วันนี้ (16 มี.ค.61) นายพัฒนา จาติเกตุ อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ สภาทนายความฯ เดินทางมายัง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเพจดัง โดยระบุว่า วันนี้เป็นการเดินทางมาเพื่อหารือกับ ปอท.ถึงแนวทางการเอาผิดกับเพจดัง ที่มีการนำรูปภาพเก่า อันไม่เหมาะสมมาเผยแพร่ต่อสาธารณะรวมถึงมีการก้าวก่ายถึงชีวิตส่วนตัว และครอบครัว ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย
ซึ่งหากตรวจสอบพบเข้าข่ายการกระทำผิดในข้อใด ก็จะมีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีทันที และพร้อมกระชากหน้า กากเพจเหล่านี้ ที่มีการกระทำไม่เหมาะสม ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของตน ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับสภาทนาย ความแต่เป็นการดำเนินคดีส่วนตัว
อีกทั้งเชื่อว่า เรื่องที่มีการนำรูปภาพของตนออกมาเผยแพร่นี้ เป็นเรื่องเชื่อมโยงกับกรณีที่ นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ แผน ผู้อ้างว่าเห็น ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ ก้มเก็บลอตเตอรี่ ในคดีหวย 30 ล้าน ที่มีการร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรม และการประพฤติที่ผิดมารยาท ของทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด และมองว่าเรื่องนี้มีการทำเป็นกระบวนการ
นอกจากนี้ นายพัฒนา ยังกล่าวว่า การที่เพจดังกล่าวนำรูปภาพส่วนตัวของตน รวมถึงทนายท่าน อื่นๆ เช่น ทนายโก้ มาเผยแพร่นั้น เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง จึงขอให้บุคคลที่ได้รับความเสียหายออกมาดำเนินการ เพื่อหาแนวทางเอาผิดให้ถึงที่สุด
ส่วนกรณีที่ นานแผน ร้องเรียนให้ตรวจสอบทนายษทรานั้น ยืนยันว่า ตนเองเป็นเพียงผู้รับเรื่อง ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบ และเรื่องที่ตรวจสอบก็ไม่ใช่เรื่องการแต่งกาย ซึ่งวันดังกล่าว มีสื่อสอบถามเรื่องความเหมาะสม การแต่งกาย ตนเพียงแค่ใช้โอกาสที่มีสื่อในการปราม ทนายษิทรา เท่านั้น
เพราะเห็นว่าการสวมเสื้อยืด กางเกงยีนส์ ไม่เหมาะสมตามกาละเทศะ เท่านั้น ส่วนเรื่องการตรวจสอบอื่นๆ มีเจ้าหน้าหน้าที่ที่รับผิดชอบดำเนินการอยู่แล้ว รวมถึงได้ชี้แจงกรณีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวที่หลายคนมองว่า ตนนัดกับนายแผน เพื่อตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่า ไม่เป็นความจริง
เนื่องจากวันนั้น ตนเป็นผู้ใหญ่คนเดียวที่อยู่สภาทนายความ เพียงอยากเป็นเจ้าบ้านที่ดี และทำตามหน้าที่เท่านั้น พร้อมย้ำว่า ตนเป็นเพียงผู้รับเรื่องไม่มีอำนาจในการตรวจสอบ และยืนยันว่าไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับ นายแผน หรือ ทนายษิทราแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ล่าสุดได้มีการแจ้งดำเนินคดีกับเพจดังกล่าวแล้ว โดยพนักงานสอบสวนจะเป็นผู้พิจารณาข้อกล่าวหาที่เข้าข่าย นอกจากนี้ ซึ่งส่วนตัวไม่ได้กังวลต่อกระแสวิพากย์วิจารณ์ในโซเชียลแต่อย่างใด และยังเตรียมดำเนินการเอาผิดต่อผู้ที่แสดงความเห็น ที่ใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม รวมถึงผู้ที่แชร์ภาพดังกล่าวด้วย