ทำเอาพิธีกรฮาอย่าง "รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น" ถึงกับออกอาการงงเลยทีเดียว เมื่อจู่ ๆ ก็โดนคู่กรณี “ไฮโซแชมป์-จิรัฏฐ์ เพชรนันทวงศ์” ที่เคยปาแก้วใส่ตนจนเลือดอาบหน้าในผับชื่อดังแห่งหนึ่งย่านพัทยา เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ฟ้องกลับในข้อหาหมิ่นประมาทโดยไม่รู้สาเหตุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ต้นหอม" โพสต์ให้กำลังใจ "รัศมีแข" เชื่อความยุติธรรมต้องมี ชาวเน็ตเดา โดนฟ้องกลับหมิ่นประมาท
ล่าสุดทีมข่าวก็มีโอกาสได้พูดคุยกับ “รัศมีแข” ในงานประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 รอบพลีลิมมินารี เจ้าตัวก็ยอมรับว่าจากหมายศาลที่ได้รับ จะมีกำหนดวันที่ต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาในปีหน้า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ด้วยความที่ “รัศมี แข” ใช้ชีวิตในต่างประเทศมาโดยตลอด จึงทำให้แทบไม่รู้กระบวนการทางกฎหมายของประเทศไทยเลย เพราะฉะนั้นเรื่องทั้งหมดก็เลยจะต้องโยนให้เป็นหน้าที่ของ “ทนายเจน ไพศิษฐ์”
เพราะด้วยภาษาไทยของตนที่สื่อสารได้ไม่ค่อยแข็งแรง ตอนที่ได้รับหมายศาลก็อ่านไม่ค่อยออก งงกับภาษาราชการ ก็ต้องไปให้คนที่เรารู้จักอย่าง “ต้นหอม” ช่วยอ่าน แล้วให้ทนายดูว่ามันแปลว่าอะไร เขาฟ้องคดีอะไรบ้าง ซึ่งถ้าจะให้พูดตอนนี้ก็จำไม่ได้ อยากให้รอถามทนายจะดีกว่า หากตนพูดไปแล้วผิดเพี้ยนก็กลัวว่าจะเสียรูปคดี
เมื่อถามว่างงไหม เพราะเราเป็นผู้ถูกกระทำ แต่กลับโดนฟ้อง? “รัศมีแข” ก็เปิดใจเลยว่า ตอนแรกก็งง แต่ทนายก็ได้บอกว่าจริงๆ แล้วเรื่องการฟ้องร้องมันสามารถเกิดขึ้นได้ ทนายก็อธิบายให้เข้าใจ ทำให้ตนเข้าใจกระบวนการทางกฎหมายมากขึ้น ส่วนจะยอมรับกับสิ่งที่เขาฟ้องหรือไม่นั้นก็ต้องดูกันด้วยหลักฐานหน้างานอีกที ส่วนเรื่องไกล่เกลี่ยก็คงต้องปรึกษาทนายอีกทีว่าอีกฝ่ายจะเอายังไงเพราะ ณ ตอนนี้ตัวเองยังไม่เข้าใจคำว่าไกล่เกลี่ยชัดเจนเท่าที่ควร
พร้อมกันนี้ “รัศมีแข” ยังขอบคุณทุกกำลังใจที่ทุกคนเซฟตน แต่ด้วยความที่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของกระบวนการกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นก็เชื่อว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้อง สามารถให้ความเป็นธรรมต่อตนได้ เพราะว่าเรื่องพวกนี้ยังไงก็เป็นเรื่องที่ตนต้องไปพูดต่ออยู่แล้ว จึงควรได้รับในสิ่งที่ถูกต้อง
ซึ่งตนมาจากต่างประเทศ และประเทศที่ตนอยู่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องแทบจะ 100% เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นการที่ตนอยู่เมืองไทย 5 ปี และในขณะเดียวกันก็มีเพื่อนเป็นชาวสวีดิชหลายคนก็ได้มีการพูดคุยกับทางสถานทูตสวีเดนแล้วว่า การที่เราถูกทำร้ายในที่สาธารณะแบบนี้ เราจะได้รับการซัปพอร์ตหรือได้รับการช่วยเหลือในเรื่องนี้ยังไงบ้าง?
สุดท้ายเจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่ได้เครียดที่โดนฟ้อง มองว่ามันเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพียงแต่เราต้องมั่นใจว่าสิ่งที่เราทำทั้งหมดที่เกิดขึ้น เราได้ทำถูกต้องแล้วและซื่อสัตย์ต่อตัวเอง รับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองก็พอ
ส่วนประเด็นที่ “ไฮโซแชมป์” โพสต์ภาพคู่หวานใจ “น้ำหวาน” พร้อมแคปชั่นหยอดกันว่า "วิวสวยสวยอยู่ตรงหน้า และ #HumanNotApes ซึ่งแปลว่า “มนุษย์ไม่ใช่ลิง” จนมีคนมาคอมเมนต์ถึงแท็กดังกล่าวประมาณว่า “คิงคอง วิวัฒนาการเป็นคนไม่ได้หรอก เพราะสมองหายไปแล้ว” ทำให้หลายคนมองว่าเป็นการเหยียดหรือไม่ และมองว่าแอบพาดพิงถึงคู่กรณีอย่าง “รัศมีแข” ที่กำลังมีประเด็นกันอยู่หรือเปล่า เพราะนักแสดงคนดังกล่าวชอบใช้แฮชแท็กว่า #คิงคอง
งานนี้ด้านของรัศมีแขก็บอกว่ายังไม่เห็น เพราะไม่ได้ติดตาม แต่เรื่องโดนเหยียดนั้น ตนโดนเหยียดสีผิวมาทั้งชีวิตแล้ว ไม่ว่าอีกฝ่ายจะพาดพิงถึงตนหรือไม่นั้น มันไม่สำคัญ ที่สำคัญคือทุกคน ไม่ว่าจะสีผัวไหนก็ล้วนโดนเหยียด แต่เราจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง ตรงนี้ต่างหากที่ควรคิด ดังนั้นวันนี้ตนเป็นที่รักของคนไทยและสามารถสร้างความสุขให้ทุกคนได้ กรณีจึงอยากให้ทุกคนช่วยกันตัดสินนั่นเอง