กรณีหน่วยกู้ภัยพ่งไล้ 16 ลำนารายณ์ จ.ลพบุรี รับแจ้งเหตุเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักตกสะพานข้ามแม่น้ำป่าสักทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2089 สายมวกเหล็ก–ลำนารายณ์ ในเขตต.ท่ามะนาว อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เมื่อเวลา 01.35 น.วันที่ 13 พ.ย.63 จึงรุดไปตรวจสอบ
โดยที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ทะเบียน ขธ 8404 นครราชสีมา อยู่ในสภาพตกลงไปในแม่ป่าสักมิดทั้งคัน ชุดปฏิบัติการค้นหาใต้น้ำกู้ภัยพ่งไล้ 16 เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือ นำเครนยกขึ้นจากแม่น้ำ
ตรวจสอบพบผู้เสียชีวิต เป็นชาย 2 ราย นายวรวรรณ อายุ 34 ปี เสียชีวิตเบาะนั่งหน้าซ้าย ชาว อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา และนายวสันต์ อายุ 33 ปี เสียชีวิตที่เบาะนั่งคนขับ ชาว อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยบาดาล จะทำการสืบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป
ล่าสุดวันที่ 13 พ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบร่องรอยการเฉี่ยวชน บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำป่าสักทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2089 ฝั่งหน้าวัดท่ามะนาว 3 จุด ขณะเดียวกัน ทีมข่าวพบการติดตั้งวางแนวแบริเออร์ใหม่เกือบทั้งหมด และพบคนงานก่อนสร้างกำลังทาสีฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ
จ่าสิบเอกวิรัชตน์ แก้วละย้า ผู้พักอาศัยบ้านใกล้สะพานข้ามแม่น้ำ และเป็นผู้แจ้งกู้ภัยพ่งไล้ กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 01.30 น. ตนได้ยินเสียงรถประสบอุบัติเหตุเสียงดังมาก จึงตื่นลุกจากที่นอน คว้าแว่น และมือถือรีบโทรแจ้งกูภัยทันที กระทั่งวิ่งมาดูยังจุดเกิดเหตุ ช่วงนั้นยังเห็นตูดรถและไฟท้ายเก๋งกำลังจะจมน้ำ จึงได้แต่ยืนดูจนรถเก๋งจมน้ำไป กระทั่งผ่านไป 15 นาที กู้ภัยก็มาถึง
อย่างไรก็ตาม ตนที่บ้านอยู่ตรงนี้ เห็นการก่อสร้างที่เริ่มขยายสะพาน ก็ไม่มีการติดตั้งไฟเตือนแต่อย่างใด มีแต่ป้ายขนาดเล็ก 3 อันเท่านั้น ซึ่งอันตรายต่อผู้ไม่คุ้นชินเส้นทาง กระทั่งมีเหตุเมื่อคืนก็พบว่ามีหลายหน่วยงานลงพื้นที่มาดู และมีการติดตั้งไปกระพริบ และทำแนวแบริเออร์ใหม่
นายวิรัช กลมแสงมณี รองหัวหน้าศูนย์กู้ภัยพ้งโล้ 16 เปิดเผยว่า วันนี้ช่วงเวลา 13.30 น. ทางฝ่ายปกครอง สาธารณะสุข ตำรวจสภ.ชัยบาดาล และแขวงการทางลำนารายณ์ นัดกู้ภัยไปดูจุดเกิด และมีการประชุมร่วมกันหารือในกัน 3 แนวทาง การวิเคราะห์ลักษณะเกิดเหตุ เรื่องรถที่คาดว่ามาด้วยความเร็ว ไม่ชินเส้นทางและสถานที่เกิดเหตุคือไฟแสงสว่าง การตั้งแนวแบริเออร์และป้ายทางแจ้งเตือน ที่ใกล้สะพานเกินไป
โดยขณะนั้นแขวงการทางมีปรับแนวแบริเออร์ใหม่ทันที ติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มเติม และมีป้ายพร้อมเตือนไฟเตือนระยะห่างสะพาน 50 เมตร ที่จากเดิมมีแนวแบริเออร์ชิดหัวสะพาน มีเพียงไฟกระพริบบนแนวสะพาน และไม่มีป้ายเตือนพร้อมไฟเตือนล่วงหน้า
ขณะนี้ผลการตรวจยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องผู้ประสบอุบัติเหตุ เพราะต้องรอผลชันสูตรก่อน โดยในช่วงเช้าในวันที่ 14 พ.ย.63 แพทย์จะนำร่างของผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์รังสิต
หลังรับแจ้งเหตุรีบเข้าไปตรวจสอบให้เวลาถึงจุดเกิดเหตุ เพียง 5 นาที พอถึงจุดเกิดเหตุบริเวณคอสะพานพบแบริเออร์ขยับหนึ่งแท่งและอีกหนึ่งแท่งหล่นลงใต้สะพาน และพบบริเวณขอบสะพานมีร่องรอย จนกระทั่งสอบถามชาวบ้านบริเวณนั้นพบว่ารถหล่นและจมน้ำไปแล้ว จึงมีการใช้กำลังชุดปฏิบัติการค้นหาใต้น้ำ ลงปฏิบัติการ