จากกรณีที่ นางภัทรปภา ศิริธรรม อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 104/3 ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ฉ้อโกงเงินลงทุน ปล่อยกู้ให้กับลูกค้า มีการแอบอ้างถึง ธกส. ในการเข้าร่วมโครงการกองทุนหมู่บ้านต่างๆ มีกลุ่มสมาชิกที่เป็นผู้เสียหาย ทั้งชาวบ้าน ข้าราชการครูในพื้นที่ อ.ภูเขียว มากกว่า 40 ราย ก่อนนางภัทรปภาจะหอบเงินหนีมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงได้พากันมาแจ้งความ
วันนี้ (13 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นางน้ำหนึ่ง เวียงดินดำ พนักงาน ธกส.สาขาภูเขียว หนึ่งในผู้เสียหาย ที่เดินทางมาแจ้งความ และมาให้ปากคำ ที่ สภ.ภูเขียว กล่าวว่า ตนมาไม่รู้เห็นเกี่ยวกับการแอบอ้างในการปล่อยเงินกู้ให้กับลูกหนี้ ธกส.สาขาภูเขียว แต่อย่างใด ตนแค่รู้จักกันกับผู้ต้องหามานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งเคยทำงานร่วมกันที่วิทยาลัยอาชีวะแห่งหนึ่งของ อ.ภูเขียว วันนี้ตนมาพร้อมกับนายสมคิด บุญชัย ผู้ช่วยผู้จัดการ ธกส.สาขาภูเขียว และเจ้าหน้าที่
ซึ่งร้อยตำรวจเอกนพธิพล สายสุด รองสว.สอบสวน สภ.ภูเขียว ได้เรียกตัวมาให้ปากคำเพิ่มเติม และลงบันทึกประจำวัน ส่วนผู้เสียหายอีกกว่า 40 ราย ก็จะเรียกมาให้ปากคำเพิ่มเติมต่อไป
ด้าน น.ส.วิมลภัสทร์ โคนชัยภูมิ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนรู้จักนางภัทรปภา เป็นอย่างดี เพราะเคยทำงานร่วมกัน และได้ทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ร่วมกันมา ตั้งแต่ปี 2558 และตนก็ได้เงินปันผลดีมาโดยตลอด ซึ่งตนสูญเสียเงินลงทุน และดอกเบี้ย รวมแล้ว 13 ล้านบาท
ซึ่ง น.ส.วิมลภัสทร์ มาพร้อมกับนางกาญจนา สารินทร์ ที่เริ่มลงทุนเงินสดไป จำนวน 370,000 บาท ก็โดนโกงแล้ว เงินปันผลก็ยังไม่เคยได้ แต่กลับต้องมาเสียเงินลงทุนไปอีก ตนจึงมาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อจะเอาผิด และขอเงินที่กลุ่มได้ลงทุนไปคืนด้วย
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า นางภัทรปภา ได้แอบอ้างกลุ่มสมาชิกว่า มีโครงการต่างๆ อาทิ ลงทุนปล่อยเงินกู้, กองทุนครูใน อ.ภูเขียว, ปล่อยกู้กองทุนหมู่บ้าน, ปล่อยกู้กลุ่มออมทรัพย์ในหมู่บ้าน, และแอบอ้างทำโครงการปล่อยกู้ให้ลูกหนี้ ธกส.สาขาภูเขียว, ธกส.สาขาเกษตรสมบูรณ์, สาขาบ้านแท่น, สาขาหนองเรือ และสาขาจังหวัดนครราชสีมา
ซึ่งในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา เงินปันผลไม่เป็นไปตามกำหนด เมื่อสมาชิกติดต่อไป ก็เริ่มบ่ายเบี่ยงไปเรื่อย จนสมาชิกเริ่มสงสัย ถึงการกระทำเช่นนี้ ก่อนพากันมาแจ้งความ ให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวนางภัทรปภา มาดำเนินคดีต่อไป