"ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น" มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 เปิดไทม์ไลน์ ปมดราม่าบ่ายเบี่ยงไม่ยอมเซ็นสัญญา เผยสัญญาฉบับแรกที่ฟ้าใสเซ็นครอบคลุมระยะเวลา ของรางวัล การหักเปอร์เซ็นต์ ตลอดการดำรงตำแหน่ง MUT2019 รวมถึงการประกวดเวที MU2019 ไปเรียบร้อยแล้ว แต่มีการเปลี่ยนเนื้อหาสัญญาอีก 2 ฉบับ ลั่นตลอดหลายปีที่ประกวดนางงามมาหลายเวที ไม่เคยมีกองประกวดเวทีไหน เปลี่ยนแปลงเนื้อหาสัญญาจากฉบับแรกที่เซ็นแล้ว ชีวิตที่ผ่านมาเกือบเป็นโรคซึมเศร้า ร้องไห้มาตลอด ไม่เคยออกมาพูดอะไร เพราะสำนึกเสมอว่ากองเป็นผู้มีพระคุณ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ความจริงมีสองด้าน! "ผจก. ฟ้าใส" VS "ปุ้ย TPN" ตอบดราม่ามงกุฎยืมสวม!!
- เปิดไทม์ไลน์จุดเริ่มต้นความร้าวฉาน! "ปุ้ย TPN" ใจกว้างให้กางสัญญา "ฟ้าใส" จ่อฟ้องคนโพสต์เท็จ
โดยวันนี้ 9 พ.ย. "ฟ้าใส" พร้อม “เอส อนุสิทธิ์” ผู้จัดการส่วนตัวและทนาย "คริส โปตระนันท์" และ "นงลักษณ์ แตงเจริญ" แถลงข่าวเปิดไทม์ไลน์โต้กลับ ไทม์ไลน์ของ "ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก" ผู้บริหาร บริษัท TPN 2018 จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวด Miss Universe Thailand
ประเด็นแรกโต้เรื่องที่ทาง TPN ออกมาแถลงก่อนหน้านี้ว่า ทางกองไม่เคยเปลี่ยนสัญญาของ "ฟ้าใส" เลย
ฟ้าใส : "ไม่จริง ทาง TPN เป็นผู้ขอเปลี่ยนสัญญาฉบับที่ 2 ที่แอตแลนต้า และฉบับที่ 3 ที่เมืองไทยหลังจากฟ้าใสเสร็จสิ้นการประกวด"
ประเด็นที่สอง TPN ออกมาแถลงว่า ฟ้าใสบ่ายเบี่ยงไม่ยอมเซ็นสัญญามาโดยตลอด
ฟ้าใส : "ไม่จริง เนื่องจาก สัญญาฉบับแรกได้เซ็นไปแล้วระบุถึงเงินรางวัล ระยะเวลาในสัญญา และบทบาทหน้าที่ของผู้รับตำแหน่งไว้อย่างครบถ้วนแล้ว แต่ในสัญญาฉบับที่สองและสาม ทางTPN เปลี่ยนแปลงเนื้อหาและเงื่อนไข ฟ้าใสจึงทักท้วง"
โดยไทม์ไลน์ มีดังนี้
1. วันที่ 6 มิ.ย. 2562 ฟ้าใสได้เซ็นสัญญาฉบับแรก บริษัท TPN 2018 จำกัด โดยสัญญาได้ระบุรางวัลและระยะเวลากี่ปี จำนวนเปอร์เซ็นต์ที่หัก รวมถึงเงื่อนไขการทำงาน บทบาทหน้าที่การทำงานในตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 แต่ในการแถลงข่าวของพี่ปุ้ยได้ระบุว่าอันนี้ไม่ใช่สัญญา เป็นแค่ข้อตกลง แต่กลับระบุเงินรางวัลและอื่นๆ ไว้แล้ว ดังนั้นจึงให้ทนายตอบยืนยันว่า ในส่วนการเซ็นฉบับแรก คือ สัญญา หรือไม่ ทางทนายตอบในแง่กฎหมาย เรียกว่า สัญญา
2. วันที่ 17 ก.ค. 2562 ทาง TPN ได้แถลงข่าวว่า รองทั้ง 4 ท่านได้เข้ามาเซ็นสัญญายกเว้นฟ้าใส ขอยืนยันว่าทาง TPN ไม่เคยแจ้ง หรือเรียกให้เข้าไปเซ็นสัญญา โดยทางกองมีตารางงานให้ฟ้าใสทำงาน ตั้งแต่ 8 โมง ถึง 3 ทุ่ม จึงยืนยันว่าไม่ได้บ่ายเบี่ยงตามที่พี่ปุ้ยแถลงข่าว พร้อมโชว์หลักฐานตารางงานฟ้าใส ซึ่งเป็นการทำงานให้กองประกวด โดยผู้จัดการกองประกวดเป็นผู้ดูแลงานฟ้าใส ซึ่งตารางดังกล่าวเป็นของกองประกวดถ้านัดหมายอะไรจะมีการบันทึกไว้ ซึ่งหากดูหลักฐานจะไม่มีการบันทึกนัดหมายการเซ็นสัญญาลงในตารางทั้งที่เป็นตารางงานของกองประกวด
3. ในการแถลงข่าวพี่ปุ้ย บอกว่าก่อนเดินทางไปแอตแลนต้าได้ส่งสัญญามาให้ฟ้าใส ซึ่งคือ ตอนเที่ยงคืน โดยในตอนเช้าหนูต้องเก็บของเตรียมตัว แต่งหน้าไปแอตแลนต้า
4. วันที่ 28 พ.ย. 2562 เดินทางถึงแอตแลนต้า คืนกองเข้ากอง MU ฟ้าใสได้รับสัญญาจากมือพี่ปุ้ยโดยตรง (ในแถลงของพี่ปุ้ยบอกฝากคุณแม่ไปให้ฟ้าใสหลายวันแล้ว) โดยคุณแม่อยู่ด้วย จึงได้รู้ว่าสัญญามีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาไม่ตรงกับฉบับแรก
อาทิเช่น เพิ่มจำนวนปี เพิ่มเปอร์เซ็นต์ที่หัก คุณแม่จึงขอให้เปลี่ยนสัญญาให้ตรงตามเจตนารมณ์ของฉบับแรก ดังนั้นที่ทาง TPN กล่าวว่า คุณแม่ฟ้าใสขอให้หักเปอร์เซ็นต์ 70 : 30 ไม่เป็นความจริง และในสัญญาฉบับแอตแลนต้า มีการขอหักเปอร์เซ็นต์มากกว่า 70 : 30 คุณแม่จึงขอให้กลับไปที่ 70 : 30
5. วันที่ 15 ม.ค. 2563 หลังจากกลับจากประกวดมิสยูนิเวิร์ส ทางกองเรียกไปเซ็นสัญญาฉบับใหม่ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาเยอะมาก จึงยังไม่เซ็นและขอกลับไปปรึกษาผู้ใหญ่
6. วันที่ 2 ก.พ. 2563 ฟ้าใสได้ติดตามไปทางอดีตผู้จัดการกอง ถึงเรื่องของสัญญาและขอนัดเข้าไปคุย ทางผู้ใหญ่จึงนัดมา 21 ก.พ. 2563 ซึ่งการนัดครั้งนี้เกิดจากการทวงถามของฟ้าใส ตามไทม์ไลน์จะเห็นว่า ฟ้าใสไม่ได้บ่ายเบี่ยงในการทำสัญญา
7. วันที่ 21 ก.พ. 2563 ฟ้าใสจึงเดินทางไปพบกับ TPN เจรจาเรื่องสัญญาแต่ทาง TPN ปฎิเสธที่จะแก้ไขจึงมีการนัดลงตงคุยกัน และสุดท้ายมีการจบสัญญาวันที่ 4 มี.ค. 2563
สุดท้าย "ฟ้าใส" ลั่นเรียนเชิญ "พี่ปุ้ย" แถลงข่าวพร้อมกันโดยเปิดสัญญาทุกฉบับเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และเพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และเพื่อไม่ต้องเป็นการโต้ตอบกันไปมา
นอกจากนี้ "ฟ้าใส" เผยถึงสภาพจิตใจที่ผ่านมาตลอดทั้งปี หลายคนทักว่าไม่ร่าเริงเช่นเดิม เพราะตนเกือบเป็นโรคซึมเศร้า ที่ผ่านมาร้องไห้ตลอด ยืนยันที่ไม่เคยออกมาพูดอะไรเพราะคิดเสมอว่ากองเป็นผู้มีพระคุณ ก่อนจบการแถลงฟ้าใสถึงกับร้องไห้ออกมา
(หลักฐานไทม์ไลน์ วันที่ 17 ก.ค. 2562)
(หลักฐาน วันที่ 2 ก.พ. 2563)
ด้านผู้จัดการส่วนตัวเสริมว่า จากข่าวที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายอย่างมาก และเกิดความเข้าใจผิด จากที่ คุณปุ้ย แถลงข่าว วันนี้จึงมาพร้อมหลักฐาน และอาจมีตอบแทนฟ้าใสบ้าง และ ฟ้าใส จะอ่านคำแถลงข่าวบ้าง เพราะภาษาไทยไม่แข็งแรง ส่วนที่น้องต้องใส่แว่นเพราะสายตาสั้น ไม่ใช่เพราะเฟียร์ส
ในส่วนที่ถามมาว่าทางกองลงทุนกับน้อง ก็มีสิทธิ์ถอนทุน ? ตนขอตอบว่า ตลอดการดำรงตำแหน่ง น้องให้ทางกองเต็มที่แล้ว เขารักกองประกวด และสำนึกถึงบุญคุณ ทุกงานหักให้ทางกองหมดแล้ว
และที่มีคนตราหน้าว่าน้องอกตัญญู แล้วบอกแม่อยากรับงานเอง ตนซึ่งเป็นผู้จัดการก็หักเหมือนทางกอง ถ้าน้องอยากรับเองจริงก็ขึ้นเบอร์แม่แล้ว
และที่บอกว่า จากนี้น้องคงรับได้แค่งานกิ๊กก๊อก ตนก็อยากจะบอกว่า ทุกอีเวนต์มีคุณค่า ไม่มีงานไหนกิ๊กก๊อก คุณเอาอะไรมาตัดสิน ตนขอร้องเลยว่าอย่าใช้คำนี้กับใคร สำหรับรายละเอียดว่าสัญญามีการเปลี่ยนอะไรบ้าง ตนขอให้ทางกองเปิดสัญญาก่อน เพื่อให้เกียรติเขาและถ้าเขาเปิดทุกคนก็จะได้รู้ความจริง ส่วนเรื่องอื่นๆที่นอกเหนือจากคุณปุ้ยแถลงข่าว ขอไม่ตอบ จนกว่าทางกองจะเปิดสัญญาทุกฉบับ
ถามว่าทำไมตนถึงมาช่วย เพราะเขาถูกเข้าใจผิดมาตลอด และมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้พูดไม่ได้ โดย ฟ้าใส เดินมาบอกเองว่าไม่ไหวแล้ว ไม่มีความสุขเลย ตนในฐานะที่เป็นผู้จัดการดารามาเป็นสิบปี และส่งนางงามมาหลายคน ก็ไม่เคยเจอสัญญาอะไรแบบนี้มาก่อน
ส่วนทนายความก็บอกว่า ไม่ว่าเอกสารใดก็ตามมีข้อตกลงตรงกันเรียกว่าเป็นสัญญาทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นสัญญาที่เซ็นในรอบ 60 คนสุดท้าย จึงถือว่าเป็นสัญญา ไม่ใช่แค่ข้อตกลงอย่างที่คุณปุ้ย แถลงข่าว เพราะในนั้นเขียนอย่างละเอียดและคลอบคลัมเลยว่า ผู้ที่ได้รับตำแหน่งจะได้รับอะไรบ้าง ที่สำคัญในนั้นไม่มีเขียนว่าทางกองจะมีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงสัญญาได้ทุกเมื่อ
ซึ่งตามหลักกฏหมาย สัญญาต้องเป็นสัญญา ฟ้าใส มีสิทธิ์ทุกประการ ที่จะยอมหรือปฏิเสธก็ได้ หากสัญญามีการเปลี่ยนแปลง โดยมันไม่ใช่เรื่องการเจอตรงกลาง เพราะสัญญาถูกเซ็นไปแล้ว จะมาเปลี่ยนสัญญาไม่ได้