จากกรณี นายอภิวัฒน์ คลองบุญ วัย 30 ปี หนุ่มไปรษณีย์ ถูกอดีตหนุ่มของแฟนสาวดักยิงเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนภายในหมู่บ้าน บ้านกล้วย หมู่ที่ 10 ต.บ้านกล้วย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ในวันที่ 10 ต.ค.63 ที่ผ่านมา
โดยแฟนสาวของนายอภิวัฒน์ หลบหนีจากแฟนเก่าเพื่อมาอยู่กับนายอภิวัฒน์ได้ 3 เดือน หลังจากนั้นอดีตแฟนหนุ่มบุกมาเจราแต่ไม่ลงรอย นายอภิวัฒน์จึงถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณเหนือราวนมฝั่งซ้าย กระสุนฝังใน ทราบชื่อผู้ก่อเหตุภายหลัง นายทองสุข แสงจันทร์ วัย 30 ปี
ล่าสุดวันที่ 11 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับนางสมคิด ครองบุญ อายุ 49 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า ตนคิดว่าน่าจะเกิดจากที่น.ส.ปราง (แฟนผู้เสียชีวิต) คบหาดูใจกับลูกชายของตน ประมาณ 6 เดือน โดยจากการที่นายอภิวัฒน์ เป็นพนักงานขนส่งไปรษณีย์ และส่งของที่บ้านน.ส.ปราง เป็นประจำ จึงทราบว่าน.ส.ปราง ถูกนายทองสุขทำร้ายร่างกายบ่อย หลังจากที่ฝ่ายหญิงเลิกลากันแล้วก็เริ่มคบหาดูใจกับนายอภิวัฒน์ ซึ่งน.ส.ปราง ก็เคยเล่าให้ตนฟังว่า นายทองสุข (ผู้ก่อเหตุ) เคยทำร้ายร่างกายหลายครั้ง จึงไม่สามารถทนอยู่กับนายทองสุขได้ และยืนยันกับตนว่าเลิกลากันแล้ว
นางสมคิด กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ นายอภิวัฒน์ (ผู้เสียชีวิต) และ นายทองสุข (ผู้ก่อเหตุ) เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมาตลอด จนกระทั่งมีการคบหากับน.ส.ปราง ก็กลายเป็นว่านายนายทองสุข มีเรื่องขุ่นเคืองกัน โดยปกติแล้วนายอภิวัฒน์ เป็นคนขยันทำมาหากิน นิสัยดี ชาวบ้านทุกคนรักใคร่ แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว ตนก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ มีความรู้สึกโกรธ แต่รู้สึกใจหายและเสียใจมากกว่า เพราะเนื่องจากตนมีความผูกพันกับลูกชายมาก ที่บ้านมีผู้ชาย 3 คน มีพ่อ น้องชาย และนายอภิวัฒน์ (ผู้เสียชีวิต) ซึ่งตนเป็นผู้หญิงคนเดียวในบ้าน เมื่อมีคนหายไปก็ทำใจไม่ได้
นางสมคิด เล่าให้ฟังวันเกิดเหตุ ตนเตรียมกับข้าว (แกงไก่) ไว้รอลูกชายหลังเลิกงาน แต่สุดท้าย "ทำแกงไก่ไว้ แต่ไม่มีคนกิน หุงข้าวไว้ก็ไม่มีใครกิน" ก่อนวันเกิดเหตุฝันว่า มีผู้ชายเป็นคนในหมู่บ้าน เดินเข้ามากอด แต่ไม่พูดอะไร ตนจึงเอาไปทำนายความฝัน บอกว่าจะเรื่องเป็นคดีความ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเหตุสลดเช่นนี้ สุดท้ายตนอยากบอกลูกชายว่า แม่รู้สึกภาคภูมิใจในตัวลูกชาย เพราะลูกชายเพิ่งบรรจุเป็นพนักงานไปรษณีย์ เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกันทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับ น.ส.ปราง (นามสมมติ) วัย 27 ปี แฟนสาวผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้าที่ตนจะมาคบหากับนายอภิวัฒน์ (ผู้เสียชีวิต) ตนได้คบหากับนายทองสุข (ผู้ก่อเหตุ) มาแล้ว 10 เดือน หลังจากนั้นจึงเลิกรากับนายทองสุข แต่นายทองสุขก็ไม่ยอมเลิกรา จะพบเห็นนายทองสุขขับรถผ่านหน้าบ้าน แล้วมองมาที่ตนทุกครั้งที่เจอ ส่วนเวลาเจอหน้านายอภิวัฒน์ ก็มีเขม่นกันข่มขู่ว่า "ถ้าเจอ ก็ยิงทิ้งสบาย" ซึ่งก่อนวันเกิดเหตุ ตนก็ได้เตือนนายอภิวัฒน์ ว่าให้ระวังตัว เนื่องจากนายทองสุขมีปืน แต่นายอภิวัฒน์บอกว่า "ไม่กลัว"
น.ส.ปราง เล่าให้ฟังว่า ตอนที่ยังคบกันนายทองสุข เป็นคนคนดี แต่อารมณ์ร้อน โมโหร้าย โกรธง่ายหายเร็ว ชอบพกพาอาวุธปืนติดตัวไปทุกที่ ซึ่งนายทองสุขมีปืนหลายกระบอก ชอบเอาออกมายิงเล่น แต่ทั้งนี้ที่ตนรับไม่ได้ คือ ชอบทำร้ายร่างกายตนบ่อยครั้ง ด้วยสาเหตุที่ตนพูดไม่เข้าหูนายทองสุขบ้าง เป็นที่ระบายจากอาการมึนเมาจากยาเสพติดบ้าง ตนทนไม่ไหวที่ถูกทำร้ายร่างกาย จึงหนีไปอยู่บ้านแม่ ซึ่งนายทองสุขก็ไปตามไป แต่ตนปฏิเสธที่กลับไป หลังจากนั้นจึงย้ายไปอยู่กับนายอภิวัฒน์
อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับกับทีมข่าวว่า ไม่แน่ใจว่าเหตุผลจริง ๆ มันคืออะไร แต่ยอมรับว่าตนแอบมาคุยกับนายอภิวัฒ ตั้งแต่ก่อนที่จะเลิกกับนายทองสุข จึงคาดว่าอาจจะทำให้ทั้งสองฝ่ายมีเรื่องโกรธเคืองกัน ซึ่งตนก็ยอมรับว่าตนอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุสลดขึ้น หลังจากนี้ตนจะกลับไปอยู่กับแม่ หรืออาจจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อหนีนายทองสุข
ทีมข่าวไปพูดคุยกับ นายสังเวียน แสงจันทร์ อายุ 56 ปี ญาติผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า นายทองสุข มีนิสัยอารมณ์ร้อน มีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยอยู่บ้าน ถ้ากลับมาบ้านก็ชอบพาเพื่อนฝูงมาที่บ้าน แต่ก็ไม่ทราบว่ามาทำอะไร ซึ่งนายทองสุข เป็นคนค่อนข้างเกเร ไม่ได้ทำงาน เนื่องจากแขนซ้ายพิการ แขนขาดตั้งแต่ช่วงข้อศอกลงมา ส่วนตัวอยู่ข้างบ้านกันก็จริง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ส่วนมากตนก็ไปทำงานรับจ้างตัดข้าวโพด ตั้งแต่เช้า กลับมาในเย็นก็เข้านอน
ส่วนเรื่องปืนตนก็ไม่ทราบว่านายทองสุข มีปืนอยู่ในบ้าน เคยได้ยินเสียงแต่ไม่รู้ว่าคือเสียงปืน เข้าใจว่าเป็นประทัด เลยไม่ได้สนใจออกมาดู ส่วนตัวเพิ่งจะมารู้ข่าวไม่นาน ว่านายทองสุขไปก่อเหตุยิงนายอภิวัฒน์ตาย มารู้อีกทีก็ตอนเย็นแล้ว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุก็ไม่เห็นนายทองสุขกลับมาที่บ้าน และก็ไม่ได้มีการโทรติดต่อมาขอความช่วยเหลือใด ๆ
ด้านปมสาเหตุ ตนก็ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร เพราะนายทองสุขก็ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนไปทั่ว แต่ตนก็เชื่อว่าอาจจะมาจากการที่นายทองสุข เคยผ่านชีวิตเฉียดตายมาแล้ว รถล้มแขนซ้ายขาด ตั้งแต่ช่วงข้อศอกลงมา ฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง อาจจะทำให้นายทองสุข สติเพี้ยนไปบ้าง และเคยถูกจับข้อหา พ.ร.บ.อาวุธปืน จำนวน 2 กระบอกในปี 62 ตนคาดไม่ถึงที่นายทองสุขจะกล้าลงมือฆ่าคน เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นจะไปยิงใคร ครั้งนี้คาดว่านายทองสุขทำเกินกว่าเหตุ สุดท้ายอยากให้มามอบตัวกับตำรวจ
ความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.สมบูรณ์ สีแดง ผกก.สภ.ดงขุย เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังลงพื้นที่ เร่งค้นหาเพื่อจับกุมต้องผู้กระทำผิด และเตรียมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนผู้ที่ขี่รถจักรยานยนต์พานายทองสุข มาก่อเหตุและหลบหนี จะผิดในข้อหา ช่วยผู้ก่อเหตุกระทำผิดและช่วยผู้ก่อเหตุหลบหนี