"พลอย พลอยพรรณ" สอนลูก! อย่ากลัวที่จะบอก หากโดนครู-เพื่อนรังแก

คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว "พลอย พลอยพรรณ" อดีตภรรยาของพระเอกหนุ่ม "ปีเตอร์ คอร์ป ไดรัลนัล" เผยพัฒนาการของลูกที่มีคุณภาพมากขึ้น พร้อมกันนี้ก็ได้เล่าถึงเหตุผลที่ตัดสินใจให้ลูกลองเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเล่นละครเรื่องแรกในชีวิตว่า นี่เป็นการเปิดโอกาสให้เขาได้ลองทำในสิ่งแปลกใหม่เพื่อเป็นตัวเลือกในอนาคตนั่นเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “พลอย พลอยพรรณ” สอนลูก หากโดนใครขู่มาบอกแม่!
- “ปีเตอร์ คอร์ป” แฮปปี้ ยกสิทธิ์เลี้ยงดูลูก 100% ให้ “พลอย พลอยพรรณ”
- พลังแห่งซิงเกิลมัม! "พลอย" โผล่คอมเมนต์ไอจี "ซาร่า คาซิงกินี" จะเอาลูกต้องข้ามศพแม่ไปก่อน!

พลอย เผยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าลูกๆ มีคุณภาพเพิ่มขึ้นมาก เพราะตนสามารถเติมเต็มในส่วนของการเสริมสร้างทักษะ ช่วยทำการบ้าน ได้เห็นพัฒนาการของลูกในทุกๆ วัน ส่วนน้องแพนเตอร์ ตอนนี้ก็ฉายแววการแสดงด้วยการร่วมเล่นละครด้วยการชักจูงของผู้ใหญ่ในวงการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนมองว่าเป็นโอกาสไม่ใช่ว่าจะได้ทำทุกวัน จึงตัดสินใจถามน้องแพนเตอร์ว่าอยากลองทำไหม ซึ่งแน่นอนว่าน้องก็ได้ลอง วันนึงถ้าเขาชอบ วันหลังก็สามารถรับงานแบบนี้ได้อีก แต่ถ้าลูกไม่ชอบก็ไม่เป็นไร ถือว่าให้เขาได้ลองแล้ว

อย่างไรก็ดี หลังจากได้เข้าไปชิมลางแล้ว น้องแพนเตอร์ ทำออกมาได้ดี แต่หลายคนก็เข้าใจว่าด้วยความเป็นเด็ก อาจจะมีบางช่วงที่งอแงบ้าง ซึ่งตนก็ตามไปกองถ่ายทุกวันเพื่อต่อบท ปรับอารมณ์ให้ลูกอยู่ตลอด และโชคดีที่ได้คำปรึกษาจากนักแสดงรุ่นน้าอย่าง เทย่า โรเจอร์ส ก็เรียกว่าช่วยได้เยอะ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของครูพี่เลี้ยงในโรงเรียน และเด็กนักเรียน พลอย เผยว่า ตนมีการเปิดคลิปที่เป็นข่าวให้ลูกดูเพื่อนเป็นกรณีตัวอย่าง พร้อมกับอธิบายว่า สิ่งแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับลูก หากเกิดเหตุแบบนี ต้องดูที่เจตนาเป็นหลัก บางครั้งเกิดจากความไม่ตั้งใจของครูหรือเพื่อน และปลูกฝังเรื่องของสิทธิของมนุษย์ที่สามารถทำหรือไม่สามารถทำอะไรได้บ้างพร้อมๆ กับการสอนให้เคารพสิทธิของคนอื่น ไม่ควรไปล่วงเกินใคร ไม่ว่าจะเป็นด้วยร่างกายหรือคำพูด พร้อมกับการบอกตลอดว่าหากโดนใครขู่มา ต้องบอกแม่ อย่ากลัว ไม่อย่างนั้นเขาจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่บางครั้งที่มีแผลกลับมา ตนก็เข้าใจได้ว่าอาจจะเป็นการเล่นกันระหว่างเพื่อน

สุดท้าย พลอย ได้อัพเดตถึงพัฒนาการของน้องแพนเตอร์ ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะอายุ 6 ขวบแต่ตัวแน่นมาก สามารถใส่เสื้อผ้าเด็กวัย 8 ขวบได้ แต่จะกังวลหน่อยก็คงจะเป็น น้องพูม่า วัย 5 ขวบที่ค่อนข้างทานอาหารได้น้อยกว่าปกติ ใช้เวลาทานนาน อิ่มเร็ว ซึ่งตนก็ยอมรับว่าเป็นห่วงว่าลูกจะขาดสารอาหารจึงพยายามให้กินจำพวกโปรตีนที่เป็นสารอาหารเข้าไปก่อน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องสุขภาพจิต น้องพูม่า เป็นเด็กที่มีความสุขมาก ซึ่งเจ้าตัวมองว่านี่เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเด็กวัยนี้และยากที่จะสร้างได้นั่นเอง.