"เบส รักษ์วนีย์" พร้อมคุณพ่อ "สมรักษ์ คำสิงห์" หอบเอกสารเเจ้งความเอาผิด คนกุข่าวแอบอ้างว่าเป็นหญิงปริศนาในคลิปโป๊ ด้านคุณพ่อ "สมรักษ์" ของขึ้นเเทน!!

สืบเนื่องจากกรณีที่มีคลิปหลุดนักศึกษา 18+ ที่มีการส่งต่อคลิปกันในไลน์ โดยบุคคลที่ส่งต่อกันนั้นมีการแอบอ้างว่าเป็น "น้องเบส" รักษ์วนีย์ คำสิงห์ ยูทูปเบอร์ชื่อดัง และ ลูกสาวของ สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ เหรียญแรกของไทย
ล่าสุดวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ทาง"น้องเบส รักษ์วนีย์ คำสิงห์" พร้อมด้วยคุณพ่อ"สมรักษ์ คำสิงห์"และคุณแม่ "เสาวนีย์ คำสิงห์" เดินทางมายัง บก.ปอท. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) พร้อมเข้าพบ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก. ปอท. ใน ฐานะโฆษก บก.ปอท. เพื่อแจ้งความเอาผิดกรณีที่มีบุคคลในโซเชียลได้มีการแชร์ภาพและคลิปโป๊ โดยกล่าวหาว่าผู้หญิงในคลิปดังกล่าวนั้นเป็น "น้องเบส" พร้อมยังมีการนำรูปของเจ้าตัวไปเเปะไว้เพื่อชวนเชื่อให้คนที่เข้ามาดูคิดว่าเป็นตนอีกด้วย

ขณะที่ทาง " น้องเบส รักษ์วนีย์" ได้เปิดเผยภายหลังเข้าพบเจ้าหน้าที่ ว่า สำหรับจุดเรอ่มต้นของต้นเรื่องนั้นก็ตามที่เป็นข่าวไปคือมีคลิปโป๊ 18+ ซึ่งบุคคลภายในคลิปบังเอิญมีหน้าตาคลายตนแล้วมีคนในโซเชียลหลานคนไปติต่างว่าเป็นตน พร้อมนำรูปของตแนบไปประกอบคลิปพร้อมทำการส่งต่อกันในโซเชียล ยอมรับว่าส่วนตัวหลังทราบข่าวแล้วรู้สึกตกใจเลยทำการชี้เเจงว่าไม่ใช่ตนในคลิป แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะหลายคนยังมองว่าเป็นตน และเข้าใจผิดกันไปใหญ่ เลยตัดสินใจรวบรวมหลักฐานในเฟซบุ๊กได้จำนวน 34 บัญชี ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลที่ทางเเฟนคลับช่วยกันสืบและส่งมาให้ รับบางบัญชีเองก็มีการแสวงหาผลประโยชน์ในเชิงธุรกิจบางราย เพราะมีการเรียกเก็บค่าเข้าดูด้วย

เมื่อถามถึงผลกระทบที่ได้รับจากเรื่องที่เกิดขึ้น "น้องเบส" เล่าว่า ส่วนในโซเชียลโชคดีที่มีคนส่วนน้อยที่ไม่เข้าใจ เพราะหลายคนเองหลังจากที่ขี้แจงไปก็เริ่มเข้าใจว่าไม่ใช่ตน ทั้งนี้ในส่วนผลกระทบของงานเองก็ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เพราะหลังจากที่ตนอธิบายไปแล้วทางผู้ใหญ่เองก็เข้าใจและให้โอกาสตนทำงานต่อ เช่นเดียวกับทาง "พี่หม่ำ จกม๊ก" เองก็ได้ให้คำปรึกษาว่าให้เข้ามาแจ้งความเพื่อให้หลายคนได้รับทราบและเข้าใจว่าไม่ใช่เรา เพราะหากปล่อยเงียบอาจจะทำให้หลายตนคิดว่าเป็นจริง

ในส่วนของคนที่เข้าใจผิด ตนเองอยากฝากบอกว่าอยากให้คนที่เสพข้อมูลช่วยพิจารณาและดูให้ดีๆก่อนว่าใช้คนที่เขากล่าวอ้างหรือเปล่า ที่สำคัญหากทราบแล้วว่าไม่ใช่ความจริงก็ให้ควรหยุดแชร์หรือปั่นกระแสเพิ่ม เพราะการกระทำดังกล่าวนั้นอาจส่งผลกระทบต่อขีวิตคนหนึ่งคนได้

ทั้งนี้จะมีการแจ้งความเอาผิดเพิ่มหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่น่าจะมีเพิ่มแล้ว เพราะการแจ้งความครั้งนี้ส่วนตัวไม่ได้จะดำเนินคดีกับคนดังกล่าว เพียงแค่การออกมาสันนี้เราต้องการออกมายืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ใช่เรา อยากให้สังคมได้รับทราบและเข้าใจว่าไม่ใช่ตน รวมถึงให้ช่วยกันบอกต่อว่าไม่ใช่ตน ส่วนจะเรียกร้องความเสียหายเป็นจำนวนเงินหรือไม่นั้น ส่วนตัวคงไม่เรียกร้อง

ขณะที่คุณพ่อ "สมรักษ์" ยอมรับว่าช่วงที่ทราบข่าวไม่ได้ตกใจหรือวิตกกังวลแต่อย่างใด โดยทราบใาจากเพื่อนๆกลุ่มนักมวยที่ส่งมาให้ดู ตอนนั้นส่วนตัวมองแล้วก็ไม่ใช่ลูกสาวของตนแน่ เลยรีบบอกไปยังเพื่อนๆที่ส่งคลิปมาว่าไม่ใช่ แต่สุดท้ายเรื่องกลับไม่จบหลัจากนั้นเริ่มใหญ่โตมากขึ้น ตนเลยตัดสินใจบอกลูกสาว "น้องเบส" ว่าเเจ้งความดีกว่าจะได้จบๆไป ตลอดจนให้ดำเนินคดีกับคนที่นำภาพของตนและลูกสาวไปเชื่อมโยงกับคลิปโป๊ดังกล่าว ทั้งนี้จากที่สอบถามเข้าหน้าที่ตำรวจก็ทราบว่าส่วนใหญ่บัญชีที่พบนั้นจะเป็นคนที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็จะดำเนินการในส่วนของไลน์กลุ่มที่มีการแชร์ข้อมูลกันต่อด้วย ย้ำหากตนและลูกสาวไม่เข้ามาแจ้งความวันนี้หวั่นว่าคนจะเข้าใจผิด ลั่นคนจัญไรพวกนี้ต้องโดนบ้าง ยอมรับหากสืบเองได้ตอนนี้คงตามไปถึงบ้านแล้ว อย่างไรก็ตามคาดว่าทางเจ้าหน้าที่ตงใช้เวลากว่า 1 เดือนในการสืบหาผู้กระทำความผิด

ลั่นส่วนตัวอยากเจอหน้าคนที่กระทำ พร้อมขอพูดคุยและสอบถามว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ยอมรับว่าถึงลูกสาวจะไม่เอาความแต่ตนจะเดินหน้าเอาความเองตามกฎหมาย หัวอกคนเป็นคนพ่อคงอยู่ไม่ได้หากเห็นลูกสาวที่มีพฤติกรรมเรียบร้อยและดูแลครอบครัวมาเจอเรื่องแบบนี้ ลั่นหากมีโอกาสอยากพูดคุยกับผู้กระทำสักครั้ง

ขณะที่ทาง "พ.ต.อ.ศิริวัฒน์" รอง ผบก.ปอท.กล่าวว่า สำหรับในส่วนของการดำเนินการต่อไปกรณี "น้องเบส"นั้น จะแยกออกเป็น 3 ส่วน คือ 1. มีการนำภาพของทาง "น้องเบส" และคุณพ่อ "สมรักษ์" มาประกบคู่กับคลิปต้นเรื่อง ซึ่งมีเจตนารมณ์เพื่อให้ผู้ที่เข้ามารับชมนั้นหลงเชื่อว่าบุคคลในคลิปเป็นทาง "น้องเบส" ในส่วนนี้ก็จะดำเนินคดีกับผู้ที่นำเข้าข้อมูล ในฐานหมิ่นประมาทและการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามกฎหมายพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

ในส่วนที่ 2 ทางเจ้าหน้าที่จะส่งเรื่องต่อไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อทำการปิดกั้นข้อมูลในส่วนดังกล่าว และในส่วนที่ 3 ถือเป็นการคลายข้อกระจ่างให้สังคม เพราะการเข้ามาเเจ้งความครั้งนี้จะเป็นเหมือนการมาเตือนให้สาธารณะชนได้รับทราบว่าคลิปดังกล่าวไม่ได้มีความเกี่ยวบ้องกับทาง "น้องเบส"แต่อย่างใด และวอนทุกคนที่เห็นคลิปอย่าส่งต่อเพราะหวั่นเข้าข่ายความผิดในการส่งต่อข้อมูลที่มีลักษณะลามกอนาจาร มีความผิดเข้าข่ายพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท