กรรมตามทัน! 2หนุ่มพุ่งชนเสาไฟดับอนาถ เจ้าของแฉขโมยตู้เติมเงินซิ่งหนีทำแหกโค้งตาย (คลิป)

กรณีร.ต.อ.สพลพัฐ บารมีศักดิ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.ป่าซาง จ.ลำพูน รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์เสียลักชนเสาไฟฟ้าข้างทาง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่ถนนลาดยาง หมู่บ้านหวาย ต.มะกอก อ.ป่าซาง จ.ลำพูน จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัย

โดยที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพพังยับหลังชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง ในที่เกิดเหตุพบศพนายปรีชา (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี นอนเสียชีวิตคาที่ ห่างไปเล็กน้อยพบศพนายจิฬะภาศณ์ สิริสุวัณทวี อายุ 26 ปี ซึ่งคาดว่าเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ ยืนพิงอยู่ข้างกำแพงในสภาพใกล้หมดสติ และอาการสาหัส หน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.ป่าซาง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้พนักงานของบริษัทตู้เติมเงินแห่งหนึ่ง ในจ.เชียงใหม่ ได้นำตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือมาตั้งในหลายพื้นที่ใน จ.ลำพูน ที่ผ่านมถูกคนร้ายขโมยตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ โดยยกไปทั้งตู้ทำให้พนักงานของบริษัทดังกล่าว คอยเฝ้าระวังสังเกต กระทั่งประมาณ 02.00 น. เห็นรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับคนร้ายที่กล้องวงจรปิดเคยจับเอาไว้ได้ จึงขับรถยนต์ไล่ตามไป แต่ปรากฏว่าผู้ต้องสงสัยขี่รถคันดังกล่าวหลบหนี ก่อนที่จะเสียหลักชนกับเสาไฟฟ้าจนมีผู้เสียชีวิต 2 รายดังกล่าว

ล่าสุดวันที่ 10 พ.ย.63 พนักงานของบริษัทตู้เติมเงิน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตู้เติมเงินของบริษัทที่นำมาวางตามสถานที่ต่าง ๆ ถูกคนร้ายยกเอาไปทั้งตู้ รวมทั้งฐานปูน ซึ่งมีน้ำหนักมาก เมื่อมาตรวจสอบจากกล้องวงจนปิด ก็พบว่าคนร้ายงัดฐานตู้ก่อนที่จะยกตู้เติมเงินวางที่รถจักรยานยนต์ ในลักษณะนอนขวาง แล้วก็ขี่หนีไป

ในคืนที่เกิดเหตุก็มีสัญญานแจ้งมาทางระบบว่า ตู้ถูกขโมย จึงออกตรวจสอบและพบรถต้องสงสัย ตรงกับลักษณะที่เคยได้ภาพมา จึงพยามขับรถยนต์ไล่ติดตามห่าง ๆ ระหว่างนั้นผู้ต้องสงสัยน่าจะไหวตัวทันเร่งเครื่องหนี ตนพยามบีบแตรรถและเรียกให้จอด แต่ผู้ต้องสงสัยกลับเร่งเครื่องหนี อ้อมหมู่บ้านไปกว่า 4.4 กม. กระทั่งมาเสียหลักรถล้มและเสียชีวิตดังกล่าว

นางจันทร์แสง พรมณะ อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านตรงจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุประมาณ 02.00 น. ตนและสามีกำลังนอนหลับอยู่ภายในบ้าน ก็ได้ยินเสียงรถเบรกและเสียงดังโครมสนั่น จึงออกมาดูเหตุการณ์ ก็เห็นผู้เสียชีวิตนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ส่วนคนที่ยืนข้างกำแพงนั้น ตนไม่เห็นและไม่กล้าออกมาดู เพราะกลัว จึงให้สามีออกไปดูแทน

ขณะที่นายบี (นามสมมติ) อายุ 54 ปี พ่อของนายจิฬะภาศณ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นตนไม่ติดใจสาเหตุการตายของลูกชาย ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนของตำรวจอีกครั้ง ที่ผ่านมายอมรับว่าลูกเพิ่งออกจากเรือนจำมาได้ไม่กี่เดือน ในคดีลักทรัพย์ และลูกชายก็ไม่ค่อยกลับมาบ้าน แต่ก็โทรศัพท์ติดต่อกันบ้าง กระทั่งเช้านี้มีเจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่า ลูกชายเสียชีวิต จึงมาพบตำรวจดังกล่าว