"จตุรงค์" เปิดใจไม่ไปอยู่บ้านใหม่ "ใบเฟิร์น" เพราะน้อยใจ

ถึงจะเจอวิกฤตหนักหน่วงแค่ไหน แต่ก็ยังยิ้มสู้ สำหรับนักแสดงอารมณ์ดี "จตุรงค์ โพธาราม" หรือ จาตุรงค์ มกจ๊ก หลังเพิ่งเจอสถานการณ์ฝนตกติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายอำเภอของจังหวัดราชบุรี ประสบปัญหาน้ำท่วมขังสูงเป็นเหตุให้ครัวลุงรงค์ ได้รับผลกระทบเต็มๆ ซึ่ง จาตุรงค์ ที่มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ได้เผยว่าร้านอาหารได้รับผลกระทบหนัก ความเสียหายนับแสนบาท พร้อมเปิดใจเรื่องที่ไม่ยอมย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ของ "ใบเฟิร์น" ลูกสาวสุดที่รัก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "พชร์ อานนท์" โต้ป่วย! ผอมเพรียวเพราะตั้งใจควบคุมน้ำหนัก
- "อั๋น ภูวนาท" อัปเดตพัฒนาการ "เบบี้พอล" หลังเข้าโรงเรียน แฮปปี้ลูกชายมีพัฒนาการที่ดี
- "สุเทพ สีใส" ภูมิใจลูกสาวรักการเรียน พร้อมกับสารภาพเคยน้อยใจที่ลูกสาวไม่ค่อยคุยด้วย
- "พี่อ้อย-พี่ฉอด" กับประสบการณ์การเป็น "ศิราณีหัวใจ" ถึง 15 ปี
- "แม่ก้อย ทาริกา" ตำนานหญิงเล็กแห่งบ้านทรายทอง พร้อมเผยที่มาฉายา "ผู้จัดใจบุญ"
- "อ้อย กะท้อน" ดังระดับซุปเปอร์สตาร์แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าผ่าตัด ช้ำหนักถึงขั้นเลิกร้องเพลง!
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่    

จตุรงค์ : เพิ่งโดนน้ำท่วม ครัวลุงรงค์อยู่กลางทุ่งนาเลย พอน้ำเหนือมันไหลมา เราทำที่กั้นไว้แล้ว ก็กั้นไม่ไหว ไก่เลี้ยงไว้ประมาณร้อยกว่าตัว ไก่ชนตัวละ 2000 กว่าบาท พอน้ำมาตี 4 เด็กๆ ที่ร้านตะโกนกันว่าเอาไก่ก่อนๆ สรุปไก่ไม่เป็นไร ไม่มีตายเลยสักตัว น้ำก็ท่วมบ่อที่เลี้ยงไก่ แล้วก็ลานจอดรถก็ประมาณเข่า แต่ในครัวไม่เป็นอะไร เพราะในครัวมันค่อนข้างสูง รูปที่เห็นเราพายเรือก็คือตรงที่เลี้ยงไก่ เราก็คิดว่าน้ำท่วมขนาดนี้ 3 วันแน่ๆ ที่ขายไม่ได้


ถาม น้ำท่วมที่ครัวเป็นครั้งแรกหรือเปล่า

จตุรงค์ : 17 ปี ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เลย เราก็เอาเครื่องดูดน้ำมาดูดน้ำออกจากร้าน 2  วันหมดเลย

ถาม เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมแบบนี้ขึ้นแล้ว แล้ววางแผนรับมือไว้ในอนาคตยังไงบ้าง

จตุรงค์ : คิดว่าหมดหน้าฝนแล้ว จะทำเขื่อนเลย ที่คิดไว้นะครับ เพราะความเสียหายครั้งนี้หลักแสนเลย


ถาม นอกจากเลี้ยงลูกไก่ ช่วยเหลือลูกไก่แล้ว ยังรับเลี้ยงอาจารย์เหมยด้วย เลี้ยงดีกว่าลูกตัวเองอีก

จตุรงค์ : สมัยเฟิร์น อยากจะได้อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจหรอก เพราะตอนนั้นรายได้ก็ไม่ค่อยดี แล้วอีกอย่างเราทำงานกลางคืน เลยไม่ได้มีเวลาดูลูก ตอนเฟิร์น 7-8 ขวบ อยากจะได้อะไร ก็ไม่ได้ พอเราเห็นอาจารย์เหมย ตอนนี้เขาอยากได้อะไรก็ซื้อให้ ได้เล่นกับเขา ได้ใกล้ชิดกัน อาจารย์เหมยเป็นลูกของศรีหลอด แล้วมาอยู่ครัวลุงรงค์ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ พอเราเห็นเด็กคนนี้ เรารู้สึกมีความเมตตากับเด็กคนนี้ ตอนแรกก็ไม่ได้อะไรเท่าไหร่หรอก แต่พออยู่ๆ ไปคือรักเขาเลย ทั้งแม่ ทั้งเฟิร์น ทั้งเรา ทั้งคนในร้าน รักเขาหมด ตอนนี้ อาจารย์เหมย 8 ขวบ กำลังน่ารักเลย เป็นประชาสัมพันธ์ที่ร้าน คนที่ไปกินครัวลุงรงค์ จะไปหาอาจารย์เหมย ไปถ่ายรูปกับอาจารย์เหมยกัน

