วันที่ 22 ต.ค. 63 เวลา 12.50 น. มีเหตุท่อส่งก๊าซใต้ดินระเบิด มีคนได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน รวมทั้งมีชาวบ้านเสียชีวิต เนื่องจากแรงระเบิดและถูกไอความร้อนจากเปลวเพลิงที่ลุกท่วม และแผ่รัศมีความรุนแรงไปไกลกว่า 500-800 เมตร โดยจุดเกิดเหตุอยู่ที่ ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
ทีมข่าวเดินทางมาที่เกิดเหตุ ซึ่งพบว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการทำงานเพื่อควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ มีทั้งเจ้าหน้าที่ของ ปตท. การไฟฟ้าส่วนผลิต เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่เกิดเหตุ
โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นมีทั้งสายไฟฟ้า สายเคเบิ้ลถูกความร้อนละลาย ที่เกิดเหตุพบท่อก๊าซงัดขึ้นมาจากดิน โผล่สูงจากพื้นราว 5 เมตร
ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นท่อส่งก๊าซขนาดใหญ่ที่ฝังอยู่ใต้ดิน ได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ไฟลุกไหม้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ได้รับความเสียหายกว่า 10 หลังคาเรือน รวมทั้งตัวอาคารของโรงพัก สภ.เปร็ง ถูกแรงอัดจนกระจกแตกตัวอาคารแตกร้าว ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวนมาก
ร่วมทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่รอบ ๆ โรงพัก ถูกไฟลุกไหม้ไปกว่า 30 คัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิและหน่วยกู้ชีพได้ช่วยกันลำเลียงร่างผู้บาดเจ็บกว่า 20 ราย ออกจากที่เกิดเหตุ และการตั้งวอร์รูมคัดกรองอาการผู้บาดเจ็บภายในวัดเปร็ง ใกล้ที่เกิดเหตุ ก่อนกระจายแยกย้ายนำคนเจ็บทั้งหมดส่งรักษาตามโรงพยาบาลต่าง ๆ
นอกจากนี้ พบว่ามีหญิงสูงอายุถูกไฟคลอกเสียชีวิจจำนวน 1 ราย ขณะที่รถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงหลาย 10 คัน ได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิง โดยใช้เวลาในการสกัดเพลิงอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียในที่เกิดเหตุและพื้นที่ข้างเคียง และในที่เกิดเหตุยังพบว่ามีโรงเรียนเปร็งตั้งอยู่ซึ่งได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน แต่ไม่มีรายงานว่าเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ แต่ 300 กว่าชีวิตต้องวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น
ทีมข่าวได้พบกับ นายบุญเชิด หาญหิรัญ ลูกชายของนางลมัน กลมอ่อน อายุ 86 ปี หนึ่งในผู้เสียเสียชีวิต ซึ่งเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ปกติตนเองไม่ได้อยู่ที่บ้าน จะมีเพียงแม่ น้องสาว น้องเขย และหลาน ที่พักอยู่ที่บ้านหลังนี้ ช่วงเกิดเหตุตนเองยังไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองต้องสูญเสียแม่ ตนเองยังทำอะไรไม่ถูก ส่วนสาเหตุการณ์เสียชีวิตยังไม่ทราบว่าแม่ถูกไฟคลอกหรือทดความร้อนไม่ไหว
ส่วนบ้านก็ได้รับความเสียหายทั้งหมด เนื่องจากบ้านที่แม่พักอาศัยคือบ้านหลังแรกที่อยู่ริมถนนหลังสีเขียว อย่างไรก็ตาม ตนเองยังมีน้องสาว น้องเขย หลานที่ได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะน้องเขยและหลานยังอยู่ในห้องไอซียู
ด้านธนพร เพ็งลุน คนงานก่อสร้าง เล่าว่า ช่วงบ่ายโมงตนเองอยู่ที่บ้านเกิดเหตุ ซึ่งตนมาทำงานต่อเติมบ้านพักให้กับชาวบ้าน ตนได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น จากนั้นไม่นานมีประกายไฟพุ่งขึ้นจากพื้นขึ้นมา ส่วนตัวอยู่บ้านชั้น 2 ตัดสินใจกระโดดลงมาจากชั้น 2 เพราะตอนนั้นสัมผัสได้ถึงความร้อน ตนเองตัดสินใจลงไปอยู่ในบ่อน้ำราว 2 ชั่วโมง ตนเองไม่รู้จะไปทางไหน ตอนนี้มีอาการเจ็บ มีแผลพองที่ใบหน้า อาการกระดูกเท้าซ้ายแตก ตนไม่คิดว่าจะรอดชีวิต และเหมือนได้เกิดใหม่
ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ผู้บาดเจ็บที่มาพักรักษาตัว เปิดใจเล่าว่า ตนมีอาการขอเท้าพลิก ข้อเท้า 2 ข้างแตก ช่วงเกิดเหตุตนอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ กำลังทำงานฉาบปูน ซึ่งก่อนเกิดเหตุก็ไม่มีสัญญาญเตือนก่อน เสียงดังบึ้มระเบิดเกิดขึ้นทันทีอย่างรวดเร็วมาก
ถ้าไม่มีกำแพงปูนบังตนไว้ ตนคนร่างไหม้ไปแล้ว ตอนนั้นตนตัดสินกระโดดลงจากตึกชั้น 2 และวิ่งไปมุดที่ใต้เพดาน ตะโกนเรียกให้คนช่วย ตอนนั้นเสียงดังมากเหมือนระเบิดนิวเครียร์ และไฟลุกโหมรุนแรงมาก ในใจคิดว่าตนอาจจะไม่รอดแล้ว ตนได้แต่คิดถึงหน้าลูกและยาย และโชคดีที่รอดชีวิตมาได้
