กรณีตำรวจ สภ.พังโคน จ.สกลนคร ได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารว่า นายธีระพล อายุ 22 ปี ถูกนายวรวิทย์ อายุ 26 ปี ใช้มีดอีโต้ฟันบริเวณศีรษะ ลำตัว และนิ้วมือขาดหลายนิ้ว ทำให้เสียชีวิตบริเวณทางขึ้นบันไดบ้าน ต.ไฮหย่อง อ.พังโคน ด้วยสาเหตุที่ผู้ตายไม่อนุญาตให้ผู้ก่อเหตุร่วมดื่มในวงสุราด้วย
ล่าสุดวันที่ 14 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านกึ่งปูนกึ่งไม้ยกพื้นยกสูง ซึ่งเป็นบ้านของญาติผู้เสียชีวิต โดยทีมข่าวยังคงพบคราบเลือดปรากฏอยู่ แม้ว่าคราบเลือดจะแห้งไปแล้วก็ตาม
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายพล (นามสมมติ) อายุ 15 ปี น้องชายผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์และเกือบถูกทำร้าย นายพล เล่าว่า ในคืนวันที่ 12 ต.ค.63 ตนและผู้ตายรวมถึงญาติและเพื่อน ๆ รวม 6 คน ได้นั่งดื่มสุราและพูดคุยกันอยู่ใต้ถุนบ้าน ตั้งแต่เวลา 20.00 น. กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. นายวรวิทย์ ก็ได้เดินโวยวายเสียงดังถือขวดเหล้ามาขอรวมวงนั่งดื่มกับพวกตนด้วย ทราบภายหลังว่านายวรวิทย์ไปก่อกวนบ้านอีกหลังหนึ่งที่จัดงานบุญผูกข้อไม้ข้อมือ เจ้าของงานจึงได้ให้เหล้านายวรวิทย์ 1 ขวด เพื่อให้นายวรวิทย์ออกจากงาน
ทั้งนี้พวกตนตัดสินใจเงียบ ไม่ได้ตอบนายวรวิทย์ เนื่องจากไม่ได้สนิทกัน อีกทั้งนายวรวิทย์ มีประวัติไม่ดี เป็นที่รู้กันของคนในหมู่บ้านว่า ทั้งติดสุรา และยาเสพติด
จากนั้นนายวรวิทย์ ก็ได้เดินหายไปประมาณ 5 นาที แล้วกลับมาแถวบริเวณที่เกิดเหตุพร้อมข้าวเหนียวไก่ โดยหลังจากที่นายวรวิทย์นั่งกินข้าวเหนียวไก่จนอิ่ม ก็ได้นั่งดื่มสุราที่นำมาครู่หนึ่ง นายวรวิทย์ก็ได้หายตัวไปอีกครั้ง จนประมาณ 10 นาทีผ่านไป นายวรวิทย์ก็กลับมาพร้อมนายวิรัตน์ มัสสาทอง อายุ 54 ปี ผู้เป็นพ่อ โดยนายวรวิทย์ถือมีดอีโต้ในมือ ส่วนนายวิรัตน์ถือมีดอีโต้และกระบอง
นายวรวิทย์ จึงตรงเข้ามาหาผู้ตาย ทั้ง ๆ ที่ผู้ตายและกลุ่มของตนยังไม่ได้ทำอะไรอีกฝ่าย โดยผู้ตายเห็นท่าไม่ดี จึงหยิบไม้คล้ายซุงยาวเท่าขาที่วางไว้ใต้โต๊ะนั่งออกมาสู้ แต่ด้วยอาการมึนเมาอยู่ก่อนแล้ว ไม่สามารถสู้นายวรวิทย์ได้ จึงพลาดถูกมีดฟันบริเวณกกหูซ้ายจนล้มลง นายวรวิทย์ที่ได้เปรียบก็ได้กระโจนเข้าไปเพื่อจะฟันผู้ตายซ้ำ ผู้ตายได้ยกมือทั้งสองข้างขึ้นป้องกันตัว จึงเป็นเหตุให้นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อยข้างขวาขาดทั้ง 4 นิ้ว กระเด็นไปคนละทิศละทาง จากนั้นนายวรวิทย์ก็ได้ถือโอกาสกระหน่ำใช้มีดฟันลงกลางศีรษะผู้ตายอีกหลายครั้งจนสิ้นใจ
ทั้งนี้ทางครอบครัวได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงจับกุมตัวนายวรวิทย์ได้ที่โรงพยาบาล ซึ่งนายวรวิทย์รับสารภาพว่า ได้ลงมือฆ่าผู้ตายจริง เนื่องจากโกธรเคืองที่ผู้ตายไม่ยอมให้ร่วมวงสุราด้วย ส่วนนายวิรัตน์เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งข้อหาอะไร และปล่อยตัวออกมา
ตนไม่รู้ว่าทำไมนายวรวิทย์เจาะจงทำร้ายพี่ชายของตน เพราะขณะที่นายวรวิทย์มาขอร่วมวงสุรา ทุกคนก็ไม่มีใครตอบนายวรวิทย์เหมือนกัน พวกตนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับนายวรวิทย์มาก่อน ตนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก โดยนายวรวิทย์เป็นคนติดยาเสพติดและสุรา เคยก่อเหตุใช้มีดหรือขวดตีหัวชาวบ้านจนต้องเย็บ 8 เข็มมาก่อน ทั้งที่ชาวบ้านคนนั้นนอนเล่นโทรศัพท์อยู่เฉย ๆ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้นายวรวิทย์จะถูกจับกุมตัวไปแล้ว แต่นายวิรัตน์กลับไม่ถูกจับไปด้วย ทั้งที่ใช้มีดฟันตน ขณะนี้ทุกคนในเหตุการณ์รวมถึงครอบครัวและชาวบ้านต่างผวาและกลัวว่านายวิรัตน์จะย้อนกลับมาแก้แค้นแทนนายวรวิทย์ ตนจึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยพิจารณาความผิดของนายวิรัตน์อีกครั้ง ทำไมถึงไม่แจ้งข้อหาอะไรแล้วปล่อยตัวออกมา
นางเรไร ชาวบ้าน เล่าว่า ครอบครัวของนายวรวิทย์เป็นครอบครัวมีปัญหา นายวิรัตน์ผู้เป็นพ่อเป็นคนติดสุรา หายออกจากบ้าน นาน ๆ ถึงจะกลับมาสักครั้ง อีกทั้งนายวรวิทย์ ยังติดยาเสพติดและติดสุรา กลายเป็นเด็กมีปัญหา เคยแก้ผ้าเดินโวยวายในหมู่บ้าน