วันที่ 22 ต.ค. 63 เวลา 12.50 น. มีเหตุท่อส่งก๊าซใต้ดินระเบิด มีคนได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน รวมทั้งมีชาวบ้านเสียชีวิต เนื่องจากแรงระเบิดและถูกไอความร้อนจากเปลวเพลิงที่ลุกท่วม และแผ่รัศมีความรุนแรงไปไกลกว่า 800 เมตร โดยจุดเกิดเหตุอยู่ที่ ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
ล่าสุด เวลา 20.35 น. ที่บ้านผู้เสียหาย ห่างจากจุดเกิดเหตุ 500 เมตร ซึ่งเพิ่งมีการจ่ายไฟเข้ามา เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เล่าว่า มีลูกไฟ เปลวไฟ ลอยมาพร้อมกับเศษหินจากการระเบิดจากท่อก๊าซ
พ่อกับแม่ของตนที่อยู่ในบ้านรีบวิ่งหนีไปทางหลังบ้าน ถูกลูกหินและเปลวไฟเข้าที่ด้านหลัว แขนและขา ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล แต่อาการปลอดภัยแล้ว ซึ่งจากแรงสั่นสะเทือนทำให้ตนคิดว่าเครื่องบินตก
จากนั้นตนจึงไลฟ์เฟซบุ๊กเพื่อความช่วยเหลือ ตนกลับมาตอนเฝ้าที่บ้านซึ่งเปิดเป็นร้านค้า เพราะเป็นห่วงบ้าน ส่วนบริเวณหน้าบ้านก็พบลูกหินที่ลอยมาเต็มบริเวณ และบ้านหลังข้างเคียง ซึ่งเป็นญาติกัน
ใกล้กันเป็นสถานีตำรวจภูธรเปร็ง ได้รับความเสียหายและปิดทำการ กระจกด้านข้างร้านสะดวกแตก หลังคา ฝ้าถูกกระแทกจนเป็นรอยและกำแพงทะลุ ส่วนรถจักรยานยนต์ที่เป็นไฟเบอร์และพลาสติกละลายเสียหายทั้งคัน ข้างกันมีรถยนต์ที่ฝากระโปรงรถซึ่งเป็นเหล็กก็บิดเบี้ยว กระจกแตก รถยนต์อีกคันเกิดระเบิดบึ้มจนเสียหายวอดทั้งคันเช่นกัน
สำหรับแนวเส้นท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ส่งผ่านติดต่อกันหลายจังหวัด ที่เกิดเหตุ จ.สมุทรปราการ เชื่อมต่อกับ จ.ฉะเชิงเทรา และกรุงเทพมหานคร
โดยความความเสียหาย บ้านเรือนชาวบ้านในระยะ 800 เมตร กว่า 30 หลังคาเรือนพังเสียหาย รถยนต์ 20 คัน สภ.เปร็ง รวมถึงร้านสะดวกซื้อพังเสียกายทั้งกำแพงและกระจกแตก หลังจากเปลวไฟและเศษซากดินหินลอยมากระแทก
ล่าสุด เวลา 21.00 น. ทีมข่าวได้ลงพื้นที่จุดอพยพ นายสายชล แดงนิยม อายุ 47 ปี หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จุดสภ.บางพลี บอกว่า เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ใหญ่ใน จ.สมุทรปราการ ชาวบ้านต่างทำตัวไม่ถูก เพราะไม่เคยประสบมาก่อน โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าไปเคลียร์พื้นที่ตั้งแต่หลังการระเบิดสงบลงในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. และใช้เวลา 1 ชั่วโมง ต้อนให้คนออกจากพื้นที่เสี่ยง จากนั้นจะพลัดกันเข้าไปสำรวจที่เกิดเหตุทุก 30 นาที เพื่อประเมินสถานการณ์และตรวจสอบโครงสร้างอาคาร
นอกจากนี้ การที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปตรวจเช็กทุก 30 นาที ประกาศขอให้คนออกจากพื้นที่ ยังทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่พบคนตกค้างอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากชาวบ้านบางคนอาจจะกลับมาเอาทรัพย์สิน หรือกลับมาอาศัยอยู่ในบ้าน เพราะคิดว่าบ้านไม่เสียหายหนัก ทั้งที่โครงสร้างอาจเปราะบางจากเหตุระเบิด จากนั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญูจะมาเปลี่ยนเวรในเวลา 08.00 น. ของวันรุ่งขึ้น คาดว่าในพรุ่งนี้จะมีการนำรถน้ำมาเพิ่มจากที่มีประจำจุดอยู่แล้ว 2 คัน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมไว้ก่อน และจะทำการปูพรมตรวจเช็กพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง