เปิดใจลูก “บัวลอย” สาวโหดฆ่าฮุบประกัน ญาติเหยื่ออึ้งหยอดยาในเหล้า เชื่อมีเกิน 4 ศพ (คลิป)

จากกรณีมีคนร้ายฆ่าโหดพ่อม่าย ที่ขายบ้านขายที่ดินหลังจากเลิกกับภรรยา และได้มาใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่ใต้สะพานข้ามน้ำปิง เขตบ้านซาง ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ตายอย่างทารุณ โดยใช้อาวุธมีดฟันที่บริเวณใบหน้าและท้ายทอยหลายสิบแผล จนทำให้เสียชีวิตทันที ทราบชื่อผู้ตายคือนายอนันต์ ทองมาลย์ อายุ 58 ปี

ต่อมา วันที่ 9 ต.ค. 63 พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 เปิดเผย กรณีการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ เมื่อมีการเช็กข้อมูลของผู้ตายได้เข้าฌาปนกิจอยู่ประมาณ 5 ที่

จึงได้ทำการสืบสวนจนพบว่าผู้ได้รับผลประโยชน์คือ นางบัวลอย ทะลา อายุ 61 ปี และเข้าจับกุม แจ้งข้อหาเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ที่เป็นคนสั่งให้นายปั๋นแก้ว ขันแก้ว อายุ 48 ปี ถูกแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พร้อมของกลางมีดพร้ายาว 1 ฟุต และเสื้อผ้าเปื้อนเลือด เป็นคนไปฆาตกรรม

นอกจากนี้ ยังพบว่านางบัวลอยมีพฤติการณ์ นำคนที่เป็นญาติห่าง ๆ หรือไม่ได้เป็นญาติเลย แต่รู้จักกันภายในหมู่บ้าน ไปเข้าฌาปนกิจสถานหลายคน โดยนางบัวลอยเป็นคนรับผลประโยชน์ และก่อนหน้านี้เคยมีคนที่นางบัวลอยนำไปเข้าฌาปนกิจสถานเสียชีวิตมาแล้ว 2 คน โดยเป็นการเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ และเมาสุราเสียชีวิต

รายชื่อบุคคล ตายปริศนา 4 เจ็บ 1 ราย
นายหล้า ค้าแกว่น ชาวบ้านหมู่ 4 บ้านซาง ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริมจ.เชียงใหม่
สาเหตุการตาย : ถูกวางยา (2559)
ลักษณะศพ : น้ำลายฟูมปาก ปากดำ ตัวคล้ำ

นางน้อย ชาวบ้าน หนองป่าคา ต.สันโปรง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
สาเหตุการตาย : ไม่ทราบแน่ชัด (2561)
ลักษณะศพ : นั้งริมกำแพงเสียชีวิต

นายจำรัส แสนคำ อายุ 64 ปี ชาวบ้าน หนองป่าคา ต.สันโปรง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
อาการ : อาเจียน แต่ละราด นำส่งโรงพยาบาลล้างท้องทัน (2561) ไม่เสียชีวิต

นายอุทิศ กลั่นกล้า ชาวบ้านหมู่ 4 บ้านซาง ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริมจ.เชียงใหม่
สาเหตุการตาย : ถูกวางยา (2563)
ลักษณะศพ : น้ำลายฟูมปาก ปากดำ ตัวคล้ำ

นายอนันต์ (ชายเร่ร่อน) ชาวบ้านหมู่ 4 บ้านซาง ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริมจ.เชียงใหม่
สาเหตุการตาย : ถูกฆาตกรรม (2563)
ลักษณะศพ : ถูกฟันที่ศีรษะ และใบหน้า

