ยังคงเป็นเรื่องราวที่สังคมให้ความสนใจกันอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ สาว “ซาร่า คาซิงกินี” ได้ออกมาแถลงข่าวโต้กลับหนุ่ม “ไมค์ พิรัชต์” ปมแย่งลูก โดยก่อนหน้านี้หนุ่มไมค์เองได้มีการยื่นคำร้องสิทธิ์ในการปกครองบุตรร่วม และหลังจากที่สาวซาร่า แถลงจบไม่นาน หนุ่มไมค์ ก็ได้โพสต์ข้อความถอนคำร้องสิทธิ์ในการปกครองบุตรร่วม
ล่าสุดเพื่อนสนิทของสาวซาร่าก็ได้ออกมาโพสต์แฉหนุ่มไมค์ โดยร่ายข้อความยาว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “มดดำ” แฉสนั่น “วาดิม” ชิ่งหนี “ซาร่า” ไปแล้ว! ทวิตเตอร์ผุดแชทฝ่ายชายตัดสัมพันธ์ไม่ใยดี
- “ไมค์ พิรัชต์” ขอเก็บเงินเข้าบัญชีของลูก และจะมอบให้เมื่อลูกบรรลุนิติภาวะ
- "ซาร่า" เคลียร์ 6 ข้อเรียกร้อง ปมรีดไถ "ไมค์" ใช้ลูกเป็นตัวประกัน สอน "แม็กซ์เวลล์" ติดหรู!!
ซ
ทำไมถึงบวกค่าใช้จ่ายออกมาแล้ว 10 ล้าน ทั้งๆที่ความจริงมันไม่ถึง? บอกว่าค่าเทอมปีละ 8 แสน ทั้งๆที่มันเพิ่งมา 8 แสนตอนปีสุดท้าย 🙄 ค่าคลอด 4 แสน? หืม หรอ ลองไปถามรพ. ดูนะว่าขนาดอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นทุกปี วันนี้ค่าคลอดก็ยังไม่ได้ 4 แสน? กล้าพูดมั้ยว่า 30,000 บาทนั้นไม่ได้ให้ด้วยความสเน่หาในตัวผู้หญิงด้วย ทีแรกมันเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่คงรู้ดีแก่ใจ และผู้หญิงเคยจะออกไปทำงานนอกบ้านแต่คุณพูดว่าอะไรก็คงรู้ดีอยู่แก่ใจเช่นกัน การพูดความจริงแต่พูดไม่หมดเพราะมีเจตนาอย่างอื่นแอบแฝงก็มีให้เห็นได้ในกรณีทั่วไป โดยส่วนตัวแล้วเราคิดว่าเมื่อบุคคลใดได้ให้สัจจะวาจากับบุคคลอื่นไปแล้วว่าจะทำอะไร ควรทำตามสัจจะวาจาของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแค่คำพูดหรือเป็นคำมั่นสัญญาก็ตาม
และก่อนคุณจะเปลี่ยนไป มันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง คนทำย่อมรู้อยู่แก่ใจดีแต่จะยอมรับและพูดมันออกมาให้คนอื่นได้ยินรึป่าวนั่นเป็นอีกเรื่องนึง อยากจะร้องเพลงเรื่องคืนนั้นของ girly berry ให้กับฉากนี้มากค่ะ
ตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ทีแรก ถ้าทุกคนจะตามหาอ่านข่าว จะพบว่าทุกครั้งนักข่าวจะจี้สัมภาษณ์และถามว่าพ่อได้เซ็นรับรองบุตรหรือยัง ฝ่ายพ่อนั้นไม่เคยเซ็นแต่มีหอบขึ้นบ้าง เป็นลมกลางวงสัมภาษณ์บ้าง สุดท้ายแล้วถึงมาบอกว่าเซ็นรับรองบุตรแล้ว แต่พอนักข่าวมาถามแม่ แม่กลับบอกว่าไม่ได้เซ็นทั้งๆที่แม่อยากให้เซ็นรับรองบุตรมาโดยตลอด จนฝ่ายแม่ถึงได้พูดทำนองว่า “ถ้าไม่เซ็นก็ไม่เป็นไร ให้ลูกตัดสินใจตอนโตก็ได้ว่าจะรับเขาเป็นพ่อหรือไม่” แล้วเหตุใดพ่อที่ไม่เซ็นรับรองบุตรในวันนั้นถึงอยากจะเซ็นรับรองบุตรในวันนี้พร้อมกับตั้งคำถามว่าทำไมกระดาษถึงสำคัญกว่าการกระทำ อยากจะเรียนให้ทราบว่าถ้าคุณปรึกษาทนายหรือแม้กระทั่งแค่เสิจหาข้อมูลหรืออ่านข้อกฎหมาย คุณก็จะไม่ตั้งคำถามนี้ค่ะ ทีนี้พอได้คำตอบแล้ว อยากถามว่า “และเพราะเจตนาอะไรถึงได้ตั้งคำถามนี้ขึ้นมาคะ?”
การเลี้ยงดูลูก ไม่มีอะไรมาเป็นมาตรฐานวัดว่าต้องให้เท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ เพราะไม่มีอะไรผิด ไม่มีอะไรถูก ในเมื่อคุณมีกำลังมากพอจะส่งลูกเรียนอินเตอร์ก็ไม่ควรนำค่าใช้จ่ายลูกไปเปรียบเทียบกับบุคคลทั่วไปที่รายรับไม่เท่าคุณ ที่พูดเรื่องเงินเพราะทุกคนดูจะสนใจเรื่องเงินเกือบ 10 ล้านตามที่เป็นข่าวเป็นประเด็นหลักทั้งๆที่ทุกคนก็บอกว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน เป็นงง 😕 และถ้าคุณจะเปรียบเทียบ ก็มาค่ะ เราจะเปรียบเทียบกับเด็กอินเตอร์ทั่วไปละกัน
- เงินค่าเทอมเด็กอินเตอร์ก็ราคาเท่านี้แต่ไหนแต่ไรและแล้วแต่โรงเรียนว่าจะราคาเท่าไหร่ ถ้าคุณมีปัญหาแล้วจะย้ายลูกไปเรียนระบบไทยที่มีคุณภาพก็ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือคุณมาบอกในวันที่โรงเรียนไทยบางที่ปิดรับสมัครไปแล้ว การดูโรงเรียนให้ลูกไม่ใช่การเล่นคุกกี้เสี่ยงทายที่จะหยิบเอาที่ไหนมาก็ได้ เพราะทุกคนที่เคยมีลูกหลานและส่งไปเรียนโรงเรียนเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไปก็ทราบถึงปัญหาที่ระบบการศึกษาไทยมีและแทบจะไม่เคยถูกแก้ไข
- คุณพี่เลี้ยง/คุณแม่บ้าน คนขับรถ เป็นเรื่องปกติที่เด็กอินเตอร์จะมี รวมถึงเด็กโรงเรียนไทยบางคนที่ครอบครัวมีกำลังจะจ่ายและ/หรือมีความจำเป็นต้องจ้าง
ทุกอย่างควรเป็นไปตามกำลังพ่อและแม่ค่ะ และถูกต้องค่ะ เราว่าถ้าจะแฟร์ที่สุด ฟ้องต่อเลย จะได้ได้ข้อยุติของข้อพิพาทนี้ ระหว่างนั้นจะมีการสืบทรัพย์หรือฟ้องอะไรกันก็ว่าไป ไม่ต้องมีใครเล่นบทพระเอกหรือนางเอกแล้ว เพราะ ณ วันที่ลงจากศาลมา คุณเตรียมนักข่าวมาพร้อมทำข่าวเต็มที่เลย ถ้าเจตนาคุณมีแค่อยากปกครองบุตร คงไม่ต้องแจ้งนักข่าวมาทำข่าวด้วย ก็แค่ให้เรื่องมันเป็นไปตามกระบวนการศาล
จริงๆเงินเดือนตามที่ส่งมาให้ตามที่เป็นข่าวนั่นไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตใจกลางเมือง ประเด็นนี้ขออนุญาตให้คนต้นข่าวย้อนนึกและย้อนแชทดูดีดีนะคะว่าที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่ทีแรกคืออะไร 😐 ถ้าคุณจะได้ตามข่าวการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศดูบ้าง จะพบว่าอัตราเงินเฟ้อนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าจะพูดกันแบบชาวบ้านเลยก็คือค่าครองชีพย่านใจกลางเมืองย่อมสูงกว่านอกเมืองอยู่แล้วค่ะ และเด็กเล็กยังมีค่าเรียนพิเศษเพิ่มอีก ทั้งกิจกรรมและวิชาการ อันนี้เราพูดรวมๆแบบไม่เจาะจงและจะขอยกตัวเองเป็นตัวอย่างนะคะ ว่าแม่เราเองก็กัดฟันสู้ตั้งแต่แรกเหมือนกันเพราะเราไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดค่ะ เผื่อใครจะคิดว่าเรา bias ที่นำครอบครัวคนอื่นมาเปรียบเทียบกับเรา สภาพทางการเงินของคุณพ่อคุณแม่น้องตอนนี้ดีกว่าคุณแม่เราที่หาเงินคนเดียวเลี้ยงลูก 3 คนในสมัยนั้นมากค่ะ แต่แม่เราก็ไม่เคยขาดการจ้างพี่เลี้ยงเลยนะคะ 😮