ถาม คิดว่าจะปั้นเข้าวงการไหม

จตุรงค์ : ปั้นไม่ได้ หมายความว่าถ้าให้เขามีกิจกรรมหรือมีภาระอะไรไม่ได้โดยเด็ดขาด จะทำให้เขาเกิดความเครียด เราต้องปล่อยตามอารมณ์ของเขา เพราะถ้าไม่เล่นก็คือไม่เล่น นิ่งก็คือนิ่ง ดื้อก็คือดื้อ


ถาม และอีกเรื่องที่ไม่ถามถึงไม่ได้ เรื่องของลูกสาว ใบเฟิร์น เห็นว่าเพิ่งซื้อบ้านใหม่มาสักพักแล้ว แต่พ่อยังไม่เข้าไปบ้านหลังนี้เลย เพราะอะไร

จตุรงค์ : เพราะถ้าเข้าไปก็จะไม่ได้มานั่งถามอยู่ตอนนี้สิ (หัวเราะ) น่าจะซื้อมาประมาณ 6-7 เดือนแล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นบ้าน ซึ่งก็ห่างจากบ้านที่เราอยู่แค่นิดเดียว ขับรถแค่ 15 นาที เราตั้งใจไม่ไป จะไปทำไม เพราะบ้านที่เราอยู่ ดีอยู่แล้ว มีความสุขแล้ว


ถาม แล้วใบเฟิร์นน้อยใจไหม

จตุรงค์ : น้อยใจนะ จริงๆ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ไม่ไป ต้องบอกก่อนว่าเราภูมิใจที่เขาสามารถสร้างตัว มีบ้านหลังใหญ่สวยๆ อยู่ แต่ในความรู้สึกของเรา บ้านที่เราอยู่มันก็ดีมีความสุขแล้ว อยู่กันมา 20 ปีแล้ว ผ่อนหมด จบเรียบร้อย เรากลัวว่าถ้าเราเข้าไปอยู่ที่บ้าน เฟิร์น แล้วยังเป็นภาระอยู่ เรากลัวว่าจะต้องไปช่วยผ่อน (หัวเราะ) ไม่มีอะไร ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน แต่จริงๆ ตอนแรกก็มีบ้างนะ เพราะว่าเรามีบ้านอยู่แล้ว จะไปซื้อทำไม แม่ น้อง เขาก็ต้องไปอยู่แล้ว บ้านหลังที่เราอยู่ยังไงละ แต่เรื่องของเรื่อง เขาอยากให้แม่อยู่บ้านสวยๆ มีความสุขเท่านั้นเอง เขาก็คิดดี แต่คิดคนละมุมกับเรา

ถาม แต่ที่บอกว่าไปอยู่บ้านเดียวกับลูกสาว ใบเฟิร์น ไม่ได้ เพราะนิสัยเหมือนกันมากเกินไป

จตุรงค์ : เวลาคุยอะไร มันเหมือนต้องชงกัน ฉะกัน เพราะเขาเหมือนเรา ซึ่งแรกๆ เราก็แบบว่าทำไมมันเป็นคนแบบนี้ แต่พอเรามานั่งคิดดูก็รู้เลยว่าเหมือนเรามากๆ เหมือนเราทะเลาะกับตัวเองเลย นิสัยเหมือนเรามาก

จตุรงค์ : แต่ถามว่ารักลูกมากไหม รักมาก ลูกเรา เป็นความภูมิใจของเรา เวลาอยู่กับเขา เราก็บอกเขาว่าเราภูมิใจในตัวเขา แต่ถ้าทะเลาะกันจริงจัง ก็เคยมี แต่ไม่ได้ถึงขั้นที่ว่าตัดพ่อตัดลูก แต่เวลาทะเลาะกัน เราก็จะเป็นคนมาง้อเขาก่อน แต่เขาก็ง้อเราเหมือนกันแต่ชอบไลน์มาง้อ


ถาม แต่ช่วงนี้คงไปทะเลาะกับใครไม่ได้แล้ว เพราะลุงรงค์เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ทำคลิปออกมาจนกลายเป็นเน็ตไอดอล ลงในอินสตราแกรมวันละ 20 กว่าคลิป

จตุรงค์ : ที่เราต้องทำคลิปเยอะขนาดนั้น เพราะว่าเราไม่ค่อยมีเวลาไปที่ครัว พอได้ไปก็ทำคลิปเก็บไว้เยอะๆ เราต้องทำก็เพื่อลงเพจครัว มีคนตามเกือบล้าน เราก็ต้องมีคลิปลงให้เขาดูตลอด เขาจะได้มีความรู้สึกว่าเราอยู่ร้าน เพราะเราก็ทำงานอย่างอื่นด้วย ยังไงฝากร้านครัวลุงรงค์ด้วยนะครับ