ภายหลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา (14 มี.ค.) ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ ได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม กรณี นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ “นายแผน” คนขับรถของธนาคารแห่งหนึ่งอ้างว่าเห็นตนเก็บลอตเตอรี่ได้ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะตนซื้อลอตเตอรี่มาด้วยตัวเอง
ล่าสุด วันนี้ (15 มี.ค.) ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านพักของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ โดยเจ้าตัวและนางลาวัลย์ วิมูล ภรรยา เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2560 ช่วงบ่าย นายแผน ขับรถให้กับผู้จัดการธนาคาร รองผู้จัดการธนาคาร และเจ้าหน้าที่ธนาคารอีกราย มาหาตนที่บ้าน ขณะนั้นตนไม่รู้จักนายแผน โดยทั้งหมดได้เข้าไปคุยปรึกษากับตนในห้องรับแขก นั่งห่างกันไม่มากนัก
ส่วนการสนทนาในวันดังกล่าว ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ตนไม่ได้คุยกับนายแผนโดยตรง แต่พนักงานรายหนึ่งได้พูดว่า นายแผนเป็นคนกว้างขวาง น่าจะช่วยหาทนายให้ได้ หลังจากวันนั้น ตนก็ไม่ได้ติดต่อกับนายแผนอีก มีเพียงการพูดคุยกับพนักงานธนาคาร ในวันที่ 2 ธ.ค. หลังทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด รับว่าความให้พวกตน
ขณะเดียวกัน ร.ต.ท.จรูญ ได้เปิดห้องรับแขก จุดที่นายแผน เข้ามานั่งภายในบ้านของตน โดยห้องดังกล่าว มีโซฟาสีน้ำตาล รูปตัวยู ที่ในวันเกิดเหตุ ร.ต.ท.จรูญ และ นางลาวัลย์ ได้นั่งคุยกับ ผู้จัดการธนาคาร รองผู้จัดการธนาคาร และพนักงานรายหนึ่ง ส่วนนายแผน นั่งบนตั่งอยู่มุมห้อง ห่างจากโซฟาไม่เกิน 2 เมตร ขณะสนทนา นายแผน ไม่ได้พูดคุย หรือแสดงความคิดเห็น แต่เชื่อว่า เจ้าตัวน่าจะได้ยินการพูดคุยทั้งหมด เพราะระยะห่างนั้นไม่ไกลมากนัก
จากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปยัง บ้านของนายแผน ได้พบกับญาติซึ่งไม่ขอให้ข้อมูล โดยระบุว่าให้ไปถามจาก นายแผน เอาเอง เพราะไม่อยากให้เรื่องราวบานปลาย ส่วนที่มีหมายเรียกนายแผน ตนก็เป็นห่วงตามปกติ
เพื่อนบ้านนายแผน เปิดเผยไม่เคยทราบว่า นายแผน เป็นพยานคดีนี้ จนกระทั่งมีข่าวออกมา เมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ ตนไม่เคยได้ยินเรื่องที่ นายแผน เห็นคนเก็บลอตเตอรี่ รวมทั้งไม่เคยได้ยินข่าวลือว่า ร.ต.ท.จรูญ เก็บลอตเตอรี่ได้แต่อย่างใด เมื่อทราบว่า นายแผน เป็นพยานในคดี ตนก็ค่อนข้างตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นคนใกล้บ้าน
เมื่อทีมข่าวเดินทางไปยังธนาคารที่นายแผน ทำงาน พบว่า ผู้จัดการธนาคารออกไปประชุม ส่วนเจ้าหน้าที่รายอื่นไม่สามารถให้ข้อมูลได้
หลังจากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของพี่ชาย นางกุ้ง พยานอีกราย โดยเจ้าตัวกล่าวว่า น้องสาว ไม่ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ตนฟัง หลังจากกุ้งไปสอบปากคำที่กองปราบฯ ตนทราบจากหลานสาวที่ไปพร้อมกับนางกุ้ง โดยได้ส่งลิ้งค์ข่าวมาให้ตนดูว่า นางกุ้งเห็นเลข 26 ที่แม่ค้ากำลังยื่นให้ครูปรีชา จึงขอแบ่งซื้อ โดยครูปรีชาไม่แบ่งให้ ซึ่งนางกุ้ง ไม่ได้เห็นเลข 726 ในกระเป๋าเสื้อครูปรีชา ตามสำนวนของทางตำรวจภูธรภาค 7 แต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน นางกุ้ง ก็จำวันที่ที่ไปตลาดเรดซิตี้ไม่ได้ ส่วนที่เข้าไปเกี่ยวกับคดี เพราะมีแม่ค้าที่จำได้ว่า นางกุ้ง คือผู้หญิงที่ใส่ผ้าไทย อยู่ในเหตุการณ์ จึงต้องเข้าไปเป็นพยาน จึงขอยืนยันว่า น้องสาวไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการตามที่ถูกกล่าวหา แต่เพียงเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น และไม่ได้รู้จักครูปรีชา แต่อย่างใด ตนกลัวว่า น้องจะตกเป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจมากกว่า ทั้งนี้น้องสาว ไม่ได้ถูกข่มขู่ให้กลับคำให้การ แต่เพียงให้การตามความเป็นจริงเท่านั้น