วันนี้ (25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ซ.ศรีนครินทร์ 55 ถนนหมู่บ้านเสรีวิลล่า แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ พบว่า ไม่มีร้านมาตั้งขายของ จะมีเพียงผู้ค้าที่นำของใส่ตะกร้าวางไว้ที่ท้ายรถจักรยาน และขับเร่ขาย โดยบริเวณโดยรอบ มีรั้วเหล็กที่เจ้าหน้าที่เทศกิจนำมาตั้งไว้ เพื่อปิดกั้นการขายของ พร้อมกับติดป้ายห้ามจำหน่ายสินค้า นอกจากนี้ ยังมีป้ายติดว่า
'ผู้ค้าได้รับผลกระทบจากการปิดตลาด ตอนนี้ย้ายไปขายซอยศรีนครินทร์ 53'
หลังจากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปสำรวจยังจุดที่มีการจัดให้ผู้ค้า จาก 5 ตลาดรอบบ้านป้าทุบรถ มาขายของได้ชั่วคราว อยู่บริเวณหน้าปากซอยศรีนครินทร์ 53 พื้นที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ แต่ที่จอดรถค่อนข้างลำบาก โดยมีผู้ค้ามาตั้งร้านเต็มพื้นที่ ทั้งอาหารสดและอาหารแห้ง และมีประชาชนมาเดินซื้อของอยู่ตลอด แต่ไม่คึกคักเหมือนตอนที่อยู่ใกล้กับบริเวณสวนหลวง ร.9
ทีมข่าวได้พบกับ
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ "อี้" อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่กำลังเดินซื้อของในตลาดนี้เช่นกัน นายแทนคุณ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ปกติมาออกกำลังกายที่สวนหลวง ร.9 เป็นประจำนานกว่า 10 ปีแล้ว และซื้อของที่ตลาดใกล้ๆสวนหลวงประจำ ตนเห็นวิถีชีวิตของคนในชุมชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่จะมารวมตัวพูดคุยกัน พอไม่มีตลาด สังคมแบบเดิมก็หายไป
ขณะนี้ นายแทนคุณ จึงได้รวมตัวกับ นายประวิทย์ สมจิต เจ้าของบ้านใกล้ตลาดรุ่งวาณิชย์ ที่มักจะเปิดพื้นที่หน้าบ้านให้พ่อค้าแม่ค้ามาขายของได้ พร้อมกับทีมกฎหมาย จัดเป็นเครือข่ายฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวสวนหลวง ร.9 เพื่อรวบรวมรายชื่อชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดตลาด เพื่อจะยื่นหนังสือถึง พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้พิจารณาผ่อนผันให้ผู้ค้าสามารถค้าขายได้ ระหว่างที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา อีกทั้งจะมีการปรึกษาหารือ และพูดคุยกับบ้านที่มีผลกระทบ อย่างเช่น บ้านป้าทุบรถ รวมถึงบ้านหลังอื่นๆ เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้ทุกส่วนอยู่ร่วมกันได้
นายแทนคุณ ยังบอกอีกว่า อย่าอ่อนไหวไปกับกระแสโซเชียล ที่ขณะนี้โซเชียลเข้าข้างบ้านป้า เพราะคิดว่าตลาดนั้นผิดกฎหมาย จึงอยากบอกว่า โซเชียลอย่าฟังข้างเดียว ตนได้ปรึกษาทีมทนาย และหาข้อมูลแล้ว พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่สีเหลือง เป็นพื้นที่หนาแน่นน้อย และระบุว่า
ห้ามมีตลาด แต่ยกเว้นข้อดังต่อไปนี้ คือมีตลาดได้ แต่ต้องมีพื้นที่ประกอบการไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร ดังนั้น ควรมาหารือเพื่อทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหนึ่งชีวิตของพ่อค้าแม่ค้า สามารถกลับไปเลี้ยงคนข้างหลังได้อีกนับสิบชีวิต จึงอยากให้เห็นใจซึ่งกันและกัน
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ
นางสาวอัญธิชา อิ้งอำพันธุ์ แม่ค้าขายผัก ที่ย้ายมาขายในซอยศรีนครินทร์ 53 ซึ่งเป็นที่สำนักงานเขตประเวศ จัดให้ขายชั่วคราว บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่ตลาดถูกสั่งปิด ก็ต้องเร่ขายไปเรื่อย ไม่เป็นหลักแหล่ง ลูกค้าประจำก็หาไม่เจอ เช่นเดียวกับที่มาขายที่ตลาดนี้ ร้านค้าต้องวนที่กันไปมา ไม่มีที่ประจำ อีกทั้งยังขายไม่ดีเท่ากับที่เดิม เพราะคนไม่มาเดินที่นี่ จากแต่ก่อนที่ขายได้เป็นหลักหมื่นต่อวัน ตอนนี้ ได้แค่เพียงหลักพัน ซึ่งขาดทุนด้วยซ้ำ นอกจากนี้ ถึงแม้ผู้ค้าจะย้ายที่ขายกันแล้ว ยังพบว่าป้าทุบรถได้ส่งคนมาถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย