเคยได้ยินข่าวมา มักมีเหตุวิ่งราวอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งหลายครั้งที่ตนต้องบอกให้คนที่เดินผ่านไป-มา ระวังกระเป๋าเพราะพื้นที่ย่านนี้ พอถึงช่วง 22.00 น.ก็จะเริ่มเปลี่ยวผู้คนสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณถนนราชดำริ ช่วงสวนลุมพินี ตรงข้ามโรงพยาบาลจุฬาฯ ซึ่งทีมข่าวได้พบกับ พลทหารโกมินทร์ โคตรงาม เจ้าหน้าที่ รปภ.ประจำลานจอดรถสวนลุมพินี ซึ่งเข้าเวรปฎิบัติในวันเกิดเหตุ เล่าว่า ขณะนั้นตนนั่งอยู่ด้านในลานจอดรถ มีรุ่นน้องที่เข้าเวรด้วยกันได้ยินเสียงรถล้ม ตนและน้องก็เลยวิ่งออกมาดู พบว่าขณะนั้นรถจักรยานยนต์คันที่ผู้เสียหายนั่งมาล้มลง และอยู่ระหว่างการพยายามยกรถขึ้นจากพื้นถนน
พลทหารโกมินทร์ โคตรงาม รปภ.ผู้เห็นเหตุการณ์
พลทหารโกมินทร์ กล่าวว่า ขณะนั้นตนเห็นรถจักรยานยนต์ 2 คัน ซึ่งรถจักรยานยนต์ทั้งสองคันล้มอยู่ที่พื้นถนน แต่หลังจากลุกขึ้นมาได้ ตนเห็นรถอีกคันขับออกไปก่อน โดยคนขับเป็นผู้ชายส่วนคนซ้อนเป็นผู้หญิงรูปร่างท้วม โดยเท่าที่ตนเห็นทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้มีปากเสียงกัน ตนคาดว่ารถจยย.คันที่ขับออกไปก่อนน่าจะเป็นรถคนร้าย เท่าที่สังเกตตนเห็นว่าผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหัวไหล่ เพราะเห็นผู้เสียหายใช้มือจับๆอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อผู้เสียหายมานั่งอยู่ริมถนนได้ 5 นาที ก็ลุกขึ้น ก่อนที่จะรถจักรยานยนต์รับจ้างออกไป
พลทหารโกมินทร์ โคตรงาม พาผู้สื่อข่าวดูบริเวณที่เกิดเหตุ
พลทหารโกมินทร์ กล่าวว่า ย่านนี้ในช่วงกลางคืนและช่วงเช้ามืด มักมีเหตุลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง ส่วนใหญ่มิจฉาชีพจะขับรถจักรยานยนต์มาก่อเหตุ จากการลงพื้นที่ของทีมข่าว พบว่าในช่วงดังกล่าวเป็นช่วงถนนระหว่างสวนลุมพินี ซึ่งไม่พบเห็นกล้องวงจรปิดในที่จุดเกิดเหตุ แต่ในพื้นที่ใกล้เคียงจะพบกล้องวงจรปิดของ กทม.ติดอยู่ตามแยกต่างๆ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