การที่เพจให้ข่าวว่า ฝ่ายแม่เบิกทุกอย่างกระทั่งค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าถุงเท้า ค่าจิปาถะอื่นๆ ทำไมถึงไม่บอกด้วยคะว่าสถานการณ์จริงวันเรื่องถุงเท้าคือมันเกิดอะไรขึ้น แม่เขาเบิกอะไรบ้าง แม่เขาจ่ายอะไรบ้าง ค่ารพ.ลูก? ค่าอาหาร? ค่าชุดนักเรียนที่สลับกันจ่าย? ค่าเรียนพิเศษบางอย่าง? บิลค่าน้ำค่าไฟที่หลุดออกมาถึงเพจดังได้นี่เป็นบิลที่อยู่ในตู้จดหมายคอนโดที่ฝ่ายหญิงไม่เคยมีกุญแจ และฝ่ายหญิงก็ไม่เคยไปเปิดตู้จดหมายนั้นดูได้เลยแต่จ่ายออนไลน์มาโดยตลอด แล้วรอบแรกที่บอกว่าค้างจ่ายค่าน้ำค่าไฟคอนโดนี่ทำไมไม่บอกทั้งหมดคะว่าสถานการณ์จริงมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง? และทำไมบิลนั้นที่อยู่ในตู้จดหมายคอนโดถึงบินไปหาเพจดังได้หรอคะ? ทำไมมมมมมมมม และใครเป็นให้ข่าวชี้นำไปในทางที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดแบบที่เห็นในเพจดังโพสหรอคะ? 🙃 //เอียงคอมองงง ทำไมถึงไม่บอกคะว่าผู้ชายคนอื่นที่ขึ้นไปเจอในคอนโดนี่คือแฟนป้าแท้ๆที่เขาไปช่วยขนของออกจากคอนโดหลังจากที่คุณได้เชิญฝ่ายหญิงออกมาแล้วพยายามกดดันให้ออกแทบทุกเดือน แล้วให้ขนออกภายในไม่กี่วัน แต่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง ทั้งๆที่คุณเองก็รู้ว่าเขาคือใครแต่ทำไมไม่พูดด้วยคะ?
และอันนี้คือคำถามจากใจเราเลยนะคะ ขอโทษด้วยถ้าทำให้ใครรู้สึกไม่ดี แต่ที่เพจฝ่ายพ่อให้แม่และเด็กได้พักอยู่คอนโดหรูกลางทองหล่อนี่เราอยากถามว่าอันนั้นเรียกหรูจริงๆหรอคะ... คือคุณมีเจตนาให้คนอื่นเข้าใจว่ามันคือ penthouse รึป่าว เราไม่เข้าใจ แต่ตรงนี้เราเข้าใจดีกว่าคำว่า “หรู” ของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน อันนี้ขออนุญาตแค่ตั้งคำถามค่ะ 😅
สุดท้ายนี้, การปกครองบุตรร่วมไม่เคยมีมาตั้งแต่แรก และคุณน่าจะรู้ดีว่าตัวเองมีเจตนาอะไร ปกครองร่วมดังเช่นที่บอกสื่อจริงรึป่าว? คุณเองรู้ผลของมันดีเพราะตัวเองจ้างทนายตั้งแต่แรก
“กฎหมายไม่ประสงค์ให้พ่อกับแม่ใช้อำนาจปกครองบุตรร่วมกันเพราะจะเกิดข้อขัดข้องและข้อยุ่งยาก จึงได้บัญญัติให้พ่อกับแม่ใช้อำนาจปกครองบุตรโดยลำพัง แต่หากว่าฝ่ายใดใช้อำนาจแล้วอีกฝ่ายไม่เห็นด้วย ก็จะต้องนำข้อพิพาทขึ้นสู่ศาลเพื่อให้ศาลตัดสินให้
