จากกรณีเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา นางเรวดี หาแก้ว หรือ ป้าติ้น ได้มาออกรายการ "ต่างคนต่างคิด" ทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี และได้มีการนำเอกสารสำนวนการสอบสวน ซึ่งเป็นคำให้การของคู่กรณี ก็คือ นางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ หรือ ป้าดา รวมถึงผลการตรวจสอบข้อมูลผู้ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 เม.ย.59 ซึ่งเอกสารทั้งหมด เป็นเอกสารลับทางราชการมาเปิดเผยในรายการ ซึ่ง ป้าติ้น อ้างว่าได้รับมาจาก "หมวดโค้ก"
ล่าสุดวันนี้ (14 มี.ค.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำเอกสารหลักฐาน ประกอบไปด้วยคลิปวีดีโอที่นางเรวดี หาแก้ว หรือ ป้าติ้น ได้ไปออกรายการต่างคนต่างคิด ทางช่องอมรินทร์ทีวี และได้นำเอกสารสำนวนลับมาเปิดเผย ซึ่ง ป้าติ้น ยอมรับว่าได้รับมาจาก หมวดโค้ก
และแอบนำไปถ่ายเอกสารเก็บไว้ ตนจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อเอาผิด กับหมวดโค้ก 1 ข้อหา ตามมาตรา 157 คือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และแจ้งความเอาผิดป้าติ้น ใน 3 ข้อหา คือ ลักทรัพย์เอกสารราชการ นำไปซึ่งเอกสารทางราชการ และนำเอกสารลับทางราชการไปเปิดเผยในที่สาธารณะ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า หมวดโค้ก รู้จักกับ ป้าติ้น ในตอนที่ตนเป็นที่ปรึกษาให้กับป้าติ้น เพราะเคยไปกินข้าวด้วยกัน และทราบว่ามีการส่งมอบเอกสารให้จริง และให้การช่วยเหลือแบบลับๆ นำข้อมูลของผู้บังคับบัญชามาบอก ป้าติ้น รวมถึงไปขึ้นศาลเป็นพยานให้กับป้าติ้น ทั้งๆที่รู้ว่าคดีนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีคำสั่งไม่ฟ้อง ป้าดา แต่หมวดโค้กไปเบิกความต่อศาลว่าไม่ทราบ ทำให้ศาลประทับรับฟ้องมีมูล จนทำให้ป้าดาถูกคุมขัง 3 วัน
โดยป้าติ้นอ้างว่าหมวดโค้ก ฝากเอกสารกับตนเพื่อให้นำมาส่งให้กองบังคับการปราบปราม ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ากองปราบปรามไม่ได้ให้โอนคดีมาที่กองปราบ และไม่มีใครขอสำนวนจาก สน.ประเวศ
ด้าน พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการดำรวจนครบาล 4 กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ หมวดโค้กไปช่วยราชการด้านการจราจรอยู่ที่รามคำแหง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ส่วนเรื่องที่มีการเข้าไปช่วยเหลือคดี รวมถึงมอบสำนวนให้กับป้าติ้นนั้น เป็นเรื่องเก่า และตนยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนมากนัก
เบื้องต้นได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งได้มีการสอบถามกับหมวดโค้กแล้ว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน วันนี้จึงเรียกให้เข้ามาสอบปากคำที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 แล้ว