เผยโฉมมือยิงเศรษฐีพี่น้อง ที่แท้ลูกเลี้ยงแม่ กำความลับมรดกร้อยล้าน ทำพี่น้องฟ้องกันวุ่น (คลิป)

กรณี พ.ต.ท.วิทยา สับประสาน สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุพบศพ 2 ศพ ที่บ้านหรูชั้นเดียวทรงโมเดิร์น ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร หลังบ้านเป็นสวนปาล์มขนาดใหญ่ผสมสวนทุเรียน ที่มือจับประตูเข้าบ้านพบร่องรอยลายนิ้วมือ คาดว่าน่าจะเป็นของคนร้าย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

มรดกเลือด! ยิงเศรษฐีพี่น้องเซ่น 2 ศพ วงจรปิดมัด “นาย ป.” บุกฆ่าปมสวนทุเรียนพันไร่

โดยศพแรกถูกพบภายในบ้าน กลางห้องโถง ได้แก่ นายสมชาย อายุ 59 ปี เจ้าของบ้าน ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. เข้าที่กลางหน้าอก ไหล่ซ้าย สีข้างขวา รวม 3 นัด

ส่วนศพที่สองถูกพบภายในห้องเก็บของ ได้แก่ นางอำไพ อายุ 62 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. เข้าที่หน้าผากใกล้คิ้วขวาทะลุกกหูด้านซ้าย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า ปมการก่อเหตุน่าจะมาจากความขัดแย้งเรื่องมรดก เนื่องจากแม่ของผู้ตายทั้ง 2 คนเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อ 3 เดือนก่อน โดยได้ทิ้งมรดกไว้ให้จำนวนหนึ่ง แต่ภายในครอบครัวเกิดมีข้อขัดแย้งกันจนถึงขั้นฟ้องร้อง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้ง และจะเร่งจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

ชาวบ้าน เล่าว่า นางภา ผู้เป็นแม่ มีอายุ 90 ปี เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อ 3 เดือนก่อน โดยทิ้งมรดกที่ดินมากกว่า 1,000 ไร่ ในเขตพื้นที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ไว้ให้ลูก 6 คน

ลูกกับสามีคนที่ 1 ได้แก่ นางอำไพ หรือ แจ๋ว (ผู้ตาย), นายสมชาย หรือ แป๊ะ (ผู้ตาย) และนายปุ๊

ลูกกับสามีคนที่ 2 ได้แก่ นายปุ้ม

ลูกกับสามีคนที่ 3 ได้แก่ นายป๋อง และนายป๋อม

ขณะนี้สามีทั้ง 3 คนของนางภาได้เสียชีวิตไปนานแล้ว โดยนางภา ก็ไม่ได้จัดสรรมรดกไว้ให้ลูก ๆ ก่อนที่จะเสียชีวิต ทำให้เกิดปัญหาการแย่งชิงมรดกของลูก ๆ ครอบครัวของผู้ตายเป็นคนมีฐานะดี จึงไม่ค่อยสุงสิงกับชาวบ้าน พวกตนไม่สามารถพูดได้ว่าใครคือคนร้าย เนื่องจากพวกตนไม่รู้ แต่พวกตนคาดว่าน่าจะเป็นบุคคลในครอบครัวหรือไม่

ล่าสุดวันที่ 2 พ.ย.63 ที่สภ.ทุ่งตะโก พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร เดินทางมาเรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดี เพื่อหาข้อสรุปของความคืบหน้าของคดี เบื้องต้นจากการประชุมสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะภาพจากล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน จึงได้ขออนุมัติหมายจับมือปืนรายนี้ไว้แล้ว คือ นายปรีชา จันทร์มณี อายุ 60 ปี ชาว จ.ชุมพร ซึ่งมีอาชีพทำสวน และยังมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของนายสมชาย และนางอำไพ ทราบว่ามือปืนได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว

พล.ต.ต.ถาวร เปิดเผยว่า ถึงแม้มือปืนรายนี้จะหลบหนีไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนใกล้ชิดติดต่อจะขอเข้ามอบตัว ตำรวจก็ยินดีที่จะเข้ามอบตัว แต่ตำรวจก็ยังคงเดินหน้าตั้งทีมไล่ล่าเพื่อจับกุมตัว โดยที่ไม่รอให้เข้ามอบตัว เพราะตอนนี้ศาลได้ออกหมายจับแล้ว ถ้าจะมามอบตัวก็เป็นประโยชน์ทางคดีของผู้ต้องหา เนื่องจากตำรวจได้หลักฐานชัดเจนในขณะที่กำลังลงมือยิง  สรุปสาเหตุในเรื่องความขัดแย้งเรื่องที่ดิน เรื่องผลประโยชน์ที่เกิดจากที่ดินมรดก แต่ก็ต้องสอบปากคำให้ชัดเจนอีกครั้ง คาดว่าจะสามารถได้ตัวคนร้ายในเร็วๆนี้”

ในขณะที่ศพของผู้ตายทั้ง 2 ที่ตำรวจส่งตัวไปพิสูจน์หัวกระสุนที่ รพ.สุราษฏร์ธานี ได้ส่งมาบำเพ็ญกุศลที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้ตาย

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ศพของนายสมชาย ได้เคลื่อนย้ายมาจาก รพ.ระนอง ถึงจ.ชุมพร โดยตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดแหลมทราย อ.หลังสวน จ.ชุมพร ส่วนศพของนางอำไพ ญาตินำศพไปทำพิธีทางศาสนาที่ จ.สงขลา

นางจันทร์จิรา จันทร์มณี อายุ 47 ปี มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องผู้ตาย เปิดเผยว่า ครอบครัวของผู้เสียชีวิตมีพี่น้องด้วยกัน 5 คน โดย 3 คนแรก ได้แก่ นางอำไพ นายสมชาย และน้องชายอีกหนึ่งคน หลังจากที่พ่อเสียชีวิต นางอำภา ก็มีสามีใหม่ และมีลูกด้วยกัน 1 คน เป็นผู้หญิง ต่อมาสามีคนที่ 2 ได้เสียชีวิตลง นางอำภาก็ได้มีสามีใหม่เป็นคนที่ 3 อยู่กินจนมีลูกด้วยกัน 1 คนเป็นผู้ชาย และต่อมาสามีได้เสียชีวิตลง

นางจันทร์จิรา กล่าวว่า นางอำภาเลี้ยงลูกทั้ง 5 ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง จนมีที่ดินจำนวนมาก แต่ทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ก็ยังไม่ได้แบ่งให้ผู้ใดผู้หนึ่ง แต่กลับให้นายปรีชา จันทร์มณี ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลาน และเป็นผู้ดูแลนางอำภา ในช่วงเจ็บป่วย จนเป็นที่ไว้วางใจของนางอำภา ให้เป็นผู้ดูแลสวน และผลผลิตในสวนทุกแปลง ตั้งแต่การบำรุงดูแลจนเก็บเกี่ยวส่งไปขายยังตลาด และเชื่อว่าเงินส่วนใหญ่นายปรีชา น่าจะเป็นคนจัดการ

ทั้งนี้นายปรีชา รักและเคารพนางอำภา เสมือนแม่ เพราะนายปรีชา กำพร้าพ่อ ซึ่งเป็นน้องชายของนางอำภา และแม่เสียชีวิตตั้งแต่นายปรีชา ยังเป็นเด็ก นางอำภาจึงรับเลี้ยงไว้เป็นลูก เสมือนคนในครอบครัวคนหนึ่งที่เข้านอกบ้านได้ปกติ ต่อมานางอำภา ได้เสียชีวิตลง ทำให้เริ่มระหองระแหงกัน และมีการฟ้องร้องในเรื่องทรัพย์สิน

การที่นายปรีชา ได้ก่อเหตุยิงนายสมชายและนางอำไพ เสียชีวิตภายในบ้าน ตนเชื่อว่านายปรีชา คงหมดความอดทนกับปัญหาที่รุมเร้าที่เก็บสะสมมานาน เพราะเป็นคนเดียวที่รู้ว่าทรัพย์สิน เงินทอง มีจำนวนเท่าไร อยู่ที่ไหน เมื่อถูกทวงถามและคาดคั้น จึงเป็นเหตุทำให้นายปรีชา ตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว แต่ก็ยังเป็นข้อสันนิษฐานที่ตนคิดเอง 

นายชลทิป สุวรรณหกาญจน์ อายุ 50 ปี หรือ ปุ้ม ลูกของสามีคนที่ 2 ชาว จ.ชุมพร เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้ถูกนางอำไพฟ้อง เพื่อจะเอาที่ดินที่เป็นสวนทุเรียน ซึ่งแม่ให้ตนทำกินเมื่อ 30 ปีที่แล้ว และต้นไม้ทุกต้น ตนก็เป็นผู้ปลูกทั้งหมด ตนมีพยานรอบข้างยืนยันพิสูจน์ได้ ซึ่งนางอำไพต้องการฟ้องร้อง เพราะผลผลิตทุเรียนที่เก็บเกี่ยวได้แต่ละครั้ง เป็นเงินหลายล้านบาท ทำให้นางอำไพ ใช้สิทธิ์ความเป็นพี่ และถือตนเป็นผู้จัดการมรดก ขอแบ่งที่ดินครึ่งหนึ่งจาก 56 ไร่ (คนละ 28 ไร่) แต่ตนได้ปฏิเสธไป จึงทำให้นางอำไพไม่พอใจ เกิดการฟ้องร้องดังกล่าว

ทั้งนี้ศาลได้นัดไกล่เกลี่ยเมื่อวันที่ 20 ต.ค.63 ที่ผ่านมา แต่นางอำไพ ซึ่งอยู่ จ.สงขลา และนายสมชาย ซึ่งอยู่จ.ภูเก็ต ไม่ได้เดินทางมายังศาล และในวันที่ 16 ธ.ค.63 ศาลได้นัดสืบพยานนัดแรก แต่ทั้ง 2 คนมาเสียชีวิตก่อน ทำให้หลานคนมองตนว่า เป็นผู้บงการลงมือสังหาร จึงขอฝากให้สังคมได้ติดตามตอนต่อไป

หลังเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนายปรีชา มือปืนได้ จะต้องรอคำสารภาพว่า การลงมือในครั้งนี้มีที่มาจากมูลเหตุใดกันแน่ แต่เชื่อว่าไม่ใช่ประเด็นมรดกอย่างแน่นอน