"หนุ่ม ศรราม" ยันไม่กลับมาเป็นครอบครัวกับอดีตภรรยา ขอโฟกัส "น้องวีจิ" เป็นหลัก ยังไม่พร้อมเปิดใจกับรักครั้งใหม่

เรียกว่าก่อนหน้านี้ได้มีคลิปครอบครัวของพระเอกหนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์ ลูกสาวน้องวีจิ และอดีตภรรยาติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ที่ได้มาเจอกันอีกครั้ง ซึ่งพอหลายคนได้เห็นบรรยากาศนั้นแล้วถึงกับเชียร์ให้กลับมาเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกใต้ชายคาบ้านเดียวกัน เพราะมันเป็นคลิปที่ดูทุกคนมีความสุข ซึ่งงานนี้ด้านพี่หนุ่มได้ออกมาเผยว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น แต่เรื่องกลับไปเป็นครอบครัวคงไม่ เผยตอนี้ยังไม่เปิดใจยังไม่คิดเรื่องความรัก เจ้าตัวได้มาเผยทุกประเด็นในรายการ คุยแซ่บSHOW 

ช่วงนี้ดีไหม?
หนุ่ม : ก็ดีครับ เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทำงาน 7 วันมาตั้งแต่อายุ 17 แล้ว จนตอนนี้ 46 ก็ยังเหมือนเดิม เดี๋ยวมีละครออนแอร์ 2 เรื่องปลายเดือนนี้

เมื่อวานซีนและอดีตภรรยาพบเจอกัน มาพบลูก?
หนุ่ม : ดีครับ วีจิเองก็ได้เจอคุณแม่ ติ๊กเองก็ดูมีกำลังใจให้ตัวเขา เป็นเรื่องที่น่ายินดี ผมเป็นคนกำหนดให้เจอกันเดือนละ 2 ครั้งก่อนในเบื้องต้น เพราะผมเองถ่ายละครแน่น งานฝั่งคุณติ๊กก็เยอะพอสมควร

มีการร้องเรียนมูลนิธิ?
หนุ่ม : ผมไม่ทราบว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ผมคิดว่าถ้ามันเป็นผลดีต่อตัวลูกผมยินดีอยู่แล้ว แต่วาผมไม่ว่างเลยส่งตัวแทนกฎหมายไปดู แต่พอไปดูแล้วสถานที่ไม่โอเค สักวันสองวันคุณติ๊กไปประสานงานทางภาครัฐ ผมว่างแล้วเลยไปดูสถานที่ด้วยตังเอง ซึ่งมันปลอดภัยมาพบที่นี่เป็นที่กลางดีกว่า อะไรที่เขาเสนอมาผมไม่ได้ละเลยผมยินดีทำตามแม่ลุกเจอกัน

บรรยากาศวันนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?
หนุ่ม : ดีครับ วีจิก็ดีใจได้เจอคุณแม่ ก็เล่นกัน ตัวคุณติ๊กเองก็รู้สึกว่าได้กำลังใจจากลูกไป ผมรู้สึกว่าเดือนนึงใน 2 วันเรามาทำหน้าที่พ่อหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด

ตอนเจออดีตภรรยาความรู้สึกของพี่หนุ่มเป็นยังไง?
หนุ่ม : ผมก็รู้สึกดีที่เห็นวีจิยิ้มเล่นกับแม่ แล้วก็รู้สึกดีที่เห็นติ๊กมีกำลังใจ เป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ ไม่ได้มีความรู้สึกคิดถึง หรืเป็นห่วง ผมเป็นห่วงสีจิมากกว่า ส่วนตัวน้องเองก็ไม่ได้เรียกร้องหาคุณแม่ น้องปกติครับ

หลายคนเอาใจด้วยให้กลับมาเป็นพ่อแม่ ครอบครัวเดียวกัน?
หนุ่ม : คงจะไม่ครับ ในช่วงเวลาที่เราใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน ผมทำทุกอย่างดีที่สุด เต็มที่ เต็มความสามารถเต็มกำลัง ที่ผมจะสามารถทำได้ ผมเป็นคนใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง หลายสิ่งหลายอย่างอาจจะไม่สมบูรณ์แต่ลูกเป็นสิ่งมีค่าที่สุด การตัดสินใจของผมที่ผมจะทำอะไรก็ตาม ผมพิจารณาแล้ว คิดรอบคอบทุกสิ่งทุกอย่างดีแล้ว ว่าจะต้องมีผลดีกับวีจิมากที่สุด เพราะฉะนั้นผมตัดสินใจแล้ว

มีคนคอมเมนต์ทำนองว่าเวลาติ๊กไลฟ์สดก็บอกว่ารอให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนดิม?
หนุ่ม : ผมว่าเราก็มาทำหน้าที่พ่อแม่ให้ดี ก็เป็นหนึ่งวันที่ดีสำหรับวีจิ ส่วนติ๊กที่มาเจอลูกก็เป็นความรู้สึกที่ดีของเขา ถึงแม้ว่าเราจะเลิกกันแล้วแต่เราก็เป็นเพื่อนกันได้

เจอกัน 2 เดือนต่อครั้งน้อยไปไหม?
หนุ่ม : ก็ต้องดูว่าเป็นยังไงบ้าง ถ้าเจอแล้วดีแล้วเรามีเวลามากขึ้น วีจิโตขึ้นอีกนิด เขาก็ต้องไปโรงเรียนแล้ว การเจอกันมากขึ้นทีนี้มันจะเป็นยังไง มันต้องดูกันหลายๆอย่าง

ถ้าวันนึงติ๊กดูแลตัวเองได้ดีขึ้นให้ลูกไปค้างได้ไหม?
หนุ่ม : ถ้าตอบ ณ วันนี้ยังไม่ให้ไปค้างครับ แต่ในอนาคตก็ต้องขอดูความเหมาะสม ปัญหาแต่ละอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นปัญหาที่หนักและกระทบต่อความปลอดภัยของลูก ผมพยายามประคับประคองให้ออกมาดีที่สุดแต่ผลลัพธ์มันออกมาเป็นแบบนี้จริงๆ

ติ๊กโพสต์รูปโรงเรียนนานชาติบอกจะเก็บเงินส่งลูกเรียน เกิดเป็นประเด็นพูดคุยในสังคม?
หนุ่ม : เรื่องการศึกษาของวีจิ ค่าเล่าเรียน ค่าเลี้ยงดู มันถูกบันทึกในใบหย่าแล้วว่าผมเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

เหมือนจะมีงานพรีเซ็นเตอร์ติดต่อมาทั้งครอบครัว ตรงนี้จะยังไง?
หนุ่ม : ต้องพิจารณาเพราะว่าตอนนี้ผมรับงานส่วนใหญ่จะเป็นผมกับวีจิมากกว่า ซึ่งส่วนใหญ่พี่ๆที่ให้งานมา เขาก็รับรู้เรื่องราวของเรามาตั้งนานแล้วว่าเราเป็นซามูไรพ่อลูกอ่อน ติดต่องานเลยเป็นผกับวีจิซะมากกว่า งาน 3 คนนี้ยังไม่เห็นเข้ามา ซึ่งมันก็คงเป็นไปไม่ได้ เราคงทำงานนี้ไม่ได้ เพราะว่าเราไม่ได้เป็นแบบนั้น

ค่าใช้จ่ายตอนนี้รับผิดชอบคนเดียว?
หนุ่ม : มันก็ยังมีปัญหาที่เกิดจากหนี้สินบางส่วน ในเรื่องของการดูแลครอบครัวเก็บหอมรอมริบให้วีจิในอนาคต ผมไม่เคยคิดว่ามันหนักเลย ถ้าติ๊กอยากจะเก็บเงินให้วีจิก็เป็นเรื่องน่ายินดี ผมบอกเขาแล้วว่าให้ทำเป็นพินัยกรรม ใส่บัญชี หรือประกันภัยอะไรก็แล้วแต่ที่สลักหลังไว้ว่ามอบให้กับใคร

ถ้าติ๊กดูอยู่ อยากบอกอะไรไหม?
หนุ่ม : ไม่มีอะไรจะบอก คุยกันหมดแล้ว

เป็นทั้งคุณแม่คุณแม่ในคนเดียวกัน เหนื่อยไหม?
หนุ่ม : ไม่เหนื่อยครับ ไม่ท้อ ไม่ถอย ตอนผมไปทำงานมีพี่เลี้ยงดูที่ไว้ใจได้ ผมก็ไม่รู้ว่าเขาติดไหม เขารู้ว่าเป็นพ่อและพ่อทำงาน

สิ่งที่ปลูกฝังลูกในวัยนี้เรื่องอะไรบ้าง?
หนุ่ม : สอนให้เขารู้จักยกมือไหว้คน ความกตัญญูรู้คุณ ความพึงพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี

เตรียมตัวอธิบายให้ลูกฟังเมื่อโตขึ้นยังไง?
หนุ่ม : เขารับรู้ได้อยู่แล้วครับ ทุกวันนี้เขาก็รับรู้ พี่มาสัมภาษณ์ก็ระมัดระวังในการที่ลูกจะเปิดยูทูบดูย้อนหลังเลย เรื่องของความอบอุ่นผมเองก็โตมากับครอบครัวที่คุณพ่อมีภรรยาหลายคน เราอาจจะไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาด้วยความสมบูรณ์เรายังผ่านมาถึงตรงนี้ได้เลย เด็กสมัยเรียนรู้เร็ว ฉลาด

ให้อภัยอดีตภรรยาแล้ว?
หนุ่ม : บอกแล้วว่าไม่ได้โกรธอะไร

ตอนนี้วิจีเป็นยังไงบ้าง?
หนุ่ม : ก็ตามวัยครับ รู้จักสี รู้จักสัตว์ แต่ยังไม่หลุดเป็นคำ เขาเป็นคนเลี้ยงง่าย เข้ากับคนง่าย ส่วนเรื่องเสื้อผ้าพี่เลี้ยงแต่งให้ แล้วก็ต้องขอบคุณมาจากพี่ๆแฟนคลับทั้งนั้นที่ส่งมา เรื่องอาหารการกินเราศึกษาอยู่แล้วจะพยายามให้ลูกกินผักไม่ใช่แค่ขนม ของเล่นก็ซื้อให้เลยไม่อั้น (หัวเราะ)

น้องมีแววจะเข้าวงการมั้ย?
หนุ่ม : เขาชอบเต้น เข้าวงการนี่คิดหนักเลย ว่าเราเคยถ่ายละครแต่เด็กต้องมาบังคับให้ยิ้ม มาบังคับให้ร้องไห้ แต่ถ้าเขาชอบก็สนับสนุน

เลี้ยงลูกแบบนี้คิดถึงป๋าบ้างมั้ย?
หนุ่ม : คิดถึงทุกวัน ไหว้ทุกวันขอให้คุ้มครองวีจิ คุ้มครองมาม๊า คุ้มครองทุกคนในบ้านให้มีแต่ความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรง ขอให้วีจิไปไหนก็มีแต่คนเอ็นดูมีแต่คนรัก เค้ารู้ว่านี่คุณปู่เขาก็ยกมือไหว้ธุจ้า

ถ้ามีใครสักคนอยากเข้ามาดูแล?
หนุ่ม : ตอนนี้ยังไม่เห็นมีใครอยากมาดูแลเลย ตอนนี้ยังไม่เปิดยังไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่าดูแลวิจีให้ดีก่อน เรื่องนี้ไม่อยู่ในหัวเลย

เข็ดกับความรักเลยมั้ย?
หนุ่ม : เป็นประสบการณ์ที่เราไม่เคยเจอมากกว่า แล้วเราก็ยอมรับกับเรื่องราวที่มันเกิดขึ้นได้ และแข็งแรงพอที่จะพาลูกฝ่าออกมาได้

ถ้าวันนึงมีคนเข้ามาเติมชีวิตชีวาอีกครั้ง?
หนุ่ม : ยังไม่ถึงขั้นนั้น ไม่สามารถตอบได้ ถ้าถึงขั้นนั้นเมื่อไหร่จะมารายการนี้อีกครั้งนึง เขาจะเป็นคนแบบไหนก็ตอบไม่ได้ เพราะว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องที่ผมคิด ถ้าผมพิจารณารอบคอบแล้วจะตอบได้อีกครั้งนึง