จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก "แหม่มโพธิ์ดำ" ได้โพสต์ภาพการลงโทษเด็กที่ลักขโมยเงิน 200 บาท ด้วยการตีทำโทษ และผูกตัวเด็ก ติดกับต้นไม้ภายในวัดทุ่งเหียง ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ตามที่รายงานข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (19 มี.ค.) ชาวบ้านกว่า 60 คน ที่ทราบข่าวกรณีดังกล่าว ได้เดินทางมารวมกันที่วัดทุ่งเหียง หมู่ที่ 4 ต.หมอนนาง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เพื่อสอบถามถึงประเด็นนี้
ล่าสุด ทีมข่าวได้เดินทางมาที่วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุ ได้พูดคุยกับท่านเจ้าคุณพระมงคลโมลี วิปัสสานา เจ้าอาวาสวัดทุ่งเหียง เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่วันดังกล่าว เจ้าอาวาสไม่ได้อยู่ที่วัด เนื่องจาก ติดกิจนิมนต์ แต่มาทราบอีกครั้งช่วงค่ำ
พระมงคลโมลี ระบุว่า ได้มีการสอบถาม จนทราบสาเหตุที่ลงโทษเด็กเพราะ เด็กลักขโมยเงิน ซึ่งเป็นปัญหาอยู่บ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เด็ก 2 คนที่ถูกตี ไปขโมยเงินของชาวบ้าน คนละ 200 บาท จึงทำให้เกิดมีการลงโทษเกิดขึ้น ส่วนเด็กที่ทางวัดรับมาดูแล ส่งเสียให้เรียนหนังสือ เป็นเด็กชาวเขา กว่า 400 คน พักอาศัยอยู่ที่วัด มีตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ถึง 18 ปี ซึ่งตั้งแต่เปิดรับดูแลเด็กมากว่า 30 ปี ยังไม่เคยเจอปัญหาเช่นนี้ แต่ยอมรับว่า จะมีเด็กบางกลุ่มที่สร้างปัญหาตามประสาเด็ก
ทาง พระมงคลโมลี เชื่อว่า "ตายง" คนที่เป็นคนตีเด็ก ไม่ได้มีเจตนาร้าย "ตายง" เพียงแค่อยากดัดสันดานเท่านั้น ปกติหากหลวงพ่ออยู่ที่วัด จะเป็นผู้ลงโทษเอง ส่วนตัวหลวงพ่อ ยังไม่ได้เจอหรือติดต่อกับ "ตายง" ขณะนี้ ยังไม่อยู่วัด
อย่างไรก็ตาม พระมงคลโมลี ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้มีอะไรมาก ที่ผ่านมา "ตายง" ช่วยงานวัดมาตลอดกว่า 10 ปี พร้อมกับเข้ามาดูแลเรื่องการจัดทำวัตถุมงคลให้กับวัด ยอมรับว่า มีเครียดบ้าง และยืนยันว่า จะให้ "ตายง" มาช่วยงานวัด เพราะวัดยังเป็นหนี้ค่าจัดสร้างวัตถุมงคล สูงถึงกว่า 2 ล้านบาท
นอกจากนี้ พระยักษ์ พระลูกชายของ "ตายง" เปิดใจว่า คนที่ลงมือผูกเด็กเป็น โยมพ่อของตนจริง แต่เด็กกลุ่มนี้มักสร้างปัญหาเรื่องการขโมยของ เช่น งัดกุฏิพระ จึงมีการลงโทษ หลายคนอาจมองว่า เป็นการนำเด็กไปทรมาน หรือประจานเด็ก พร้อมยืนยันว่า โยมพ่อ ผูกเด็กไว้เพียง 5 นาทีเท่านั้น ก่อนจะผูกเด็กกับต้นไม้ ซึ่งเด็กกลุ่มนี้ยังหัวเราะสนุกสนาน จากนั้นโยมพ่อ ให้เด็กพูดว่า “ต่อไปนี้จะไม่ขโมยอีก” ก่อนที่จะนำตัวลงมาตีประมาณ 6 ครั้ง ไม่ได้เป็นการทรมาน แต่เป็นการสอนเด็กให้จำ เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อไม่ให้คนอื่นทำตาม
