เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 63 เวลา 22.00 น. ตำรวจสภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายก่อเหตุอุกอาจบุกยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บก.ปทส. และเป็นหลานชายของรองนายกเทศมนตรีตำบลท่างิ้ว เสียชีวิตคาบ้านพักที่ จ.นครศรีธรรมราชราย
ที่เกิดเหตุพบศพชายถูกยิงเข้าที่หน้าอกขวา ทะลุคอซ้ายและบริเวณไหล่ช้าย คาดการณ์ว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยางก่อเหตุจำนวน 1 นัด ทราบชื่อคนตายคือ ดาบตำรวจสุรเชษฐ์ นาคนาศักดิ์ อายุ 44 ปี ตำรวจ ผบ.หมู่ กก.5 สังกัด บก.ปทส.
ล่าสุด วันที่ 8 ต.ค. 63 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่บ้านจุดเกิดเหตุ หมู่ 7 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งพบว่าจุดที่ดาบตำรวจสุรเชษฐ์ นาคนาศักดิ์ โดนยิง ญาติได้ทำความสะอาด ล้างคราบเลือด และเก็บของที่อยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ใช้เป็นสถานที่ในการตั้งบำเพ็ญกุศลศพ
ซึ่งเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. นางจิต นาคนาศักดิ์ อายุ 70 ปี แม่ของคนตาย และนายสุชาติ นาคนาศักดิ์ หรือ ดำ อายุ 39 ปี น้องชายคนตาย ได้เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลนครศรีธรรมราช ภายหลังมีการผ่าชันสูตรพลิกศพ ได้นำกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านจุดเกิดเหตุ
บรรยากาศในช่วงที่มีการรดน้ำศพ ญาติร้องไห้เสียใจตลอดเวลา ส่วนนายชาญ นาคนาศักดิ์ อายุ 70 ปี พ่อของคนตาย เป็นผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์อัมพาต ลุกเดินลำบากต้องใช้ไม้เท้า จึงไม่ได้มารถน้ำศพลูกชาย เพียงนั่งอยู่ภายในบ้านเท่านั้น
นายสุชาติ นาคนาศักดิ์ อายุ 39 ปี น้องชายคนตาย เปิดเผยว่า ปกติตัวเองจะไม่ค่อยได้เจอพี่ชายบ่อยครั้ง เพราะต่างคนต่างทำงาน แต่หลังจากพี่ชายเลิกงานกลับมา ก็จะมานั่งอยู่บริเวณโต๊ะไม้หน้าบ้านหลังบ้าน ซึ่งจะมีกลุ่มญาติที่รู้จักกันมานั่งเป็นเพื่อน พูดคุยและดื่มเหล้าเป็นประจำ
ทั้งนี้ ไม่เชื่อว่าคนที่มานั่งดื่มเหล้าจะเป็นคนก่อเหตุ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นหลานหรือคนในครอบครัวเกือบทั้งหมด เว้นแต่ว่าในคืนวันเกิดเหตุมีบุคคลภายนอกเข้ามานั่งดื่มด้วย เมื่อคืนที่ผ่านมาช่วงเวลาเกิดเหตุ และก่อนเกิดเหตุตนเองไม่ได้ผ่านมาที่หน้าบ้านของพี่ชาย จึงไม่รู้ว่ามีการนั่งดื่มสังสรรค์อยู่กับใครบ้าง หรือมีปากเสียงอยู่กับใคร
ส่วนการทำงานของพี่ชาย เพิ่งจะย้ายกลับมาที่บ้านมาไม่ถึง 1 ปี มารับราชการตำรวจ ปทส.กก.5 เพราะต้องอยู่ใกล้บ้าน เนื่องจากต้องเข้ารับการรักษาโรคป่วยจิตเวช โดยจะต้องรับยาโรคประสาทมากิน เพราะระยะหลังค่อนข้างเครียดกับการทำงาน รวมถึงเรื่องส่วนตัวและเรื่องภรรยา ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าการย้ายมาประจำในหน้าที่ตำรวจป่าไม้อาจไม่ใช่ประเด็นความขัดแย้งที่ทำให้ต้องถูกยิงตาย เพราะเนื่องจากไม่ได้ขัดแย้งกับใคร สาเหตุที่คนร้ายก่อเหตุยิงพี่ชาย ส่วนตัวก็ยังไม่ทราบ เพราะที่ผ่านมาเจ้าตัวไม่เคยตัดพ้อหรือเล่าปัญหาชีวิตให้ฟัง ยืนยันว่าพี่ชายไม่ได้ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด
นายชาญ นาคนาศักดิ์ อายุ 70 ปี พ่อของคนตาย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ ตนเองอาศัยอยู่บ้านที่สวนยางกับลูกชายคนเล็ก ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ช่วงก่อนหน้านี้เคยอยู่อาศัยบ้านหลังเดียวกับลูก ตนเองไม่รู้ว่าลูกชายนั่งดื่มเหล้าอยู่กับใคร หรือทะเลาะมีปากเสียงกับใคร ส่วนตัวก็ไม่ทราบว่าลูกชายไปขัดแย้งกับใคร จนถึงวันนี้ ตนเองก็ยังไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมลูกถึงโดนยิง เพราะต้นก็ต้องรอข้อมูลจากตำรวจ และต้องให้ตำรวจไปย้อนถามคนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง รวมถึงกลุ่มที่เคยนั่งดื่มเหล้าอยู่ด้วยกันอาจจะรู้ข้อมูล ตนอยากให้จับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ตำรวจลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบและสอบปากคำพยานในพื้นที่จุดเกิดเหตุ ข้อมูลจากชุดสืบสวน ภ.จว.นครศรีธรรมราช ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายได้มีลักษณะก่อเหตุด้วยการซุ่มยิงบริเวณหลังรถเก๋งที่จอดอยู่หน้าบ้าน เป็นการยิงกระชั้นชิด กระสุนเข้าที่บริเวณหน้าอกขวา แต่เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ คาดว่าคนร้ายตั้งใจมาเพื่อเคลียร์ปัญหาบางอย่างกับผู้ตาย จากนั้นเคลียร์กันไม่ลงตัว ถูกผู้ตายใช้อาวุธปืนขู่ประมาณ 2 นัด ซึ่งปลอกกระสุนปืนตรงกับปืนที่อยู่ภายในห้องนอนของผู้ตาย หลังจากนั้นคาดว่าคนก่อเหตุได้ย้อนกลับไปเอาอาวุธปืนลูกซองกลับมาเพื่อจะแก้แค้น จึงทำให้เกิดการซุ่มยิงระยะเผาขน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง พุ่งเป้าไป 3 ประเด็นหลัก คือความขัดแย้งส่วนตัว หน้าที่การงาน และการเมืองท้องถิ่นและยาเสพติด