ในกรณีที่พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วย ก็จะต้องให้พ่อหรือแม่เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองไปคนเดียว เพราะผู้ใช้อำนาจปกครองในกรณีพ่อแม่แยกกันจะต้องมีเพียงคนเดียว ศาลจะกำหนดให้ร่วมกันใช้อำนาจปกครองไม่ได้
แต่ในบางเรื่อง ศาลอาจกำหนดให้ฝ่ายที่ไม่มีอำนาจปกครองมาร่วมปกครองได้ แต่ก็จะไม่เรียกว่าร่วมใช้อำนาจปกครอง”
- ศาสตราจารย์พิเศษประสพสุข บุญเดช -
ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายครอบครัว
เนติบัณฑิตไทย, เนติบัณฑิตอังกฤษ
(Of Lincoln’s Inn, Barrister-at-Law)
อดีตประธานศาลอุทธรณ์
อดีตหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
ปล. ที่คนเอาไปเปรียบเทียบกับนิทานนางยักษ์, นิทานศรีธนญชัย, or whatever story you may call คือถ้าเราเป็นแม่ แล้วต้องมีคนมาเข้าใจผิดเรื่องเจตนาของเราที่มีต่อลูกรวมถึงการบิดเบือนความจริง/พูดไม่หมดบางประการ เราคงออกมาพูดเหมือนกันว่าความจริงและความรู้สึกในมุมมองของเรานั้นคืออะไร เพราะฉะนั้นการจะนำสถานการณ์นี้ไปเปรียบเทียบกับการที่ถ้าฝ่ายใดปล่อยมือลูกก่อนเพราะไม่อยากให้ลูกเจ็บ คือฝ่ายที่รักลูกและเป็นพ่อหรือแม่ตัวจริงนั้นเป็นสิ่งไม่สมควร เพราะเราว่าเรื่องราวมันมีมากกว่านั้น สถานการณ์ตอนนี้คือแม่เองก็ยังคงต้องหาเลี้ยงลูก การที่คนบอกว่าครอบครัวรวยก็กลับไปอยู่กับพ่อแม่สิ คือกลับไปได้ค่ะ แต่มันไม่ใช่หน้าที่ความรับผิดชอบของพ่อแม่ใครคนใดคนหนึ่งไหมอะ? ส่วนเรื่องปาร์ตี้ใช้เงินใคร เราอยากถามกลับว่าพวกเธอรู้จักโมเดลไนท์ หรือเลดี้ไนท์ หรือโต๊ะฟรีที่เจ้าของงานเขาซัพพอร์ตให้มั้ยคะ? มันฟรีหมดเลยจ้า ฟรีกระทั่งค่าเข้า(ถ้ามี) ถ้าใครเคยไปจะตอบคำถามนี้ได้แต่แรกแล้วว่าคนที่ไปไม่ได้ใช้เงินทุกคนค่ะสา และในมุมมองของเรา ต่อให้เป็นพ่อแม่ก็ควรมีเวลาส่วนตัวเป็นของตัวเองที่ไม่ไปเบียดเบียนเวลาลูก แล้วการที่ไปเที่ยวตอนลูกหลับนี่ผิดตรงไหน? คนที่ไปปาร์ตี้มีหลายประเภทและไม่ใช่ทุกคนเป็นคนเลว คนที่สร้างว่าคนไปปาร์ตี้จะต้องเลวหรือไม่ดีคือต้องดึงสติก่อน นี่ 2020 แล้วค่ะ ไม่ใช่ยุคที่ผู้ชายจะออกมาสังสรรค์ได้ฝ่ายเดียวและให้ผู้หญิงทำกับข้าว อยู่บ้านเลี้ยงลูก เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ที่เรามีความสุขภายใต้กรอบของกฎหมายและมีคุณธรรมเพราะประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยนะคะ
และในมุมมองของเราหรืออาจจะหลายคน เรื่องนี้อาจเป็นแค่เรื่องสามีภรรยาตีกัน ขอบคุณข่าาาาา”