เมื่อวันที่ 15 พ.ย.63 พ.ต.ท.ประสงค์ อินเสมียน สารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตผูกคอในห้องน้ำ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกตัญญ โดยจุดเกิดเหตุบ้านหลังหนึ่ง อ.พระประแดง ภายในห้องน้ำชั้นล่างพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นายทิวา นกสว่าง อายุ 29 ปี นั่งคว่ำหน้าอยู่กับชักโครก ข้าง ๆ มีโทรศัพท์มือถือตกอยู่ 1 เครื่อง และพบสายจุงสุนัขสีเหลืองหนึ่งเส้น ผูกกับขื่อหลังคาห้องน้ำ ที่ห้อยลงมาตรงร่างผู้เสียชีวิต
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพผู้เสียชีวิต พบที่ลำคอมีร่องรอยการผูกมัด ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นการทำร้ายตัวเองด้วยการผูกคอ แต่ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกาย ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบโดยรอบที่เกิดเหตุเกิดเหตุไม่พบการต่อสู้หรือรื้อค้นทรัพย์สิน
จากนั้นตำรวจตรวจสอบโทรศัพท์มือถือที่ตกใกล้ตัวผู้ตาย พบการแชตคุยกับแฟนสาว ประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 14 พ.ย.63 ทำนองมีปากเสียงก่อนแล้วแฟนสาวก็ออกจากบ้านไปหาเพื่อน ทำให้ผู้ตายคิดมากและกลัวว่าแฟนสาวจะตีตัวออกห่าง จึงส่งภาพลักษณะผูกคอ ทิ้งท้ายข้อความว่า “ตายแบบนี้มันช้า แขวนคอเลยดีกว่า”
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบบ้านที่เกิดเหตุเป็นลักษณะบ้านไม้ยกสูง ด้านล่างมีห้องน้ำที่ผู้เสียชีวิตใช้ฆ่าตัวเอง และพบว่าบ้านหลังนี้อาศัยอยู่กันประมาณ 4 คน ได้แก่ นายทิวา ผู้เสียชีวิต, แฟนสาวนายทิวา อายุ 38 ปี, พ่อของนายทิวา และลุงของผู้เสียชีวิต
น.ส.ปริณุต แฟนผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนเพิ่งเริ่มคบหากันได้ประมาณ 6 เดือน หลังรู้จักกันมาประมาณกว่า 10 ปี เนื่องจากแฟนเป็นเพื่อนกับน้องชายตน โดยตลอดเวลาที่คบกันตนได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้ ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อมาเริ่มต้นด้วยกัน หวังจะช่วยกันทำมาหากิน แต่แฟนก็มักจะทำงานบ้างไม่ทำบ้าง ส่วนตนก็ย้ำตลอดว่า จะต้องออกไปหางานทำ เพราะมีภาระต้องใช้จ่าย แต่แฟนก็มักจะห้าม บอกว่าไม่ต้องทำ ไม่มีก็ไม่ต้องกิน ทำให้ตนไม่พอใจ และเคยหนีหายไปทำงาน แต่ก็กลับมาเพราะรักฝ่ายชาย
