จากกรณีนายวันชัย บุญเรือง คลุ้มคลั่งใช้อาวุธมีดแทง รปภ.และอาสาจราจร ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์งามวงวาน จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะถูกล็อกตัวไว้ได้ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 4 ต.ค.63 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์งามวงศ์วาน เผยแพร่คําชี้แจงตามที่มีการนําเสนอข่าว กรณีพบชายอาการผิดปกติเข้ามาภายในพื้นที่ศูนย์การค้า และทําร้ายร่างกายผู้ใช้บริการภายในศูนย์การค้า โดยมีรายละเอียดดังนี้
เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 3 ต.ค.63 เวลาประมาณ 20.00 น. พนักงานภายในศูนย์การค้าได้พบชายมีอาการผิดปกติเข้ามาภายในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ จึงได้รีบแจ้งพนักงานรักษาความปลอดภัยเชิญออกนอกพื้นที่ แต่ชายดังกล่าวได้ขัดขืนการควบคุมและทําร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รวมถึงเจ้าหน้าที่จราจร จนได้รับบาดเจ็บรวม 4 คน
ทั้งนี้ผู้บาดเจ็บทั้ง 4 คน ประกอบด้วย 1.นายเด่นชัย พจน์ประสาท อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ถูกแทงที่แขนขวา 2.นายพงศ์พันธ์ ศรีหาบุตร อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถูกแทงที่คอด้านหน้า ไม่โดนอวัยวะสำคัญ 3.นายนันนที อาจอาสา อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ถูกแทงที่หน้าหน้าท้อง 4.นายบุญช่วย รักเอี่ยม อายุ 52 ปี อาสาจราจร ถูกแทงด้านหลัง โดยทั้งหมดอาการปลอดภัยแล้ว แต่นายนันนที และนายบุญช่วยยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู
โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ ไม่มีผู้ใช้บริการได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และในที่สุดชายผู้ก่อเหตุได้ถูกควบคุมตัว และนําส่งเจ้าหน้าที่ตํารวจที่ สภ.นนทบุรี เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อเช็กประวัตินายวันชัย เคยปล้นทรัพทย์ จ.เชียงใหม่ จำคุก 3 ปี 11 เดือน เพิ่งพ้นโทษมาวันที่ 13 ก.ย.63
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ทีมข่าวมาพบกับ น.ส.ส้ม (นามสมมติ) พนักงานของร้านอาหารในเดอะมอลล์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วง 20.30 น. ตอนนั้นคนในห้างไม่เยอะแล้ว ตนเห็นชายผู้ก่อเหตุมาที่ร้านไอศกรีม เป็นการมาขอซื้อน้ำแต่เข้ามาข้างร้าน จากนั้นมาขอซื้อน้ำเปล่า แต่ร้านดังกล่าวไม่มีน้ำเปล่าขายให้ ทำให้ชายรายนี้เดินไปที่ร้านโดนัท ก่อนที่จะเดินวนไป วนมาอยู่ละแวกนี้ราว 4 รอบ
ส่วนตัวเห็นชายรายนี้ท่าทีแปลก ๆ เดินตาขวาง ตาแข็ง ๆ ซึ่งตอนแรกชายรายนี้สวมหมวก ก่อนจะถอดออก ที่ใบหน้าไม่สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งตนไม่ทราบว่าชายรายนี้ต้องการอะไร เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงคุยกับพนักงานที่ร้านด้วยกันว่า ตนได้ล็อกลิ้นชักเก็บเงินไว้ก่อนแล้ว จากนั้นพวกตนได้มีการแจ้ง รปภ.ให้เข้ามาดูชายคนก่อเหตุ ซึ่งเมื่อ รปภ.เดินมาถึง ก็มาขอร้องให้ชายรายนี้ออกจากห้างฯ เพราะเห็นว่าไม่มีหน้ากากอนามัยสวมใส่
โดยชายรายนี้ให้ความร่วมมือปกติ ไม่ได้มีการล็อกตัวแต่อย่างใด แค่มี รปภ.มาเชิญตัวพาออกจากห้างฯ ระหว่างกำลังเดินออกจากห้างใกล้หน้าร้านขายขนม ชายรายนี้ที่เดินปกติ กลับหลังตัวและผลัก รปภ. จนล้มลงกับพื้น จากนั้นต่างคนก็ต่างแตกตื่น ตนก็รีบออกไปนอกห้างฯ จากนั้นตนคิดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะปีนเข้าเคาเตอร์ของร้านไอศกรีม เพื่อมาหยิบมีด และใช้ก่อเหตุดังกล่าว
