ถอนแจ้งความ "เปรมชัย" ทารุณสัตว์ ตร.ได้ฤกษ์ตรวจจุดเกิดเหตุ (คลิป)

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ด่านกักกันสัตว์กาญจนบุรี กรมปศุสัตว์ ได้เข้าไปถอนแจ้งความเอาผิดกับนายเปรมชัย และพวก ในข้อกล่าวหากระทำทารุณกรรมสัตว์ ตาม พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์ 2557 วันนี้ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี จึงเดินทางไปที่ด่านกักกันสัตว์กาญจนบุรี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ถึงเหตุผลที่ นายณรงค์ชัย สังวรวงศา หัวหน้าด่านกักกันสัตว์กาญจนบุรี ถอนแจ้งความ

ซึ่ง นายณรงค์ชัย เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนไปแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวบของ สภ.ทองผาภูมิ เอาไว้เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา ตามกฎหมายที่กำหนด ว่า “สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิต จำเป็นต่อธรรมชาติ” แต่ไม่สามารถใช้กฎหมายจาก พ.ร.บ.ฉบับนี้เอาผิดได้

เมื่อดูข้อกฎหมาย ตามมาตรา 3 ของคำนิยามคำว่า “สัตว์” ใน พ.ร.บ.การทำทารุณกรรมต่อสัตว์ 2557 อย่างละเอียด ก็พบว่า “ต้องเป็นสัตว์เลี้ยง สัตว์เพื่อใช้งาน ไว้ดูเล่น หรือสัตว์อื่นๆ และรวมถึงสัตว์ที่อยู่ในธรรมชาติ” ตามที่รัฐมนตรีกำหมด แต่จากการตรวจสอบ และศึกษาข้อกฎหมายอย่างละเอียด ปรากฏว่า รัฐมนตรียังไม่ประกาศใน พ.ร.บ.ว่าเป็นสัตว์ชนิดใด ที่เข้าข่าย พ.ร.บ.การทารุณกรรมสัตว์ 2557

ส่วนการถอนแจ้งความ นายณรงค์ชัย ยืนยันว่า ได้คุยกับฝ่ายกฎหมายอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก่อนไปถอนแจ้งความ และได้มีการตรวจประกาศของกระทรวง แม้กระทั้งในประกาศในราชกิจจานุเบกษาอย่างละเอียดแล้วว่า รัฐมนตรียังไม่มีประกาศออกมา ทำให้กฎหมายการทารุณกรรมสัตว์จึงเอาผิดไม่ได้ ดังนั้นรัฐมนตรีจึงต้องประกาศกฎกระทรวง และนิยามคำว่าสัตว์ให้ชัดเจน เพื่อความสมบูรณ์ของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม นายณรงค์ชัย ก็ไม่อึดอัดใจแต่อย่างใด ทั้งยังยืนยันว่า ทุกอย่างได้ทำตามหน้าที่ โดยไม่มีผู้ชี้นำแต่อย่างใด พร้อมกล่าวว่า “อะไรไม่มีอำนาจ ก็ไม่ทำ” และตนเองไม่ได้รู้จักกับนายเปรมชัย และพวกเป็นการส่วนตัว

ด้าน พ.ต.ท.ชาตรี ศรีบุญ สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ยืนยันว่า หลังจากที่นายณรงชัย มาถอนแจ้งความ เมื่อวันที่ 21 ก.พ.  ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือสอบถามข้อเท็จจริง ไปยังอธิบดีกรมปศุสัตว์ว่า จริงๆ แล้วรัฐมนตรีได้มีประกาศตามที่นายณรงชัย กล่าวอ้างจริงหรือไม่ เพื่อนำผลไปแนบในสำนวนการสอบสวนต่อไป ส่วนด้าน พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ ผู้กำกับการ สภ.ทองผาภูมิ เปิดเผยความคืบหน้าคดีนี้ ต้องสอบถามกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือกรรมการตำรวจที่ดูแลเรื่องนี้ ส่วนตัวไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ ได้ และในวันพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) กรรมการสอบสวน พร้อมด้วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะขึ้นไปตรวจพื้นที่ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรอีกครั้ง

ลุงถาวร บุญประเสริฐ ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ มีความเห็นว่าคดีนี้เงียบมาก ตนกลัวว่าคดีนี้อาจหลุดไปด้วยซ้ำ ทั้งที่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานชัดเจน แต่ทำไมถึงต้องรอสอบเพิ่มเติม และยังเอาผิดกับผู้กระทำความผิดไม่ได้ด้วย ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมนายเปรมชัย และพวก ตนเองไม่รู้ว่าคุยไรกัน และยังบอกว่า เจ้าหน้าที่ต่างเป็นคนดี อาจจะมีบางคนที่ไม่ดี ซึ่งตนก็ยังเชื่อมั่นในความดีของ หัวหน้าวิเชียร ส่วนคนที่ยิงเสือดำตาย ก็ควรออกมายอมรับสารภาพดีกว่า

เช่นเดียวกับ นางสมศรี ชัยมงคล แม่ค้าในอำเภอทองผาภูมิ กล่าวว่า จากที่ตนได้ติดตามข่าว ก็พบว่าข่าวนี้เงียบไปเหมือนกัน ทั้งที่รู้ว่าสัตว์ป่าสงวนตาย และหลักฐานที่เจ้าหน้าที่มี เชื่อว่าจะเอาผิดกับ นายเปรมชัย และพวกได้ เพราะลักษณะการก่อเหตุ เป็นพื้นที่ป่า หากเทียบกับคนธรรมดาจะเข้าไปได้อย่างไร ขนาดชาวบ้านเข้าไป เจ้าหน้าที่ยังจับ แต่ทำไมนายเปรมชัย ถึงเข้าไปได้ ดังนั้นจึงอยากให้นำตัวมาดำเนินคดี เพื่อเป็นตัวอย่าง ส่วนถ้าคดีพลิกขึ้นมา ตนไม่มั่นใจว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ดังนั้นต้องมีคนตอบข้อสงสัยกับชาวบ้าน และสังคม เชื่อว่าทุกคนต้องสงสัยว่า ทำไมเรื่องถึงเป็นแบบนี้ ส่วนตัวมองว่า เจ้าหน้าที่ทำถูกต้อง เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ ที่รับผิดชอบ แต่ถ้าเจ้าหน้าที่โดนฟ้องกลับ ตนก็มองว่าเจ้าหน้าที่ไม่ผิด พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ในการต่อสู้ตามระเบียบกฎหมาย

ส่วนด้าน นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ในวันนี้ ตนเสร็จภารกิจจากการมาราชการที่กรุงเทพฯ กำลังเตรียมตัวเดินทางกลับ จ.กาญจนบุรี เพื่อขึ้นไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เนื่องจาก ได้รับประสานงานว่าในวันพรุ่งนี้ (1 มี.ค. 61) เจ้าหน้าที่ตำรวจจะลงพื้นที่ และเก็บหลักฐานเพิ่มเติม บริเวณจุดที่ยิงเสือดำตาย และจุดตั้งเต้นท์ หากกรณีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ถูกแจ้งข้อหากลับ เรื่องการปฏิบัติหน้าที่นั้น ตนไม่ได้หนักใจ และไม่กังวลอะไร เพราะตนเอง และลูกน้อง ปฏิบัติหน้าที่ ตามที่ได้รับมอบหมาย