พระยักษ์ บอกเหตุผลที่ โยมพ่อทำเช่นนี้ เนื่องจาก ที่ผ่านมาใช้ทุกวิธีในการสอนเด็ก แต่ยังมีปัญหาซ้ำรอย แต่ไม่เคยจับเด็กผูกเช่นนี้ นับว่านี่คือครั้งแรก หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าอาวาส แต่ยอมรับว่า โยมพ่อ รู้สึกเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น
สำหรับเรื่องนี้ พระยักษ์ ชี้แจงว่า ไม่ได้มัดเด็กไว้กลางแดด เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเย็น ส่วนตัวไม่รู้จะจัดการลงโทษกับเด็กอย่างไร ตนมองว่า กรณีดังกล่าว ดีกว่าเรียกเจ้าหน้าที่มาจับเด็กที่ทำผิด เพราะกลัวจะเสียอนาคต ยืนยันทุกคนต้องการให้เด็กโตมาเป็นคนดี หากไม่สั่งสอนเด็กจะกลายเป็น "ขยะสังคม" บอกสังคมขอให้ฟังความทั้งสองด้าน อย่าเพิ่งตัดสินเพียงสิ่งที่เห็น
ส่วนที่ชาวบ้านมาขับไล่ พระยักษ์ เหตุเพราะหวงพี่ไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ ยืนยันว่า เคยไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อจริง แต่อยากถามว่าผิดตรงไหน และบางครั้งที่มีการซื้ออาหาร ตอนกลางคืน ส่วนใหญ่เด็กจะฝากซื้อ หรือไม่ก็ซื้อมาฝากเด็กเท่านั้น ทางวัดดูแลเด็กเหมือนพี่เหมือนน้องอยู่แล้ว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
พระยักษ์ ยังพูดหลังให้สัมภาษณ์ ระบุว่า ส่วนตัวน้อยใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ที่คนมาโจมตีครอบครัว เพราะตนถึงจะเป็นพระก็มีความรู้สึก อยากให้ทุกคนมองย้อนว่า หากเจอเด็กแบบนี้ จะมีวิธีแก้อย่างไร หลังจากนี้หากต้องไปอยู่ที่อื่น หรือต้องสึก ขอให้เจ้าอาวาสเป็นผู้พิจารณา พระยักษ์ ยอมรับตนเองก็เครียดแทนโยมพ่อ
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้พูดคุยกับ ด.ญ.แก้ว (นามสมมติ) นักเรียนชาวเขาจากจังหวัดเชียงราย ที่มาศึกษาอยู่ที่นี่นานกว่า 6 ปี และอยู่ในเหตุการณ์ บอกว่า ตอนลงมาจากหอ เห็นเด็กนักเรียนถูกมัดกับต้นไม้ที่ลานเด็กเล่น โดยเด็กคนอื่นๆ ยังพูดคุยกันว่า "เด็กที่ถูกมัด ไปลักขโมยของ"
ขณะเดียวกัน ด.ญ.แก้ว ยืนยัน "ตายง" เป็นคนมัดเด็ก แต่มัดไม่นาน และจำได้ว่าหลัง "ตายง" มัดเสร็จ ได้เดินไปอีกมุมหนึ่งของลานวัด และเดินกลับมา จากนั้นได้แก้เชือก ก่อนที่จะตีเด็ก และบอกอย่าทำอีก พร้อมยอมรับว่า กลุ่มเด็กที่นี่มีปัญหาเรื่องลักขโมยจริง บ้างก็ขโมยของกิน และขโมยเงิน
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก ที่ผ่านมามีเพียงตีลงโทษเท่านั้น และยืนยันว่า "ตายง" ไม่ใช่คนโหดร้าย เพียงจะมีดุบ้างเรื่องความสะอาด แต่ส่วนตัวไม่คิดว่าเกินกว่าเหตุ แต่ยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เด็กกลัวไม่อยากจะไปทำผิดอีก