จากกรณีเพจเฟชบุ๊ก "เจ๊ม้อย V+" ได้โพสต์เรื่องราวว่า "พลทหารรับน้องในคุกทหาร เสียชีวิต 1 สาหัสอีก 1 มันสมควรมั้ยครับอยากถามว่า เรื่องนี้คัยจะรับผิดชอบ บางทีบางเรื่อง ถึงจะผิด แต่ก้อขอให้อยู่แค่ในกรอบคำว่าลงโทษ อย่าให้มันเกินเลยขนาดนี้เลย ทุกคนมีครอบครัวมีพ่อมีแม่มีหน้าที่ที่เค้าจะต้องดูแลรับผิดชอบ ถ้าหากว่าเหตุการนี้เจอกับตัวรึญาติพี่น้องคุณจะเป็นยังงัย มันคือความสูญเสีย...RIP. สู้ๆนะน้อง"
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ในค่ายทหารแหางหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งพลทหารเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ พลทหารสถาพร เผียดผัด อายุ 22 ปี
วันที่ 9 พ.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังงานศพของผู้ตายที่วัดโนนสว่างจันทร์ หมู่ 1 บ้านวังโค้ง ต.ตะเบาะ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีเครื่องแบบทหารของผู้ตายวางไว้หน้าโลงศพ และมีพลทหารจำนวน 5 นายมาช่วยเหลืองานศพ
นางสาวเอ็ม (นามสมมติ) ภรรยาของพลทหารสถาพร ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สามีตนเสียชีวิตมีอาการหัวใจล้มเหลว แต่สภาพศพสามีกระดูกหัก 2 ท่อน ตับแตก ปอดฉีกขาด และกรามหัก
ทั้งนี้ พลทหารสถาพร สามีตนได้เป็นทหารเกณฑ์ และเข้าสังกัดในค่ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 62 กระทั่งเดือน มิ.ย. 63 สามีตนได้ขอลากลับมาร่วมงานศพของญาติ และหลังจากนั้นสามีก็ไม่กลับเข้าไปในค่ายทหารอีก ต่อมาวันที่ 1 พ.ย. 63 สามีตนอยู่ดี ๆ เขาก็กลับเข้าค่ายทหารดังกล่าว ซึ่งตนก็ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมเขาถึงกลับเข้าไปในอีก
กระทั่งวันที่ 6 พ.ย. 63 เวลา 11.24 น. สามีได้ส่งข้อความเฟชบุ๊กมาหาตนว่า "เดี๋ยวเค้าจะเข้าเรือนจำแล้วนะ ดูแลตัวเองดี ๆ เดี๋ยวเค้าออกมา" ต่อมาเวลา 14.11 น. สามียังได้ส่งข้อความหาตนต่อว่า " มาเยี่ยมเด้อ เสาร์-อาทิตย์ คิดถึง รักเตงนะๆ"
หลังจากนั้นสามีก็หายไป และไม่ส่งข้อความมาหาตนอีก กระทั่งเวลา 22.23 น. เพื่อนพลทหารที่ค่ายแชตมาบอกว่า "แฟนเธอตายแล้วนะ เจอซ้อมในคุก เสียใจด้วยครับ"
ความรู้สึกแรกที่ตนทราบข่าวว่าสามีโดนซ้อมตาย ตนเสียใจจนพูดไม่ออก และเชื่อว่าที่สามีโดนตายเพราะสามีโดนรุ่นพี่ในค่ายซ้อม สามีได้บอกกับตนในแชตว่าเขาจะเข้าเรือนจำ ส่วนสาเหตุที่สามีถูกรุ่นพี่ลงโทษนั้นมาจากสามีตนหนีทหาร พอกลับเข้าค่ายจึงถูกลงโทษ ทั้งนี้ ถ้าสามีตนทำความผิดจริง ก็ไม่น่าจะลงโทษกันถึงขั้นเสียชีวิตแบบนี้ ตนรับไม่ได้
ส่วนที่ครอบครัวของสามีให้ข่าวการตายของสามีว่าสามีเสียชีวิต เพราะหัวใจล้มเหลวนั้น ตนคิดว่าครอบครัวของสามีคงได้เงินเยียวยาจากเจ้าหน้าที่เพื่อหวังปิดข่าวหรือไม่ หลังจากนี้ ตนจะเดินเรื่องขอความเป็นธรรมให้สามีให้ถึงที่สุด สามีตนตายทั้งคนตนจะอยู่เงียบ ๆ ไม่ได้ สามีตนก็เป็นเสาหลักของครอบครัว
ทั้งนี้ตนก็อยากให้ทางค่ายทหาร ชี้แจงสาเหตุการตายของสามีว่าสามีตนเสียชีวิตเพราะอะไร ทำไมต้องลงโทษถึงขั้นเสียชีวิต นอกจากนี้ หลังจากตนคุยแชตกับสามีเสร็จ ตนได้กลิ่นน้ำดอกมะลิลอยมาเตะจมูก จากนั้นตนก็ได้ยินเสียงผู้ชายเรียกชื่อตนประมาณ 4 รอบ ได้ยินเสียงคนเดินที่หน้าบ้านตน คล้ายกับเสียงรองเท้าของสามี บวกกับสุนัขของตนที่บ้านก็มีการกระดิกหางอีกด้วย แต่ตนมองไปก็ไม่เห็นใครมายืนหน้าบ้าน คิดว่าสามีตนต้องการสื่อสาร กระทั่งตอนค่ำตนจึงทราบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว
ด้านนายเมฆ (นามสมมติ) พ่อของพลทหารนครินทร์ จาเบ้า ที่บาดเจ็บ เปิดเผยว่า วันที่ 6 พ.ย. 63 ลูกชายตนเองถูกจับในค่ายด้วยข้อหาเสพยาเสพติด จึงถูกรุ่นพี่ลงโทษในเรือนจำที่อยู่ในค่ายทหาร ลูกชายเล่าให้ตนฟังว่า เขาและพลทหารสถาพร ผู้เสียชีวิต ได้ถูกทหารรุ่นพี่จำนวน 10 นาย ซ้อมโดยการกระทืบ และใช้หมัดต่อยตามร่างกาย ใบหน้า ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถึง 19.00 น.
โดยพฤติการณ์ตอนที่ซ้อมนั้น รุ่นพี่ทั้ง 10 คน ได้แบ่งมาซ้อมลูกชายตนจำนวน 5 นาย และซ้อมพลทหารสถาพรจำนวน 5 นาย ระหว่างที่ลูกชายโดนซ้อมเป็นเวลา 2 ชั่วโมง มีการขัดขืนและป้องกันตัวอยู่บ้าง ส่วนทางด้านพลทหารสถาพรไม่ได้ขัดขืน และนอนปล่อยให้รุ่นพี่ซ้อม จึงทำให้พลทหารสถาพรเจ็บหนัก และเสียชีวิต ส่วนลูกชายตนก็มีสภาพที่สะบักสะบอม ซี่โครงร้าว ปอดฉีก มีรอยช้ำตามหลัง หน้าบวม ความรู้สึกที่เห็นหน้าลูกชาย ตนก็แทบตำไม่ได้ ตนรู้สึกแค้นกับคนที่ทำลูกชายตนมาก
โดยเบื้องต้น มีผู้บังคับบัญชามาเยี่ยมอาการลูกชายตนที่โรงพยาบาลแล้ว ส่วนทหารรุ่นพี่ที่ก่อเหตุยังไม่ได้มาเยี่ยมแม้แต่คนเดียว ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้บอกกับตนว่า เขาจะทำการลงโทษรุ่นพี่ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกชายตน ทั้งนี้ ตนเองก็อยากเห็นหน้ารุ่นพี่ที่ทำร้ายลูกชายตน ซึ่งถ้าตนเห็นหน้าเขาตนจะขอต่อยหน้าเขาสักครั้งก็พอใจแล้ว ขอยืนยันว่าตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
นางปาหนัน เผียดผัด อายุ 47 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สาเหตุการเสียชีวิต ทางญาติไม่ติดใจ แต่ก็เสียใจ เนื่องจากลูกชายเป็นคนดีรู้ตัวว่ากระทำผิดก็ยอมติดคุก บอกกับตนว่าแค่ 1 เดือนก็ออกแล้ว หลังจากที่ลูกชายถูกคุมตัวกลับไปที่ค่าย เพราะหนีทหาร 5-6 วันแรก ยังสามารถติดต่อกันได้อยู่ จนกระทั่งวันที่ 7 ก็ทราบว่าเสียชีวิตแล้ว ทางต้นสังกัดของผู้เสียชีวิตก็ดูและเป็นอย่างดีรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการจัดงานต่าง ๆ ด้วย และเชื่อสาเหตุตามที่ค่ายทหารชี้แจง