เผยภาพสลดแม่ชราร่วงตึก ลูกเศร้าฆ่าตัวตายตาม ชาวบ้านสะพรึงตายซ้ำจุดเดิม (คลิป)

จากกรณีเหตุแม่ลูกพลัดตกจากอะพาร์ตเมนต์สูง 5 ชั้น ทำให้แม่เสียชวิต ส่วนลูกชายบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเหตุเกิดขึ้นที่ถนนบางกรวย-ไทรน้อย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 30 ต.ค.63

ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พบเป็นอาคารสูง 5 ชั้น ความสูงประมาณ 10 เมตร ทราบว่าหญิงที่ตกลงมาคนแรก คือ น.ส.รัชนี (สงวนนามสกุล) อายุ 72 ปี เสียชีวิตทันที ส่วนอีกคนคือนายอิศเรศ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทีมข่าวได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับ น.ส.หมิว (นามสมมติ) ลูกสาวนายอิศเรศ เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนเพิ่งมาทราบเรื่องในวันนี้ และก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างย่ากับพ่อ สำหรับนางย่าที่พลัดตกลงมาก่อน ตนคาดว่าน่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ

หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว ตนรู้สึกเสียใจมาก และยังไม่สามารถทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากเกิดความสูญเสียทั้ง 2 คนพร้อมกัน แต่ยืนยันได้ว่าทั้งนายอิเรศและน.ส.รัชนี ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน รวมถึงกับตัวภรรยาเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแค่เพิ่งแยกกันอยู่ เพราะนายอิศเรศชอบอยู่คนเดียว

นายอิศเรศ ป่วยเป็นโรคลมชักมากกว่า 20 ปี แล้ว ไม่ได้มีอาการโรคประสาทอ่อน ๆ ตามกระแสข่าว ซึ่งจะมีพฤติกรรมที่ชอบอยู่คนเดียว ชอบคิดเล็กคิดน้อย มีโรคส่วนตัวสูง ทุกครั้งที่เกิดอาการชัก ก็จะเกิดความย้ำคิดถึงสาเหตุของการเกิดอาการลมชัก ซึ่งนายอิศเรศ เคยมาเล่าให้ตนฟังว่า เครียดกับโรคลมชักที่ไม่หายเสียที ทำให้ไม่สามารถทำงานหาเงินเหมือนคนอื่น ๆ ตนคาดว่าพ่อก็น่าจะมีความน้อยเนื้อต่ำใจกับชีวิตอยู่บ้าง

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายไพโรจน์ บรรลือสินธุ์ อายุ 56 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เป็นผู้ดูเเลเต็นท์รถมือสอง อยู่ตรงข้ามจุดเกิดเหตุ เล่าว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา เวลาประมาณ 09.00 น. ขณะที่ตนกำลังกวาดพื้นอยู่ภายในเต็นท์รถ โดยหันหลังให้ตึกจุดเกิดเหตุ ก็ได้ยินเสียงดัง "ตุ๊บ" เเต่เมื่อหันไปดูก็ไม่เห็นอะไร เนื่องจากตอนนั้นมีรถบังอยู่

เเต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงดัง "ตุ๊บ" อีกครั้ง จึงเดินไปดูก็ต้องตกใจ เพราะภาพที่เห็นคือน.ส.รัชนี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตเเล้ว ส่วนนายอิศเรศ นอนอยู่ข้างกัน สภาพนอนหงาย หายใจรวยริน มีเลือดเต็มใบหน้า ทั้งนี้ตนเพิ่งมาอาศัยอยู่ละเเวกดังกล่าวเพียง 2 เดือน จึงไม่รู้จักทั้งคู่ เเต่ที่ผ่านมาเห็นนายอิศเรศ อาศัยอยู่ลำพัง เเละเห็นออกมาตากผ้าที่ระเบียงเป็นประจำ ลักษณะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด ซึ่งตนก็ไม่ทราบมูลเหตุจูงใจ

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เข้าไปพูดคุยกับ น.ส.มิ้นท์ (นามสมมติ) อดีตผู้เคยขายของใต้อาคาร เล่าให้ฟังว่า ตนมีความเชื่อว่า บริเวณนั้นมีอาถรรพ์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ในปี 60 มีหญิงแก่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ นั่งห้อยขาเล่นตรงระเบียง จากนั้นก็ กระโดดตึกลงมาจากชั้น 3 ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับน.ส.รัชนี ผู้เสียชีวิตตกลงมา และก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุดลใจให้กระโดดลงมา แต่ก็คงเข้าใจได้ว่าอาจจะเป็นเพราะป่วย เหตุการณ์ในวันนี้ตนจึงเชื่อว่าไม่น่าจะใช่อุบัติเหตุ และต้องมีอาถรรพ์อย่างแน่นอน

ส่วนสาเหตุจะเป็นอุบัติเหตุลื้นล้มลงมาเองหรือไม่นั้น ตนมองว่า ปกติหากระเบียงมีน้ำขังหรือเปียก ก็ต้องเช็ดให้แห้งอยู่แล้ว ถ้าลื่นล้มจริง ๆ ก็ไม่น่าหล่นลงมาได้

สภาพศพที่ตนไปเห็น พบว่าน.ส.รัชนี ใบหน้าฝั่งซ้ายหันลงกับพื้น ขาพาดอยู่ตรงบันได ซึ่งสิ่งที่ตนสงสัยคือ น.ส.รัชนี สวมแต่เสื้อ ใส่แค่กางเกงใน ผ้าถุงหรือกางเกงก็ไม่ได้ใส่ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ขณะเดียวกันทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับน.ส.น้ำ (นามสมมติ) ผู้เคยพักอาศัยในอาคารดังกล่าว และเป็นห้องที่นายอิศเรศเช่าอยู่ เปิดเผยว่า ตนเคยอยู่ห้อง 402 มาก่อน ประมาณ 1 ปี ก่อนที่จะย้ายออกมา หากถามถึงสาเหตุของการลื่นล้มบริเวณระเบียง ตามการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าลื่นตกลงมาเองได้ เนื่องจากกำแพงระเบียงสูงประมาณ 1 เมตร ความกว้างของระเบียง ประมาณ 2.5 เมตร

จากการคาดการณ์ หากจะพลัดตกลงมาได้ ต้องมีเก้าอี้ หรือมีอะไรรองสูงขึ้นมาจากพื้น จึงจะสามารถพลัดตกลงมาได้ ซึ่งตนยืนยันได้ว่า ต่อให้ระเบียงที่ปูด้วยกระเบื้อง มีน้ำขัง แล้วทำให้เกิดลื่นล้ม ก็ไม่สามารถพลัดตกลงมาได้ ส่วนตัวตนเคยได้ยินเรื่องลี้ลับมาบ้าง จากเพื่อนบ้านห้องใกล้เคียง ว่าเจอวิญญาณผู้หญิงมาปรากฏตัวให้เห็น หรือเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ แต่ทั้งนี้ก็ได้ยินแต่คนอื่นเล่าให้ฟัง ตนก็ยังไม่เคยเจอด้วยตัวเอง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เข้าไปตรวจสอบห้องพักไม่พบร่องรอยการต่อสู้ พบยายแก้หอบหืด ก๋วยเตี๋ยว 2 ถุงที่ยังไม่ได้แกะกิน รวมถึงเอกสารสำคัญในกระเป๋าของผู้ตาย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่า น่าเกิดจากอุบัติเหตุ แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงสงสัยก็คือ การทิ้งระยะห่าง 5 นาที ก่อนที่จะกระโดดตึกลงมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องเร่งสอบปากคำเพื่อพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป

ส่วนศพของน.ส.รัชนี และนายอิศเรศ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการชันสูตร จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งญาติกำลังเดินทางไปรับศพนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป