เปิดใจ "แม่ฟ้า" เผยพี่สาวครูปรีชาจะให้ 3 แสนลูก - "เจ๊พัช" ดอดพบครู (คลิป)

จากกรณี คลิปเสียงหญิงสาวอ้างเป็นแม่ของ น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ "ฟ้า" ออกมาแฉพฤติกรรมที่ก้าวร้าวของลูกสาว ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (4 มี.ค.61) นางปิ่นแก้ว กองร้าย แม่ของ น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ "ฟ้า" คนสนิทของ ครูปรีชา ใคร่ครวญ เปิดเผยว่า นิสัยใจคอของ "ฟ้า" เวลาคุยกับคนรอบข้างก็เป็นคนน่ารัก แต่หากทะเลาะผิดใจกัน จะอารมณ์ขึ้นทันที เพราะเป็นลูกสาวคนอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ คุ้มดี คุ้มร้าย บางครั้งก็ดี แต่ถ้าทำให้ไม่ถูกใจจะถูกด่า บางครั้ง "ฟ้า" ก็ตีลูก และปาข้าวของ และเป็นคนอารมณ์ร้ายค่อนข้างบ่อย แต่ไม่เคยทำกับแม่ ในช่วงที่ผ่าน "ฟ้า" โมโหตน เพราะมาขอยืมรถแต่ตนไม่ให้ เลยนำเรื่องราวไปพูดใส่ไฟ คิดว่า ลูกสาวคงอยากดัง อยากจะออกทีวี พอตนและอดีตแฟนหนุ่มของฟ้า ออกมาแฉ ทำให้ทางฟ้า โดนโจมตี หลังจากนั้นทางแอดมินเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเมือง ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับตน และอัดคลิปเสียงตนไว้ ทำให้ "ฟ้า" โมโหมาก โดย นางปิ่นแก้ว ยอมรับว่าเสียงที่มาจากเฟซบุ๊กกลุ่มนี้ เป็นเสียงตัวเองจริงๆ ไม่ได้มีการแต่งเติม ซึ่งตนได้ชี้แจงไปแล้วว่า ทั้งตน และอดีตแฟนหนุ่มของฟ้า ก็โดนโจมตีกลับมาเหมือนกัน

สำหรับกรณีของ ครูปรีชา ตนไม่ทราบว่า "ฟ้า" มีส่วนได้เสียอะไรด้วย แต่คิดว่าหากไม่ได้อะไร ก็คงไม่ไปช่วยขนาดนั้น ทั้งนี้อดีตแฟนของ "ฟ้า" ได้มาเล่าให้ตนฟังว่า พี่สาวของครูปรีชา บอกว่า จะให้ค่าตอบแทน 300,000 บาท หลังเสร็จงานแล้วจะให้อีก 10 เปอร์เซ็นต์ รวมถึง ดร.เทอดศักดิ์ ด้วย ซึ่ง ครูปรีชา ก็ยอมรับเรื่องนี้กับอดีตลูกเขยตน

นอกจากนี้ นางปิ่นแก้ว ยังบอกด้วยว่า "ฟ้า" ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูตน มีให้ตนไปล้างชามที่ร้านน้ำเต้าหู้ ก็ให้วันละ 300 บาท แล้วตอนที่ลูกสาวให้ตนไปช่วยตกแต่งร้านค้า ปูกระเบื้อง โบกปูน อยู่ที่กรุงเทพฯ ก็บอกตนว่า จะให้เงินเดือนละ 12,000 บาท แต่ก็ไม่ได้สักบาท ให้เงินน้ามา 3,000 บาท ให้ตนเพียง 2,000 บาท พอตนทวงถามเรื่องเงินก็โดนเฉยเมย อีกทั้งยังมีเรื่องตอนที่ตนตัดสินใจลาออกจากโรงงาน มาช่วย "ฟ้า" ทำน้ำเต้าหู้ขาย ก็มาบอกว่าขายไม่ดีหนูจะไปแล้วนะแม่ ตนเลยบอกลูกสาว กลับไปว่า พอกูออกจากโรงงาน มึงก็มาทำอย่างนี้ มาทำให้กูตกงาน ซึ่งรถเข็นขายน้ำเต้าหู้นี้ก็เป็นของลูกเขย แล้วเขาก็มาขายต่อให้กับตน แต่ตนยังจ่ายเงินให้ไม่หมด ซึ่ง "ฟ้า" ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร นางปิ่นแก้ว ยังเปิดเผยอีกว่า เรื่องที่ "ฟ้า" เอารองเท้าตบหน้าตนนั้น ไม่ใช่เรื่องจริง แต่เอาไปประจานในคลิปไลฟ์สด ที่บอกว่า ตนเป็นแม่เลี้ยงก็ไม่ใช่ความจริง เพราะ "ฟ้า" เป็นลูกแท้ๆ ซึ่งตนเลี้ยงฟ้ามาเอง พอเขามาแฉเรา เราก็เลยแฉเขาบ้าง และไม่เคยด่าคำหยาบกลับด้วย คำว่า "กะ-รี่" อะไรไม่เคยด่าเขาเลย แต่คำว่า "เ-ี้ย" "อสูรกาย" หรือ "นรกส่งมาเกิด" ยอมรับว่าเคยด่า จนทำให้เพื่อนของ "ฟ้า" โทรมาด่าตนว่า ทำไมทำแบบนี้ ทั้งที่ "ฟ้า" เองก็ไม่เคยคิดว่าเราเป็นแม่ จากนั้น เราก็ไม่รับสายอีก และขัดแย้งกันแบบนี้มา 1 ปี แล้ว ตั้งแต่เขาไปเป็นเน็ตไอดอล

นางปิ่นแก้ว ยอมรับว่า ภายหลังตอนที่มาขายน้ำเต้าหู้ ก็มาผิดใจกันแล้วเอาลูกไปอยู่ที่จังหวัดสระบุรี พอเขาไป เขาก็มีธุระจะใช้รถ แต่ทางแฟนหนุ่มไม่ให้ ตั้งแต่นั้นมาก็เลยมีเรื่องกัน เขาก็จะโทรมาบอกให้เราระวังตัวนะ จนเราไม่อยากได้ยินเสียงเขาอีกเลย แล้วเขาก็ไม่เคยเรียกเราว่าแม่ มีแต่เรียกว่า "ยายแก้ว" ทุกครั้ง ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่า มีเรื่องทุบตีลูก จริงหรือไม่ นางแก้วตอบว่า จริง บางทีหลานตน ถูกจับแขนตี กระชาก ถ้าใครเข้าไปห้าม ก็จะยิ่งตี หลังๆ มาก็เลยต้องเงียบ และไม่เข้าไปห้าม เขาก็จะหยุดตีเอง แต่ทั้งนี้ เขาไม่เคยทำร้ายแม่ แต่จะด่า และทำตาถลนใส่

ส่วนความคืบหน้า คดีลอตเตอรี่ 30 ล้าน ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้มีคลิปเสียงระหว่างชาย ซึ่งคาดว่าเป็น ครูปรีชา ใคร่ครวญ กับ "เจ๊เซี้ยม" ชาว อ.บ่อพลอย โดย เจ๊เซี้ยม ระบุว่า ร.ต.ท.จรูญ วิมูล เก็บลอตเตอรี่มาได้ โดยมีพยานที่รู้เห็น คือ ป้ารัตน์ และ ป้าบุ๋ม ซึ่งทั้ง 2 คนได้ออกมาปฏิเสธว่า ไม่ทราบเรื่อง ทั้งยังลงบันทึกประจำวันแสดงความบริสุทธิ์ใจ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ไปยังบ้านของ "เจ๊เซี้ยม" พบว่า บ้านยังปิดล็อคเหมือนเดิม จึงเดินทางไปบ้านของ น้องสาวเจ๊เซี้ยม ซึ่งอยู่ใน อ.บ่อพลอย เหมือนกัน ก็พบว่า บ้านเปิดอยู่เช่นกัน

จากการสอบถาม นางโม่ย แซ่เฮี้ยง เพื่อนบ้าน น้องสาวเจ๊เซี๊ยม กล่าวว่า น้องสาวของเจ๊เซี้ยม น่าจะออกไปทำธุระข้างนอก โดยเชื่อว่า เจ้าตัวไม่น่าจะทราบเรื่องคลิปเสียงคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ของ เจ๊เซี้ยม พี่สาวแต่อย่างใด ส่วนตัว เจ๊เซี้ยม นั้น ตนเคยเห็นมาหาน้องสาว แต่ 2-3 วันที่ผ่านมาไม่ได้มาหาน้องแต่อย่างใด โดยปกติ เจ๊เซี้ยม เป็นคนจิตใจดี ชอบเดินสายทำบุญปฏิบัติธรรมธรรม ซึ่งตนก็ไม่ทราบเรื่องคลิปที่ออกมาว่าใครเป็นคนทำ

ด้าน อดีตสามีของเจ๊เซี้ยม กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่า "เจ๊เซี้ยม" หายไปไหน แต่เชื่อว่า น่าจะเครียดกับข่าวที่ออกมา และไม่น่าจะกลับมาบ้านในช่วงนี้ ส่วนกรณีที่ นางลาวัลย์ วิมูล ภรรยาของ ร.ต.ท.จรูญ ออกมาให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า เสียความรู้สึกที่ เจ๊เซี้ยม ทำแบบนี้ คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะทั้ง 2 คนรู้จักกัน ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวของ ร.ต.ท.จรูญ มานานแล้ว ตั้งแต่เกษียณอายุราชการในปี 2557 ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ เพราะเลิกรากับ เจ๊เซี้ยม มานานกว่า 10 ปี แล้ว อดีตสามีเจ๊เซี๋ยม กล่าวว่า นิสัยของ ร.ต.ท.จรูญ สมัยเป็นตำรวจค่อนข้างประหยัด แต่เมื่อเกษียณราชการออกมาอาจมีเงินก้อน ทำให้สามารถนำไปใช้จ่ายได้คล่องตัวมากขึ้น ซึ่งตนไม่สามารถสรุปได้ว่าเจ้าตัวซื้อลอตเตอรี่จริงหรือไม่

จากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของ ครูปรีชา ใคร่ครวญ ซึ่งอยู่ใน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พบว่า ประตูส่วนห้องครัวเปิดอยู่ และมีคนอยู่ภายในบ้าน และได้ยินเสียงผู้ชายคล้ายเสียงครูปรีชา พูดคุยอยู่ภายในห้องครัว ซึ่งทีมข่าวพยายามโทรศัพท์ไปหา ครูปรีชา แต่เจ้าตัวไม่รับสายแต่อย่างใด

ก่อนจะวกกลับมาอีกครั้ง ในเวลา 18.00 น. พบว่า ประตูห้องครัวได้ถูกปิดล็อกไว้ และไม่ได้ยินเสียงสนทนาจากคนในบ้าน จึงได้ลองกดกริ่งเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เมื่อสอบถามเพื่อนบ้าน ระบุว่า ยังไม่เห็นครูปรีชา กลับมาที่บ้านแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ทีมข่าวได้เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณหน้าบ้าน ครูปรีชา กระทั่งเวลาประมาณ 18.30 น.พบว่า น.ส.พัชริดา พรมตา หรือ "เจ๊พัช" ได้ขับรถเข้ามาในซอยบ้านครูปรีชา เมื่อถึงหน้าบ้านทันทีที่เห็นรถของทีมข่าว เจ๊พัช ก็รีบกลับรถขับออกไปจากซอยอย่างรวดเร็ว

ทีมข่าวจึงเดินทางต่อไปยัง บ้านของ นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ "เจ๊บ้าบิ่น" แม่ค้าลอตเตอรี่ พบว่าบ้านถูกปิดเงียบ มีเชือกกั้นระหว่างเสาทางเข้าหน้าบ้าน เมื่อสอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียง ระบุว่า ยังไม่พบ เจ๊บ้าบิ่น ตั้งแต่ตำรวจกองปราบนำตัวเข้ากรุงเทพฯ โดยที่บ้านตอนนี้มีเพียงลูกชายเจ๊บ้าบิ่น อาศัยอยู่ ส่วนเชือกที่กั้นอยู่นั้น น่าจะนำมากั้นผู้สื่อข่าวไม่ให้เข้าไปในบ้าน

นอกจากนี้ ยังเดินทางไปยังบ้านของ น.ส.พัชริดา พรมตา หรือ "เจ๊พัช" พบว่า บ้านเปิดประตู แต่เมื่อทีมข่าวพยายามเรียก กลับไม่มีเสียงตอบรับแต่อย่างใด

ทั้งนี้ทีมข่าวได้สอบถามเพื่อนบ้านของเจ๊เซี้ยม กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเจ๊เซี๋ยมเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านได้อย่างไร โดยเพื่อนบ้านรายแรก ระบุว่า ส่วนตัวไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เพราะปกติมักจะคุยกับ เจ๊เซี้ยม แต่เรื่องการทำบุญ เนื่องจากเจ้าตัวชอบเดินสายทำบุญเป็นประจำ แต่ปกติ เจ๊เซี้ยมรู้จักคนเยอะ เพราเป็นคนเก่าแก่ในอำเภอบ่อพลอย ทั้งนี้ ทีมข่าวได้เปิดภาพ น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ "ฟ้า" คนสนิทของครูปรีชา และผู้สื่อข่าวรายหนึ่ง ที่มีข้อมูลว่าเป็นคนประสานให้ ทนายษิทรา คุยกับ ครูปรีชา ให้เพื่อนบ้านรายนี้ดู ซึ่งเพื่อนบ้านรายนี้ ยืนยันว่า ไม่เคยเห็นบุคคล 2 คนนี้ มาหา เจ๊เซี้ยม แต่อย่างใด

ขณะที่ เพื่อนบ้านอีกราย กล่าวว่า เจ๊เซี้ยม รู้จักคนเยอะจริง แต่จะมีความเชื่อมโยงกับเรื่องที่ไปพัวพันกับคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ปกติจะพบว่า เจ๊เซี้ยม เปิดบ้านนานๆ ครั้งเท่านั้น และตั้งแต่มีคลิปเสียงออกมา เจ๊เซี้ยม ก็ยังไม่กลับมาที่บ้านแต่อย่างใด