จากกรณี ร.ต.ต.พีระเดช เภาศรี รองสารวัตร สอบสวน สน.ภาษีเจริญ ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักย่านเพชรเกษม จากนั้นเกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยคู่กรณีชนแล้วหนี ส่วน ร.ต.ต.พีระเดช เสียชีวิต
วันที่ 30 ต.ค. 63 ทีมข่าวเดินทางมาที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งครอบครัวมาติดต่อขอรับศพ ครอบครัวต่างอยู่ในอาการเสียใจ นางมลนิภา เภาศรี ภรรยาของผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ สามีอยู่ที่บ้านตลอดทั้งวัน โดยสามีเลิกงาน กลับเข้าบ้านตั้งแต่ช่วงบ่าย ๆ ซึ่งก็ไม่ได้ออกไปไหนอีก
ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุยังนั่งทานข้าวพูดคุยกันทั่วไป ซึ่งสามีเหมือนว่ามีการคุยโทรศัพท์จะไปหาเพื่อน ๆ ทำของไปเลี้ยงรุ่นกัน ซึ่งช่วงนั้น 21.00 น. เศษ สามีได้บอกตนว่า "เดี๋ยวมานะจ๊ะ" แล้วก็ออกไป โดยไม่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ออกไปใส่ชุดทั่วไป สะพายกระเป๋าเงินใบเดียว แล้วก็ออกบ้านไป
โดยช่วงเกิดเหตุตนเองได้รับสายโทรศัพท์จากเพื่อนของสามี ระบุให้ตนไปที่เกิดเหตุเพราะสามีเกิดอุบัติเหตุ ตนเองยังไม่รู้ว่าสามีตาย ตนคิดว่าสามีแค่รถล้มทั่วไป เพราะเขาเกิดอุบัติเหตุล้มเองบ่อยครั้ง
จากนั้น ตนเองนั่งแท็กซี่ออกไปพร้อมกับลูกชาย ซึ่งมาทราบเรื่องระหว่างนั่งรถ จังหวะนั้นเพื่อนสามีโทรมาอีก ระบุว่าให้ตนทำใจ เพราะสามีเสียชีวิตแล้ว ตอนนั้นตนเองพูดไม่ออกเลย บ้านตนกับที่เกิดเหตุห่างกันราว 10 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินทาง 20-30 นาที จากสภาพรถสามีน่าจะถูกชนจากด้านหลัง ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าคนร้ายคือใคร รู้ว่าขณะนี้กำลังตามกล้องวงจรปิด ตนเองก็อยากขอหากใครมีภาพเหตุการณ์ขอให้ส่งภาพมาให้ตน
สามีเคยพูดเป็นลางไว้เมื่อวันก่อน โดยสามีคุยกับลูกชายทำนองว่า "ถ้าป๊าไม่อยู่จะไม่มีใครมาสอนแล้ว" ซึ่งตอนนั้นนั่งกินข้าวกันอยู่ ตนเองก็ยังบอกว่าจะบ้าหรือเปล่า ลูกก็นั่งอยู่นี่ เราก็นั่งอยู่นี่ แล้วจะไปไหนกัน ทั้งนี้ ตนเองอยู่อาศัยกัน 3 คนพ่อแม่ลูก ไม่คิดว่าเขาจะจากไปเร็ว สามีถือเป็นเสาหลักของครอบครัว ตอนนี้ยังไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป บางช่วงลูกชายนั่งข้าง ๆ ถึงกับน้ำตาไหลออกมาเอง
ทีมข่าวเดินทางมาที่วัดจันทร์ประดิษฐ์ สถานที่ตั้งสวดอภิธรรม ร.ต.ต.พีระเดช เภาศรี ซึ่งภายในงานบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้า ลูกชายคนเดียวของผู้ตายนั่งจับมือร่างไร้วิญญาณของพ่อ โดยนั่งก้มหน้าร้องไห้ด้วยความเสียใจตลอดเวลา