นายชิต ขันไข อายุ 65 ปี ลูกพี่ลูกน้องของนายหล้า ที่เสียชีวิตปี 59 เปิดเผยว่า ปกติแล้วนายหล้าเป็นคนดีไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่ก่อนที่จะเสียชีวิต 2 วัน นายหล้ามีอาการท้องร่วง ไม่สบาย จนญาติต้องหามพากันไปโรงพยาบาล ก่อนจะกลับมาเสียชีวิตที่บ้าน ซึ่งในตอนนั้นทางญาติก็ไม่ได้ติดใจสาเหตุ เนื่องจากคิดว่านายหล้าไปกินอะไรผิด ๆ มา

กระทั่งไม่นานมานี้ นายจำรัส หรือ แบค ออกมาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เคยถูกนางบัวลอยวางยาหวังฆ่าให้ตาย เพื่อเอาเงินฌาปนกิจ ทำให้ตนเองอดคิดไม่ได้ว่าการเสียชีวิตของนายหล้าเป็นเพราะนางบัวลอยหรือไม่ แต่เมื่อมาทราบว่านางบัวลอยเป็นผู้จ้างวานฆ่านายอนันต์อีก ก็ทำให้ตนเองมั่นใจได้ว่านางบังลอยต้องมีส่วนในการเสียชีวิตของนายหล้าแน่นอน เพราะนางบัวลอยก็ได้ไปชักชวนยื่นข้อเสนอให้คนในชุมชนเข้าทำประกัน-กองทุนฌาปนกิจจำนวนหลายคน โดยที่ส่งเงินให้ และคนที่ทำก็มาเสียชีวิตในลักษณะคล้ายกัน เป็นเรื่องที่น่าผิดสังเกต

อีกทั้งตนเองมาตั้งข้อสังเกตพบว่า นางบัวลอยจะเน้นเลือกชวนคนทำที่มีลักษณะสูงอายุ หรือไม่มีญาติเพื่อง่ายต่อการตกลง ส่วนนายหล้าสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่น่าจะเสียชีวิตได้ง่าย ๆ แต่นายหล้าชอบดื่มเหล้า ทุกวันจะเตรียมเหล้าไว้บนหัวนอน สำหรับจิบกินระหว่างวัน จึงอาจเป็นไปได้ที่นางบัวลอยจะแอบนำยามายอดใส่ขวดเหล้าของนานหล้ากระทั่งมาเสียชีวิต

นายชัชวาลย์ ขันยา อายุ 52 ปี หลานเขยของนายอุทิศ กลั่นกล้า ที่เพิ่งจะตายไปเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน เผยว่า นายอุทิศ ก่อนตายได้บ่นกับตนว่าเจ็บท้อง ลงไปนอนที่บริเวณที่นอนริมน้ำปิง จากนั้นก็พบว่ากลายเป็นศพ ครั้งแรกก็ไม่ได้ติดใจ เพราะว่ามีลักษณะนิสัยชอบดื่มสุราเป็นประจำ โดยคาดว่าน่าจะเกิดจากพิษสุราเรื้อรัง แต่เมื่อนางบัวลอยถูกตำรวจจับกุมและมีความเกี่ยวเนื่องเพื่อรับเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ จึงอดคิดไม่ได้ เพราะว่าตัวนายอุทิศก็ได้เข้าฌาปนกิจสงเคราะห์ โดยมีนางบัวลอยเป็นผู้รับผลประโยชน์ และได้นำไปเข้าหลายที่ ได้เงินมานับแสนบาท และได้นำมาช่วยศพเพียง 15,000 บาท

ล่าสุด วันที่ 10 ต.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านหมู่ 4 ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายมล (นามสมมุติ) เพื่อนของนางบัวลอย เล่าว่า ตนเองและนางบัวลอยรู้จักกันมานานหลายปี ปกติแล้วนางบัวลอยก็เป็นคนนิสัยดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร ปกติแล้วนางบัวลอยก็ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่ก็พอรู้มาว่านอกจากอาชีพรับจ้าง ก็จะมีการชวนคนไปเข้าทำประกัน กองทุนฌาปนกิจจำนวนหลายคน โดยเฉพาะคนในหมู่บ้าน วิธีการก็คือจะขอบัตรประชาชนของบุคคลนั้นเพื่อนำชื่อไปทำ ซึ่งจะมีการตกลงกับบุคคลนั้นว่าหากผู้ที่ร่วมทำเสียชีวิต เงินค่าฌาปนกิจจะแบ่งกันอย่างไร แต่จะไม่มีการเซ็นเป็นลายลักอักษร

ซึ่งที่ตนเองเห็นมาเมื่อผู้เข้าร่วมทำประกันณาปนกิจเสียชีวิต นางบัวบอยก็จะนำเงินที่ได้แบ่งมาช่วยงานศพส่วนหนึ่ง แต่ส่วนต่างที่เหลือก็จะเก็บเข้ากระเป๋าตัวเอง เนื่องจากนางบัวลอยจะเป็นคนส่งเงินค่าประกันให้บุคคนนั้น ตั้งแต่ตกลงทำสัญญาใจกันในครั้งแรก

ส่วนตัวหลังจากที่นางบัวลอยถูกจับ คดีจ้างวานฆ่า และตำรวจตรวจพบว่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของบุคคลอีกหลาย ๆ คนที่นางบัวลอยไปชวนเข้าทำประกัน-กองทุนฌาปนกิจ ส่วนนี้ตนเองเชื่อว่านางบัวลอยมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน เนื่องจากลักษณะศพมีลักษณะคล้ายกัน เช่น ถูกวางยา ตัวดำ ตัวแข็ง น้ำลายฟูมปาก อีกทั้งนายจำรัสที่รอดจากการถูกนางบัวลอยวางยา จนออกมาเผย เรื่องราวให้ชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฟัง ทำให้ตนเองยิ่งมั่นใจได้

จนตอนนี้ชาวบ้านต่างตั้งฉายาให้กับนางบัวลอยว่า "คนสวยใจดำ" เพราะสิ่งที่ทำมันโหดเกินไป ตนอยากถามนางบัวลอยว่า "ชีวิตขาดอะไร อะไรถึงเป็นแรงจูงใจให้ฆ่าคน โกรธเกลียดยังไง ก็ไม่ถึงขั้นต้องมาฆ่ากันแบบนี้"

ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนางบัวลอย ภายในหมู่ 4 ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายบอย ลูกชายของบัวลอย กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้ตนเองไม่พร้อมที่จะตอบคำถาม เพราะอยู่ในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ แต่ตนเองยืนยันได้ว่าตนเอง คนในครอบครัว ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการทำฌาปนกิจต่าง ๆ แม้กระทั่งการที่แม่ไปก่อเหตุจ้างวานฆ่า ส่วนเรื่องที่จะให้ไปขอโทษบุคคที่ต้องมาเสียชีวิต ทางครอบครัวก็ไม่รู้จะต้องไปขอโทษใคร เพราะขณะนี้ยังเสียใจทั้งเรื่องแม่และเรื่องคนตาย จนไม่รู้จะทำอย่างไร ซึ่งตอนนี้กระแสตีกลับมาทางครอบครัว แต่ตนเชื่อบ้านว่าชาวบ้านน่าจะเข้าใจว่าเป็นเรื่องของบุคคล

พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 ระบุว่า หลังพบศพนายอนันต์ ตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก พบว่านางบัวลอย นำเรื่องการตายของนายอนันต์จะไปขอเบิกเงินฌาปนกิจรวม 5 แห่ง เป็นเงินกว่า 500,000 บาท ซึ่งผู้ที่มาเบิกไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นญาติหรือคนสนิทผู้ตาย จึงเกิดประเด็นข้อสงสัย จากการสอบปากคำ นางบัวลอย ยังให้การภาคเสธ อ้างว่านายอนันต์ ผู้ตายมาเกาะแกะลักษณะมาจีบ กระทั่งมารู้ว่าชอบไปพูดว่าร้ายจึงโมโห เลยจ้างให้นายปั๋นแก้วไปสั่งสอน โดยปฏิเสธว่าไม่ได้ให้ไปฆ่า