กระทั่งเมื่อไม่มีกี่เดือนก็มีปากเสียงกันอีก ทำนองหึงหวง และแฟนก็ไปแอบกินยาระงับประสาท ซึ่งไม่รู้ว่าซ่อนยาไว้ที่ไหน ปรากฏมีอาการคลั่ง จะเอามีดมาแทงตนจนต้องหนีออกจากบ้าน แต่ก็กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันปกติ จนบ่ายเมื่อวานนี้ตนขอออกไปกินข้าวกับเพื่อน แฟนก็ให้ไป แต่ก่อนออกไปแฟนก็โวยวายเล็กน้อย แต่ไม่ได้รุนแรง จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 แฟนก็ส่งรูปภาพมาทางข้อความว่า “จะผูกคอตาย” ตนกังวนใจจึงปรึกษาเพื่อนและน้องแฟนว่าจะทำอย่างไรดี แต่ทุกคนยืนยันว่าคงไม่ทำ แค่เรียกร้องให้ตนกลับเข้าบ้านเฉย ๆ แม้ตนจะสองจิตสองใจ แต่ก็ไม่ได้กลับเข้ามาบ้าน จนมาช่วงเช้ากลับเข้าบ้านมา แฟนก็ไปแล้ว ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องไห้ ยอมรับว่าเสียใจมาก แต่ก็ไม่ทันแล้ว ซึ่งที่ผ่านมีความสุขกันมาตลอด ส่วนเรื่องปากเสียงก็มีบ้างเป็นเรื่องปกติ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ก็แจ้งว่า แฟนฆ่าตัวเองตาย โดยมีการนำศพไปชันสูตรที่รพ.ตำรวจ ซึ่งในวันพรุ้งนี้ (16 พ.ย.63) ตนจะมีการเดินทางไปรับศพ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบางขมิ้น ต.บางยอ จ.สมุทรปราการ
นายสะอาด เล่าว่า ตนอยู่กับหลานชายตลอดทั้งวัน จนกระทั่งเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 18.00 น. ได้ยินเสียงหลานชายโวยวายว่า “กูอยากตายโว้ย” ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวด้วย จนเวลาประมาณ 19.00 น. ตนได้เดินดูในบ้านอีกรอบก็พบว่า หลานชายยังนอนอยู่บนที่นอนถึงเวลา 19.05 น. เห็นหลานชายเดินลงไปที่ห้องน้ำพร้อมเชือกเส้นเล็ก ๆ ได้ยินเสียงหลานชายบ่นว่า “ไปแล้วๆผูกคอตาย” ทำให้ตนสงสัยว่าหลานชายจะลงมาผูกคอตาย
ต่อมาเวลาประมาณ 19.45 น. ตนได้ยินเสียงคล้ายเชือกรูด เสียงมีอะไรกระแทกกับปากโถ่ส้วม และเสียงเหมือนเปิดประตูห้องน้ำ ตนจึงหลบเข้าห้อง เพราะคิดว่าหลานชายคงกำลังจะเดินขึ้นบ้าน เนื่องจากไม่อยากสนใจ ไม่อยากยุ่ง จนกระทั่งเวลา 20.00 น. มีความสงสัยว่าสรุปจะขึ้นบ้านหรือไม่ขึ้น แม้มีความเป็นห่วงอยู่ในใจแต่ก็ทำเฉย ๆ ซึ่งเวลานี้ตนง่วงมากจึงเข้านอน
กระทั่งตนตื่นนอนเวลา 03.00 น. เดินออกมาส่องตรงประตูบ้านเห็นไฟยังเปิด แต่ก็กลับไปนอนต่อจน 07.00 น. ตนต้องการเข้าห้องน้ำ แต่เห็นหลานชายนอนคว่ำหน้าเกาะตรงโถส้วม นั่งพับเพียบ คิดว่านอนหลับจึงไปขอเข้าห้องน้ำบ้านญาติ ขณะที่มีการสนทนาในวงเพื่อน ๆ เรื่องที่หลานชายกับแฟนทะเลาะกัน ผ่านไปครูหนึ่งก็มีคนในบ้านวิ่งออกมาบอกว่า “ก้อยตัวแข็งแล้ว” ตนก็รีบเดินเข้าบ้าน
อย่างไรก็ตาม ตนไม่คิดว่าหลานชายจะผูกคอตาย คิดแค่ว่าจะล้อเล่นกับเมียเท่านั้น เพราะที่ผ่านมา ก็มีการมีปากเสียงกัน มีการห้ามปรามไม่ให้เมียออกไปไหน ขนาดเมียออกไปเล่นงิ้ว 7-8 วัน ก็ยังตามไปเฝ้าที่งานงิ้ว จ.จันทบุรี ขณะที่ลักษณะนิสัยของหลานชาย หลังออกจากเรือนจำ มาก็เปลี่ยนตัวเองทำมาหากิน ขี่วินบ้าง ขี่รถส่งของบ้าง เป็นปกติ ร่าเริง มีเพื่อนฝูง