เปิดใจมือปืนยิงทิ้งลุง 2 ศพ ที่แท้แค้นถูกหยาม "ไม่เจียมตัว" ริจีบครูสาว มีวัว 8 ตัว (คลิป)

กรณีร.ต.อ.มนัส แก้วจินดาคำ รอง สว. (สอบสวน) สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุบุคคลถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตภายในบ้านพัก บริเวณบ้านกกมะโมงหมู่ที่ 3 ต.ยางโกลน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก

ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 รายทราบชื่อต่อมานายบุญถม อายุ 68 ปี ชาว ต.ยางโกลน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก สภาพศพถูกอาวุธปืนยิงที่หน้าอกนอนเสียชีวิตหน้าบ้าน

นอกจากนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือนายจันได อายุ 72 ปี ชาว ต.ยางโกลน อ.นครไทย ถูกยิงที่ด้านหลังและก้นอาการสาหัส เสียชีวิตที่โรงพยาบาล

ส่วนคนก่อเหตุชื่อนายสมหมาย อายุ 55 ปี ชาว ต.ยางโกลน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หลังจากก่อนเหตุได้รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ล่าสุดวันที่ 11 พ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายัง สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี ช่วงเช้าของวันนี้ ญาติของนายสมหมาย ผู้ก่อเหตุ ก็ได้มาเยี่ยมนายสมหมาย และให้กำลังใจนายสมหมายในห้องขัง

นางทองกลั่น นุบุญมา พี่สาวของผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ตรงกับวันที่ 9 พ.ย.63 ญาติของน.ส.หนึ่ง ได้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาบอกตนว่า ไม่ให้นายสมหมาย น้องชายตน ไปยุ่งกับน.ส.หนึ่ง อีก เพราะฝ่ายหญิงจะแต่งงานแล้ว หลังจากผู้ใหญ่บ้านมาบอกตน ตนก็ได้บอกน้องชายไม่ไปยุ่งกับน.ส.หนึ่ง โดยนายสมหมาย ได้บอกกับตนสั้น ๆ ว่า ตัวของเขา ตัวคนเดียว เขาจัดการตัวเองได้

สำหรับอาวุธปืนที่น้องชายใช้ก่อเหตุ ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นอาวุธปืนของใคร ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยเห็นอาวุธปืนดังกล่าวมาก่อน เมื่อเช้าวันนี้ ตนได้เยี่ยมน้องชายในห้องขัง และได้บอกให้น้องชายทำตัวดี ๆ จะได้พ้นโทษ ซึ่งนายสมหมาย ก็มีลูกชายกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งแต่ลูกชายของนายสมหมายทราบข่าวว่าพ่อไปก่อเหตุ ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะเป็นห่วงพ่อ สำหรับนายสมหมายเป็นคนที่มีนิสัยใจร้อน แต่หายเร็ว

สำหรับนายสมหมาย และน.ส.หนึ่ง ที่ผ่านมาตนเคยเห็นเขาคุยโทรศัพท์ด้วยกันอยู่บ้าง แต่ไม่เคยเห็นเขาทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกัน ที่น้องชายไปก่อเหตุยิงนายบุญถม ตนก็พอเข้าใจ เพราะที่ผ่านมาน้องชาย เคยถูกนายบุญถม กีดกันเรื่องความรัก และเคยมีปากเสียงกับนายบุญถม ซ้ำยังถูกนายบุญถม ดูถูกมาก่อน ส่วนนายจันได เขาไม่เคยมีปัญหากับน้องชาย ซึ่งตนก็ยังงงอยู่ว่า ทำไมน้องชายถึงไปก่อเหตุยิงนายจันไดด้วย

สำหรับน.ส.หนึ่ง ตนก็พอทราบว่า เขาจะแต่งงานกับชายใหม่ ที่ทางนายบุญถมหาให้ ซึ่งน.ส.หนึ่งเขาก็รับปากว่า จะแต่งงานกับชายคนดังกล่าวมานานแล้ว แต่ไม่ได้แต่งกันเสียที เพราะใจของน.ส.หนึ่ง เขาไม่ได้รักชายที่นายบุญถมหาให้

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสมหมาย นุบุญมา ผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า ตนกับน.ส.หนึ่ง ได้คบหากันมานานประมาณ 2 ปี เหตุที่เกิดขึ้นตนไม่พอใจที่ถูกญาติของฝ่ายหญิงกีดกันความรักของพวกตน สาเหตุที่นายบุญถม กีดกันนั้นเพราะว่าตนเป็นคนฐานะไม่ดี ไม่มีอะไรสักอย่าง และที่ผ่านมานายบุญถม ก็ไม่ได้ดูถูกแค่ตนคนเดียว เขาดูถูกนามสกุลตนอีกด้วย

