ประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกบ้าน พร้อมมาตรการจำกัดการรวมตัวในสถานที่สาธารณะ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศ กลับมาทวีความรุนแรงมากขึ้น
รายงานข่าวระบุว่า การประกาศเคอร์ฟิวของผู้นำฝรั่งเศสในครั้งนี้ ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่กรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศ และในอีก 8 เมืองใหญ่ ที่ประกอบด้วย เกรอน็อบล์, ลีลล์, ลียง, มาร์แซย์, รูอ็อง, ตูลูส, มงต์เปลิเยร์ และเมืองแซงต์-เอเตียงน์ จะไม่สามารถออกนอกบ้านเรือนและที่พักของตัวเองได้ในระหว่างช่วงเวลา 21.00-06.00 น.
ขณะเดียวกัน ยังมีการประกาศจำกัดการรวมตัวของประชาชนในสถานที่สาธารณะ ซึ่งทำให้ร้านอาหาร โรงภาพยนต์ และพิพิธภัณฑ์หลายแห่งต้องหยุดให้บริการเป็นการชั่วคราว
มาตรการเคอร์ฟิวที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสประกาศใช้ในครั้งนี้ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ (16 ต.ค.) นี้ และจะใช้ต่อเนื่องนาน 4 สัปดาห์ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดในยุโรป
ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดในฝรั่งเศสมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 779,063 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดมีจำนวน 33,037 ราย ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ยังต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลมีทั้งสิ้น 642,613 คน