สาวแค้นแทงอดีตแฟนดับกรีดข้อมือเซ่นพิษรัก ญาติสงสัยจัดฉากท้องลวงฆ่าชิงทอง (คลิป)

เมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 พ.ต.ท.สฤษดิ์ สิทธิ์นะศรี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.วัดพระยาไกร กรุงเทพฯ รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ย่านถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ตเมนต์แบ่งให้เช่า สูง 7 ชั้น จากการตรวจสอบในห้องชั้น 2 พบศพ นายประเวช อายุ 37 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด เจ้าของห้องเช่าดังกล่าว สภาพศพนอนหงายมีผ้าห่มสีชมพูคลุมร่างอยู่ที่พื้นข้างเตียงนอน สวมเสื้อกีฬาแขนสั้นสีส้ม นุ่งกางเกงฟุตบอลขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดปลายแหลม เข้าที่ราวนมซ้ายตัดขั้วหัวใจ 1 แผล ข้างกันๆพบร่าง

ขณะที่น.ส.เปมิกา ผิวสอาด อายุ 32 ปี ชาว จ.ขอนแก่น แฟนสาวผู้ตาย นอนหมดสติหายใจรวยริน ในสภาพมีผ้าห่มสีชมพูอีกผืนคลุมตัวไว้ สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีแดง มีบาดแผลถูกกรีดที่ข้อมือด้านซ้าย 1 แห่ง และน่าจะกินยาบางชนิดเข้าไปเกินขนาด

เบื้องต้นหน่วยกู้ภัยจึงรีบนำร่างฝ่ายชายส่ง รพ.เจริญกรุง ประชารักษ์ ให้แพทย์ทำการรักษา อีกทั้งในห้องพักพบอาวุธมีดทำครัวยาว 6 นิ้ว วางอยู่ที่พื้น 2 เล่ม พร้อมกับขวดน้ำพลาสติกบรรจุของเหลว คล้ายน้ำยาซักรีดผ้าวางอยู่ 2 ขวด จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดไว้เป็นหลักฐาน 

ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ น.ส.เยาวเรศ ชาวิเศษ อายุ 33 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า พี่ชายของตนมีอาชีพเป็นผู้จัดการร้านอาหารอินเดีย ย่านสีลม กรุงเทพฯ ส่วนแฟนสาวมีอาชีพเป็นผู้ช่วยทันตแพทย์อยู่ที่คลินิกหมอฟัน ย่านถนนเจริญราษฎร์ ทั้งคู่คบหากันมานานประมาณ 1 ปี แต่ช่วงโควิด-19 ระบาด ทำให้ต้องแยกย้ายห่างหายเลิกรากันไปนานหลายเดือน

แต่ทั้งคู่ก็ยังติดต่อกันอยู่ แม้ต่างฝ่ายจะรู้ว่า ต่างคนก็มีคนคบหาดูใจใหม่แล้ว โดยเฉพาะพี่ชายตนกำลังวางแผนจะหมั้นหมายกับผู้หญิงอีกคนที่คบหาอยู่ด้วย กระทั่งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.เปมิกา ก็ย้อนกลับมาหาพี่ชายตนอีกครั้ง การกลับมาครั้งนี้ของ น.ส.เปมิกา ทำให้พี่ชายตนเครียดมาก เพราะเมื่อ 2 - 3 วันก่อน น.ส.เปมิกา ได้ซื้อชุดตรวจสอบการตั้งครรภ์มาตรวจให้พี่ชายตนดู จึงรู้ว่าเจ้าตัวกำลังท้อง

แต่ทั้ง 2 ฝ่าย ยังตกลงกันไม่ได้ จะทำอย่างไรต่อไป จึงเชื่อว่าระหว่างเกิดเหตุ พี่ชายตนคงดื่มเหล้าหนัก ถูกวางยาจนหลับไม่ได้สติ จึงเปิดโอกาสให้ น.ส.เปมิกา ใช้มีดจ้วงแทงที่หัวใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะพยายามฆ่าตัวตายตาม ด้วยการกรีดข้อมือและกินน้ำยารีดผ้า เพราะไม่ต้องการให้พี่ชายไปคบหากับคนอื่น

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางครอบครัวก็รู้สึกเสียใจและคิดว่า ผู้ก่อเหตุจิตใจอำมหิตเกินไป ที่ก่อเหตุทำร้ายพี่ชายจนเสียชีวิต พร้อมทั้งยังติดใจเนื่องจากหลังก่อเหตุทางญาติของ น.ส.เปมิกา ได้เดินทางมาที่ห้องพร้อมทั้งเอาทองคำ 4 บาท และกุญแจรถยนต์ไป

ด้วยเหตุนี้ทำให้ครอบครัวคิดว่าอาจจะเป็นการก่อเหตุเพื่อหวังทรัพย์สินด้วยหรือไม่ ซึ่งต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ย.63) ทางครอบครัวจะรับศพของพี่ชายกลับไปทำพิธีกรรมทางศาสนาที่บ้านเกิด จ.ร้อยเอ็ด ในช่วง 13.00 น.