วันที่ 14 ต.ค. 63 ตั้งแต่ช่วงสายที่ผ่านมา การชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร 2563 ชุมนุมโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรุงเทพฯ ท่ามกลางการตรึงกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาลและเข้ามาปักหลักในช่วงเย็น พร้อมจัดตั้งเวทีปราศรัย
ส่วนการชุมนุมในวันนี้ นางจี๊ด อายุ 63 ปี กลุ่มผู้ชุมนุมร่วมคณะราษฎร กล่าวว่า ในวันนี้กลุ่มเสื้อแดงได้เดินทางมาจากทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น จ.กรุงเทพ จ.เชียงใหม่ จ.อยุธยา จ.อ่างทอง และยังมีกลุ่มจากภาคอีสาน ที่จะทยอยเดินทางเข้ามาเพื่อร่วมชุมนุมออย่างต่อเนื่อง
โดยในวันนี้ในส่วนของตนเองและผู้ใจดีได้มีข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่มกว่า 500 แพ็ก มาปักหลักคอยสนับสนุนกลุ่มเพื่อนผู้ที่เดินทางเข้าร่วมชุมนุมให้มีอาหารกิน หากจะยังมีการปักหลักชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ตนก็จะอยู่ร่วมด้วย และไม่ทอดทิ้งกลุ่มนึกศึกษาแน่นอน
นางวรรณา นภาศัย กลุ่มผู้กล้าประชาธิปไตย จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า กลุ่มของตนเองเป็นกลุ่มผู้กล้าปนะชาธิปไตย จ.สมุทรปราการ จุดประสงค์ที่มาร่วมชุมนุมในครั้งนี้ เพื่อมาทวงคืนประชาธิปไตย จากระบอบเผด็จการ โดยกลุ่มของตนเองเดินทางมาจาก อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่เวลา 05.00 น. และพึ่งมาถึง ถ.ราชดำเนิน เมื่อเวลา 14.00 น. เนื่องจากการจราจรติดขัด
สำหรับกลุ่มของตนเองได้เตรียมข้าวเหนียว ข้าวสวย ข้าวผัดและวัตถุดิบเพื่อมาประกอบอาหารในแต่ละมื้อ และจะมีการปักหลัก กินนอน อยู่ในรถยนต์ของตนเอง ไปจนกว่าจะทวงคืนประชาธิปไตยได้สำเร็จ และจะอยู่ข้างกลุ่มนักศึกษา ที่พวกตนเรียกว่าลูกๆอีกด้วย
สำหรับห้องน้ำที่ใกล้และสะดวกเป็นปั๊มน้ำมันที่อยู่ใกล้กัน มีประชาชนบางส่วนมานอนพักผ่อน และใช้ห้องน้ำในจุดนี้
บรรยากาศหลังจากกลุ่มผู้ชุมนุนได้เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนได้ขับหรือเข็นรถขายสินค้าอาหารตามหลังของขบวนกลุ่มผู้ชุมนุม
นายประทิน การะปักษ์ อายุ 48 ปี พ่อค้าขายขนมเบื้อง เผยว่า วันนี้ตนมาขายขนมเบื้อง ช่วงเวลา 13.00 น. ซึ่งขายตรงบริเวณสี่แยกคอกวัว แต่พอขบวนกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายไปทำเนียบรัฐบาล จึงตัดสินใจขี่รถตามมา เพราะหากอยู่ที่เดิมกลัวว่าจะขายไม่หมด และในวันนี้ตนได้ลงทุนไปเยอะ
โดยลงทุนกับภรรยาไป 3,000 บาท แต่แยกรถขาย และปกติจะลงทุนขายวันละ 2,000 บาท ซึ่งตนขายของตั้งแต่ 13.00 น. จนถึงเวลา 16.30 น. ขายได้ 700 บาท ต้องรอให้ถึงช่วงเย็นจะขายดี และหากวันนี้ตามเป้าหมายแล้วตนต้องได้กำไรประมาณ 5,000 บาท
นางจัน อายุ 33 ปี แม่ค้าขายขนมจีนน้ำยา วันนี้ตนมาขายขนมจีนน้ำที่บริเวณถนนราชดำเนินกลาง โดยมาขายตั้งแต่ 08.00 น. จนถึงเวลา 16.40 น. ตนขายได้เพียง 300-400 บาท ซึ่งขณะนี้ขอเข็นรถตามกลุ่มผู้ชุมนุม
ซึ่งวันที่ 19 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา ได้กำไร 10,000 บาท และในวันนี้ก็ได้ลงทุน 10,000 บาท ซึ่งได้ลงทุนขายส้มตำ เนื้อย่าง และขนมจีนน้ำยา อย่างไรก็ตาม วันนี้ขอขายของได้เท่าต้นทุน แต่หากกลุ่มผู้ชุมนุมได้ปักหลักค้างคืนก็สามารถขายของได้ทั้งคืน เนื่องจากเตรียมของไว้หมดแล้ว
ด้านสาฮานา มะลี อายุ 55 ปี แม่ค้าขายผลไม้ดอง เผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาจาก จ.ราชบุรี เพื่อมาขายผลไม้ดอง 7 ชนิด โดยมีองุ่นดอง มะกอกดอง กระท้อนดอง พุทราดอง ไข่เน่าดอง มะม่วงดอง และมะดันดอง ซึ่งได้เตรียมของมาเท่ากับวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา เพราะกลัวว่าหากเตรียมมาเยอะเกินจะขายไม่หมด
ตนได้ลงทุนซื้อผลไม้ดองไปรวม 6,000 บาท เมื่อช่วง 08.00 น. ตนได้ขายที่บริเวณคลองหลอด จนถึงเวลา 16.35 น. ได้เงินจำนวน 1,200 บาท และหากวันนี้ขายหมด จะได้กำไรคืน 5,000 บาท ยอมรับว่าวันนี้ขายของไม่ดี อย่างไรก็ตาม ตนจะกลับบ้านก็ต่อเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลกลับ แต่ตนคาดว่าอาจขายของไม่หมด ถึงแม้จะขายผลไม้ดองไม่หมดแต่ก็ได้กำไร