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายตาม (นามสมมติ) พนักงานขายอาหารภายในห้างสรรพสินค้าดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค.63 เวลาประมาณ 20.00 น. ทราบว่ามีชายรายหนึ่งเดินเข้ามาในห้างไม่สวมหน้ากากอนามัย และมีท่าทีแปลก ๆ เจ้าหน้าที่รปภ.จำนวน 5 คน จึงเข้าไปตรวจสอบ พบชายรายดังกล่าวยืนอยู่หน้าร้านไอศกรีม ขณะนั้นพนักงานในที่เกิดเหตุเริ่มหนีออกมาหลบด้วยความกลัว
ส่วนตนก็ถ่ายไลฟ์ทางเฟซบุ๊กไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่ รปภ.ยืนคุมเชิงอยู่นั้น ชายรายดังกล่าวก็กระโดดเข้าไปที่บนเคาน์เตอร์ร้านไอศกรีม พร้อมหยิบมีดปอกผลไม้จำนวน 2-3 ด้ามออกมา จากนั้นทุกคนก็แตกกระเจิง
ชายรายดังกล่าวเดินวนไปมา และเริ่มถอดเสื้อคลุมลายพรางออก จากนั้นก็ถอดเสื้อยืดด้านใน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ รปภ.ประมาณ 3 คนจะวิ่งเข้าไปชาร์จ ซึ่งชายรายดังกล่าวใช้มีดที่ถืออยู่ในมือ 1 ด้ามแทงไม่ยั้ง โดยผู้ก่อเหตุมีอาการคลั่งอย่างมาก คล้ายเป็นคนเมา จนเจ้าหน้าที่รวมถึงพนักงานส่งอาหารผู้ชายจะเข้าไปช่วยกันควบคุมตัว โดยใช้เก้าอี้ทุ่มใส่ผู้ก่อเหตุ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที จึงสามารถควบคุมตัวได้
โดยคลิปไลฟ์เฟซบุ๊ก จับภาพตั้งแต่ช่วงที่ผู้ก่อเหตุยืนอยู่หน้าร้านไอศกรีม ก่อนกระโดดไปหยิบมีดที่เคาน์เตอร์ เดินวนไปมา และไปยืนถอดเสื้อหน้าร้านขนมปัง จากนั้นเจ้าหน้าที่ รปภ.เข้าล็อกตัว คนด้านในห้างฯ ช่วยกันรุมประชาทัณฑ์
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายธีรศักดิ์ ไพรวัลย์ อายุ 41 ปี ผู้โพสต์เฟซบุ๊ก กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนได้เข้าไปขายรถยนต์ภายในห้างฯ สรรพสินค้าดังกล่าว จนเวลาประมาณ 20.00 น. สังเกตเห็นลูกค้าวิ่งมาจากโซนร้านอาหารออกหลังห้าง ตนจึงเดินไปดูบริเวณโซนร้านอาหาร พบชายรายหนึ่งใส่เสื้อคลุมลายพราง กางเกงลักษณะคล้ายกัน ยืนอยู่หน้าร้านไอศกรีม ก่อนจะกระโดดขึ้นเคาน์เตอร์และหยิบมีดปลายแหลมยาวขึ้นมา และวิ่งลงมาจากเคาน์เตอร์ลักษณะเหมือนจะมาไล่แทง
ด้วยความตกใจตนจึงรีบวิ่งหนี พร้อมพนักงานและลูกค้าคนอื่น ๆ ในห้าง เพื่อไปหลบที่ลานจอดรถด้านหลัง จากนั้นไม่ถึง 5 นาที เมื่อไม่ได้ยินเสียงปืนหรือเสียงดังผิดปกติ จึงเดินกลับมาดู พบว่าเจ้าหน้าที่ของห้างฯ ได้ช่วยกันจับกุมตัวนายวันชัยได้แล้ว โดยน่าจะเป็นจังหวะที่รปภ.เข้าไปชาร์จตัว แล้วอีกฝ่ายชักมีดแทง จากนั้นก็มีการรุมประชาทัณฑ์ผู้ก่อเหตุ และหามออกจากพื้นที่
โดยส่วนตัวรู้สึกกลัวมาก เพราะตอนแรกคิดว่าคนร้ายเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร เนื่องจากใส่ชุดลายพราง จึงกลัวว่าจะมีอาวุธปืนหรือระเบิด แล้วจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำเหมือน จ.นครราชสีมา
จากนั้นทีมข่าวโทรศัพท์ไปพูดคุยกับนางน้อย (นามสมมติ) ภรรยาของนายบุญช่วย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาสาจราจร ที่ถูกแทงได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า นายบุญช่วยถูกแทงที่หลัง 1 จุด ก่อนหน้านี้มีเลือดซึมเข้าปอด แพทย์จึงผ่าตัดเอาเลือดออก ซึ่งอาการดีขึ้นแล้ว สามารถพูดคุยได้ แต่ยังพักดูอาการอยู่ในห้องไอซียู ซึ่งตนก็กังวล เพราะสามีป่วยเป็นโรคหัวใจพองโตด้วย จุดที่ถูกแทงก็ตรงกับหัวใจพอดี อาจจะมีอาการแทรกซ้อนภายหลังได้
ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาล เป็นการรักษาฟรี เพราะทางห้างสรรพสินค้าทำประกันเอาไว้ให้ทั้งหมด ส่วนเรื่องค่าเยียวยายังไม่ได้พูดคุยกัน ทั้งนี้ช่วงที่เกิดเหตุสามีได้เข้าไปช่วยระงับเหตุ โดยคนร้ายกำลังอาละวาด สามีตนวิ่งหนีแล้วล้ม จึงถูกคนร้ายแทงจากข้างหลังได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้แจ้งข้อหา นายวันชัย บุญเรือง อายุ 33 ปี หนุ่มคลั่งไล่ฟันกลางห้างฯ รวม 2 ข้อหา ได้แก่ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ และพกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะฯ