แม้ว่าการประกวดจะจบไปพักใหญ่แล้วแต่ดราม่าก็ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง สำหรับเรื่องสัญญาและของรางวัลของ MISS UNIVERSE THAILAND 2019 “ฟ้าใส ปวีณสุดา” กับกองประกวด “TPN” ที่หลายคนจับตาวาทำไมจู่ก็มีรูปทีมงานถือกล่องมงกุฎตามติดในวันที่ฟ้าใสอำลาตำแหน่ง แถมยังมีข่าวลือออกมาว่าจริงๆแล้วหลังฟ้าใสดำรงตำแหน่งครบ 1 ปี เธอไม่ได้เซ็นสัญญาร่วมงานกับกองประกวดต่อเหมือนกับนางงามคนอื่นๆ จำทำให้ทางกองต้องยึดมงกุฎ สายสะพาย เงินรางวัลและของรางวัลอื่นๆกลับทั้งหมดอีกด้วย ล่าสุดวันนี้ (28 ตุลาคม 2563) ทีมข่าวของเราก็มีโอกาสได้คุยกับผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวด Miss Universe Thailand “คุณปุ้ย-ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” และ “คุณณะ-ณรงค์ เลิศกิตศิริ” National Director Miss Universe Thailand 2020 ทั้งคู่ก็ออกมายืนยันว่าไม่ได้ปลด “ฟ้าใส” พร้อมยอมรับว่า “ฟ้าใส” ไม่ได้เซ็นสัญญากับกองจริง แต่น้องไม่ได้มีปัญหาอะไรกับกอง ไม่มีดราม่า ทุกอย่างเป็นการตกลงปลงใจของ “ฟ้าใส” เองทั้งหมด จึงต้องเคารพการตัดสินใจ กองไม่เคยไปว่าน้องและน้องก็ทำเต็มที่จนหมดวาระจริงๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “เอส อนุสิทธิ์” ลั่นทวงคืนความยุติธรรมให้ "ฟ้าใส" พร้อมทุบอีก 2 วัน เหตุผลที่ไม่เซ็นสัญญา!!
- ความจริงมีสองด้าน! "ผจก. ฟ้าใส" VS "ปุ้ย TPN" ตอบดราม่ามงกุฎยืมสวม!!
- ผจก. "ฟ้าใส" ออกโรงโพสต์หาร้านทำมงกุฎใหม่ โซเชียลฟาดกองทำลายศักดิ์ศรีท็อป 5 จักรวาล
- กลิ่นดราม่าแรง!! แฟนนางงามถามแรงมงกุฎและสายสะพาย ”ฟ้าใส” ไปไหน!!
“คุณปุ้ย” ก็เปิดใจเลยว่าถ้าจะพูดถึงดราม่าของกองฯ จริงๆแล้วเราไม่มีดราม่า ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นมันจบไปนานมากแล้ว ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และที่สำคัญคือทุกอย่างจบอย่างสวยงาทด้วยซ้ำไป ส่วนกับภาพที่มีคนเหมือนถือกล่องไปจ่อทวงมงกุฎคืนจากฟ้าใสนั่น ส่วนตัวคุณปุ้ยก็เพิ่งจะได้ถามคนในภาพ ก็ได้ความมาว่าเขาไม่ได้จะไปทวงหรืออะไร และไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปทวงด้วย แต่มงกุฎมีมูลค่าเป็นล้าน บวกกับช่วงนั้นตนทั้งคู่ก็วุ่นวายกับงานมาก ทุกคนก็จะมีหน้าที่ของตัวเอง จึงต้องมีคนดูแลเป็นเรื่องปกติ
พร้อมกับการเคลียร์เรื่องสัญญาของ “ฟ้าใส” แบบชัดๆว่า ทางกองฯไม่ได้เอามงคืน แต่ไม่ได้ให้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งตามทำเนียมหลังรับมงกุฎก็ต้องเซ็นสัญญา โดยในข้อตกลงระบุว่า ต้องเซ็นสัญญาดำรงตำแหน่งในฐานะนางงาม 1 ปี และเซ็นสัญญาเป็นศิลปินอีก 3 ปี โดยกองจะไม่เข้าไปวุ่นวายเรื่องการรับงาน แต่ขอดูเรื่องภาพลักษณ์เป็นหลัก แต่ “ฟ้าใส” ไม่ได้เซ็นสัญญากับกอง เพราะฉะนั้นหลังดำรงตำแหน่งครบ 1 ปี ก็ต้องคืนมงกุฎกลับมายังกองประกวดเป็นเรื่องปกติ
แต่ในฐานะรุ่นพี่นางงาม วันอำลาตำแหน่งจึงเป็นอีกหนึ่งวันที่ “ฟ้าใส” จะต้องได้ขึ้นไปทำหน้าที่ตามปกติ และวันนั้นเองทางกองก็มีความตั้งใจที่จะให้อำลาตำแหน่ง มอบมงกุฎให้กับนางงามคนใหม่อยู่แล้วตั้งแต่แรก เพราะถ้ามีปัญหากับน้องจริงๆ คงไม่มีซีนนั้น ไม่มีภาพ เสียง ออกมาแน่นอน พร้อมกับยืนยันว่ามงกุฎเวทีนี้ไม่มีเวียน
เมื่อถามถึงรายละเอียด ทั้งคู่ก็ขออนุญาตไม่เจาะจงเพราะเป็นเรื่องข้อตกลงร่วมกัน ว่าจะไม่นำข้อมูลมาเปิดเผยต่อสาธารณะ เพราะจะทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยนไป แต่หากจะให้กองออกมากางสัญญาต่อหน้าสื่อฯก็ต้องถามอีกฝ่ายด้วย สำหรับแฟนคลับหลายคนที่โจมตีกองฯ ตนก็บอกว่าเป็นเรื่องปกติแต่หากเกินเลยก็คงต้องจัดการบ้าน เชื่อว่าเรื่องแบบนี้มันจะไม่แฟร์หากตอบกันแค่ 2 คน อยากให้ “ฟ้าใส” ออกมาตอบด้วย
ส่วนตัวแล้วทั้งคู่ยอมรับว่ายังรักและเอ็นดูฟ้าใสเหมือนลูก ไม่กังวลหากอีกฝ่ายดำเนินการเพราะเป็นการตกลงร่วมกัน ก่อนที่จะยืนยันว่าสัญญาที่ระบุไว้ไม่ได้โหดเกินไป เหมือนกันทุกเวที อนาคตหากมีงานอะไรที่เหมาะกับน้อง เขาก็ถือเป็นศิลปินคนหนึ่ง ก็จะยื่นให้แต่เขาจะรับหรือไม่รับก็ต้องว่ากันไป
สุดท้าย ทั้งคู่ก็พูดถึงประเด็นที่ผู้จัดการฟ้าใสจะทำมงกุฎสำรองมาใส่ออกงานว่า จริงๆก็ทำได้ แต่อยากให้คิดว่าการใส่มงกุฎของมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ไม่ใช่จะใส่ไปให้ใครเห็นหรือไปทำอะไรที่ไหนก็ได้ มันจะมีบริบทของมันว่าจะให้ใส่ในงานอะไรบ้าง เพราะเวทีแม่มีกฎตายตัวอยู่แล้ว และที่สำคัญคือต้องคุยเรื่องลิขสิทธิ์กับคนออกแบบด้วย