โดยก่อนเกิดเหตุตนก็ได้พูดคุยกับน.ส.หนึ่ง ซึ่งฝ่ายหญิงได้บอกกับตนว่า เขาถูกญาติบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายที่เขาไม่ได้รัก ซึ่งใจของน.ส.หนึ่ง เขาไม่อยากแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น ทั้งนี้ตนไม่ได้คิดวางแผนมาก่อน แต่ที่ตนนำอาวุธปืนไปยิงผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เพราะตนเจ็บใจถึงขั้นสุดแล้วจริง ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยอมรับว่าตนทำไปเพราะถูกญาติของฝ่ายหญิงกีดกันความรัก และตนก็จะไม่ขอโทษครอบครัวผู้ตายอีกด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครไทย ให้ข้อมูลกับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เพิ่มเติมว่า ตอนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาตั้งใจจะไปก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงญาติของน.ส.หนึ่ง จำนวนถึง 4 ราย คือนายบุญถม นายจันได ส่วนคนที่ 3 คือนายสอง (นามสมมติ) แฟนใหม่ของน.ส.หนึ่ง และอีกคนที่นายสมหมายหวังก่อเหตุ คือ ญาติของน.ส.หนึ่ง ภรรยาของนายจันได

ต่อมา ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของน.ส.หนึ่ง (นามสมมติ) ได้พูดคุยกับนางสำลี (นามสมมติ) แม่ของน.ส.หนึ่ง ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า ตนขอยืนยันว่าลูกสาวไม่ได้คบหากับนายสมหมาย ที่ผ่านมาลูกสาวพูดคุยกับนายสมหมายเหมือนชาวบ้านทั่วไป แต่นายสมหมายคิดว่าลูกสาวตนชอบเขา พฤติกรรมของนายสมหมายที่ตนเห็นว่าเขาหลงรักลูกสาวตน คือ เขาจะชอบนำอาหาร ปู ปลา ที่เขาหามาได้ มาแขวนไว้ให้ลูกสาวตนที่บ้าน และชอบมานอนเล่นที่หน้าบ้านตนอีกด้วย

โดยก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ที่ตนต้องไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านนั้น เนื่องจากช่วงเที่ยงของวันที่ 9 พ.ย.63 นายสมหมายได้เอาปืนมาซ่อนไว้ในป่ากล้วยข้างบ้านของตน ซึ่งตนเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยตาของตัวเอง ตอนนั้นตนรู้สึกกลัว และรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงได้นำเรื่องนี้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยไปบอกญาติของนายสมหมาย

ขณะที่นายสมหมายบุกมายิงนายจันได ถึงด้านในบ้านช่วงที่กำลังทำพิธีต่ออายุอยู่นั้น ตนยอมรับว่าตกใจมาก เนื่องจากตนนั่งร่วมพิธีดังกล่าว และเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ส่วนที่นายสมหมายบอกว่า เขาจะก่อเหตุยิงปืนใส่ บุคคล 4 คน ซึ่งอีก 2 คนที่เหลือตนคาดว่าน่าจะเป็นลูกสาวตน กับนายสอง ว่าที่ลูกเขยตนเอง

ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่ได้กีดกันนายสมหมายกับลูกสาวตน ตนแค่ห้ามเขาเท่านั้น ที่นายสมหมายบอกว่าลูกสาวตนก็รักเขานั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตนได้สอบถามลูกสาวเรื่องนี้ ลูกสาวก็ปฏิเสธตลอดมา ส่วนที่นายสมหมายบอกว่า ลูกสาวตนไม่ได้อยากแต่งงานกับนายสอง ตนขอยืนยันว่าที่นายสมหมายพูดไม่เป็นความจริง

สำหรับทรัพย์สินนายสมหมาย อาชีพ รับเหมาก่อสร้าง และหาปลา มีรายได้ 5,000 บาท ซึ่งอาศัยอยู่กับน้องสาว มีรถจักรยานยนต์ 1 คัน และวัว 8 ตัว 

สำหรับทรัพย์สินน.ส.หนึ่ง อาชีพข้าราชการครู รายได้ 30,000 บาทต่อเดือน มีบ้าน 1 หลังรถเก๋งและรถกระบะอย่างละ 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน 

สำหรับความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาแก่นายสมหมาย ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาติ เสพยาเสพติด ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน หรือทางสาธารณะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาฝากขังที่ศาลจังหวัดพิษณุโลก ในวันที่ 12 พ.ย.63