เป็นผู้สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทุกคนตั้งแต่เด็กจนถึงทุกวันนี้ นักแสดงอารมณ์ดี "หม่อมเอ็ม อรรถพล" ได้มาเปิดใจในรายการ ต้มยำอมรินทร์ ว่าไม่เคยรู้สึกว่าเพราะเกิดอยู่ในครอบครัวของตลก แล้วต้องถูกผลักดันให้มาเป็นตลก แต่กลับกันเพราะใจรักและพรสวรรค์ ถึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้ พร้อมปัดฝุ่นธุรกิจครอบครัวมาทำใหม่แบบไฉไลกว่าเดิมกับไอศกรีมแสนอร่อย M'scream
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "นิว ชัยพล" เคยชวดงานเป็นปี เพราะ "มาริโอ้ เมาเร่อ"
- "Miss Grand Thailand 2020" สาวงามที่ไม่ใช่แค่สวย แต่รวยความฮา!
- "ธัญญ่า อาร์สยาม" เผยเคยตกต่ำจนแทบไม่มีเงินติดกระเป๋า เชื่อชีวิตดีขึ้นได้เพราะ "นั่งกรรมฐาน"
- "นก ชลิดา" อดีตนางสาวไทย พ่วงดีกรีดอกเตอร์ป้ายแดง เผยเบื้องลึกเวทีประกวดนางงาม
- "ศิรินทรา นิยากร" หมดศรัทธาในความรัก ประกาศปิดประตูหัวใจ!
- "ซินดี้ สิรินยา" เคยเกือบทำเครื่องเพชรร้อยล้านหายก่อนขึ้นโชว์!!
- ดูเพลิงนางย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม ทำไมมาขายไอศกรีม
หม่อมเอ็ม : ไอศครีมเป็นธุรกิจของคุณพ่อผม มีมาเป็น 10 ปีแล้ว เป็นสูตรของคุณพ่อ ส่วนใหญ่เราก็ทำอยู่ต่างจังหวัด เป็นไอศกรีมบ้านๆ ไทยๆ เลยครับ ไม่หวานมาก เน้นความมัน ความหอม ทำไมถึงใช้สโลแกน หอม มัน เพราะเราไม่อยากใช้คำว่าหวาน แต่ว่าเราไม่ได้ปฏิเสธการใส่น้ำตาล แต่ว่าเราใช้ปริมาณน้อย ไอศกรีมของเรา ถึงจะบ้านๆ แต่เราก็คัดสรรวัตถุดิบ ใช้กะทิจากทับสะแกเท่านั้นเพราะว่ามันมีความมันความหอมกว่า เราก็ไม่ได้ผลิตอะไรเยอะมาก เราผลิตตามสั่งมากกว่า ในส่วนขนาดของไอศกรีมจะเป็นตามที่ลูกค้าต้องการเลย จะมีตั้งแต่ 10 โล 20 โล เป็นถังไปออกงานได้ ตอนนี้ผมเพิ่งเริ่มทำได้ 3 เดือน ผมก็เน้นๆ ในกรุงเทพฯ และบริเวณรอบๆ ปริมณฑลก่อนครับ แต่ถ้าไกลๆ มันก็จะมีเรื่องระยะทาง การขนส่ง เวลาเข้ามาเกี่ยว ถ้าต้องการสั่งซื้อ สามารถติดต่อมาได้ทางอินสตาแกรมได้เลยครับ mscream11
ถาม ทำธุรกิจด้วย แต่งานในวงการก็ยังเยอะอยู่
หม่อมเอ็ม : ครับผม ก็ถ่ายละครด้วยครับตอนนี้
ถาม เราเติบโตมาจากครอบครัวตลก เราเลือกเข้าสู่เส้นทางนี้เองไหมหรือถูกผลักให้เป็น
หม่อมเอ็ม : ไม่ได้มีความรู้สึกนั้นเลย วันที่พ่อและชาวคณะออกไปทำงาน ผมอยากไปกับเขาด้วย เพราะเราอยากออกไปข้างนอก เพราะว่าเมื่อก่อนชาวคณะเยอะมากเกือบ 20 คน แล้วเราอยู่บ้านหลังเดียวกัน พอเขาออกไปทำงานกันหมด ผมต้องอยู่บ้านคนเดียว ผมเหงา มันเงียบมาก เลยตามเขาไป แล้วพอเราตามไปบ่อยๆ เขาก็เลยจับเราเล่นเลย แล้วเราก็อยากเล่นด้วยเพราะเราอยากลอง แล้วเราก็ถูกผลักไปตอนนั้น ดูสิว่าเราชอบไหม แล้วบังเอิญเราเป็นเด็กที่มีความกล้าแสดงออกอยู่บ้าง มุกตลกเขาก็ใส่ๆ มาให้เรา เราก็พูดๆ
ถาม จากตอนนั้นมันก็เลยกลายมาเป็นตัวตนของเรา หม่อมเอ็มก็เลยต้องเป็นตลกไปด้วยไหม
หม่อมเอ็ม : จริงๆ ผมเป็นอะไรก็ได้ครับ ไม่ได้จำกัดต้องเป็นแค่ตลก
ถาม ไปเล่นละครเรื่องไหน จะเป็นตัวที่แบบไขเรื่องหรือเป็นตัวที่พลิกเรื่องนั้น
หม่อมเอ็ม : จริงๆ ผมมองว่าทุกตัวละครมีความสำคัญหมด ไม่ว่าจะเป็นพระนาง ทุกตัวในละครเรื่องนั้นๆ หรือพี่ที่อยู่หลังกล้อง ทีมงาน ช่างไฟต่างๆ ผมจะชื่นชมพวกพี่ๆ มากเลยนะ และผมรู้สึกว่าไม่ว่าจะเป็นบทอะไร ผมรู้สึกสนุก ไม่ต้องเป็นตัวเองก็ได้ ไปเป็นคนอื่นบ้างก็ได้ อย่างที่เราไปเล่น เรารู้สึกว่าเราจะเป็นคนอื่นได้ไหม
ถาม แล้วที่ผ่านๆ มา เราเคยได้รับบทแตกต่างจากการที่เป็นตัวเองไหม
หม่อมเอ็ม : มีบ้าง ช่วงหลังมานี้ได้บทแบบพูดน้อย พูดทีคมๆ ได้บทที่แตกต่างจากเดิม ทำให้คนดูรู้สึกว่าผมสามารถแตกต่างจากเดิมได้นะ
ถาม จริงๆ อยากเล่นบทไหนมากที่สุด
หม่อมเอ็ม : ตบจูบครับ (หัวเราะ)
ถามเราเข้าสู่วงการในรูปแบบของตลก มันต้องเล่นสด เล่นบนเวที เล่นกับวง แต่พอมาเล่นละครต้องปรับเปลี่ยนยังไงบ้าง
หม่อมเอ็ม : แรกๆ ก็ยังงงๆ แต่พอเราเริ่มจับทิศทางได้ ปรับเปลี่ยนเอาความตลกจากบนเวทีมาใช้ในละคร เราแค่ปรับมาเป็นตัวละครตัวหนึ่ง เราอาจจะไม่ต้องทำจนขำมากมาย แต่ก็จะมีแค่ท่อนหนึ่ง มุกหนึ่งเท่านั้น อย่างบางเรื่องเขาเขียนบทมาให้ขำอยู่แล้ว สนุกอยู่แล้ว บางครั้งผู้กำกับเขาไม่ได้อยากให้ความฮาของเราออกไป 100 เปอร์เซ็นต์ เราก็แค่ปรับลงมาให้เข้ากับเรื่องราวของเขา
ถาม แล้วตลกกับไม่ตลก ชอบอะไร
หม่อมเอ็ม : ชอบทั้งสองแบบเลย ผมเป็นคนมีสองมุม มุมตลกผมก็มี มุมเงียบๆ ที่ไม่คุยกับใครเลย ผมก็มี เราอาจจะมีสวิตช์อะไรบางอย่าง อยากจะมีความเป็นส่วนตัว เราก็ปิดเลย ออกไปอยู่ในโลกของตัวเอง
ถาม แล้วคุณพ่อมีแนะนำในเรื่องของการแสดงไหม
หม่อมเอ็ม : ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยแล้วครับ เพราะว่าคุณพ่อของผมตอนนี้บวชเป็นพระ บวชมา 4 ปีแล้วครับ ท่านคงสบายใจ เงียบสงบ แรกๆ ท่านไปอยู่ชนบทเลย ป่าช้าเลย โชคดีที่ท่านแข็งแรง สุขภาพดีทั้งกายใจเลยครับ ไปหาท่านบ่อยครับ